ทำความเข้าใจการซื้อขายทองคำอย่างปลอดภัย นอกจากทองจะเป็นเครื่องประดับสวยงามในรูปแบบทองรูปพรรณแล้วยังมีทองแท่งที่เหมาะสำหรับการออม ขณะเดียวกันทองคำยังเกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินด้วย
หลังเกิดเหตุมีผู้เสียหายจำนวนมากจากการซื้อทองออนไลน์ขณะเจ้าของร้านถูกควบคุมตัวดำเนินคดีไปแล้ว รวมถึงกรณีภรรยาตำรวจรายหนึ่งแจ้งความเอาผิดภรรยาตำรวจอีกรายว่าขโมยทองไป แต่เจ้าตัวไม่สามารถบอกถึงที่มาของทองว่าซื้อทองจากร้านไหน และมีที่มาอย่างไร
THE STANDARD สัมภาษณ์ จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ วัย 84 ปี ประธานกรรมการ บริษัท ห้างขายทองจินฮั้วเฮง จำกัด เจ้าของร้านทองบนถนนเยาวราช ผู้บอกว่าตัวเขาเองเป็นคนรุ่นเก่า เลือกใช้ชีวิตทำสมาคมค้าทองคำ ซึ่งต้องทุ่มเทเวลาจัดอบรมและประสานองค์กรภาครัฐ โดยมีเป้าหมายคือต้องการให้วงการทองคำมีความเจริญ น่าเชื่อถือทั้งในประเทศและต่างประเทศ
มองอย่างไรกับปรากฏการณ์ที่มีประชาชนเป็นผู้เสียหายจากร้านทองออนไลน์ที่เจ้าของร้านถูกควบคุมตัวดำเนินคดี เรื่องนี้เป็นปัญหาอย่างที่มีการวิจารณ์หรือไม่ ว่าผู้เสียหายมี ‘ความโลภ’ หรือผู้เสียหายขาด ‘ความรู้’ เกี่ยวกับการซื้อขายทองคำ
ร้านทองที่มีผู้เสียหายจากร้านออนไลน์ เรื่องนี้สมาคมค้าทองคำก็เป็นห่วง เราเคยเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าน่าจะมีมาตรการควบคุมดูแลที่เข้มงวด บางร้านขายทองแท้ แต่ที่แถมนั่นไม่ใช่ทอง คนที่ซื้อประมาทและอีกอย่างคือโลภ เพราะจริงๆ แล้วข้อมูลความรู้เรื่องทองคำมีราคาที่แน่นอน มีการประกาศอยู่ทุกวัน ไม่มีอะไรพิเศษกว่านั้น เราซื้อเข้าขายออกห่างกันแค่ 100 บาท
ราคาทองแท่งซื้อเข้าขายออกห่างกัน 100 บาท ส่วนทองรูปพรรณซื้อเข้าขายออกห่างกันหลายร้อยบาท มีความแตกต่างกัน ทองรูปพรรณค่ากำเหน็จต่อทองหนึ่งบาทอย่างน้อยก็ 700-800 บาท ราคาตอนซื้อกับตอนขายจึงต่างกันหลายร้อย เวลามาขายกลับทองรูปพรรณจะถูกกว่าราคาทองแท่ง
เว็บไซต์ของสมาคมก็พยายามประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และข้อมูล แล้วประกาศอยู่ทุกวัน เช่น ถ้าราคาทองขายออก 43,950 บาท ราคารับซื้อคือ 43,850 บาท ถ้าขายถูกหรือแพงกว่านี้เป็นไปไม่ได้ ผู้บริโภคต้องวิเคราะห์ ถ้าร้านไหนอ้างว่าแถมโน่นแถมนี่ จะเป็นไปได้อย่างไร ราคาทองแต่ละวันกำหนดไว้แล้ว ถ้าจะถูกกว่าเกิน 100 บาท หรือเกินเป็น 1,000 บาท ยิ่งเป็นไปไม่ได้
ในมุมของผู้บริโภคต้องพิจารณา ถ้าจะบอกว่าซื้อ 10,000 บาท แล้วได้แถมทองจริงๆ จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะได้ทองมากกว่าที่ซื้ออีก ทองแท้แต่ละชิ้นมีราคาของมัน เว้นแต่เป็นทองชุบซึ่งไม่ใช่ทอง
การร่วมมือของสมาคมค้าทองคำและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีการกำหนดว่า ร้านทองต้องแจ้งลูกค้าว่าชิ้นนี้ค่ากำเหน็จเท่าไร แล้วต้องมีโลโก้ยี่ห้อ ถ้าราคาทอง 40,000 บาท ต้องระบุให้ทราบว่าค่ากำเหน็จเท่าไร เช่น 1,000 บาท ต้องแสดงให้ทราบ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปขายราคาเกินโดยไม่บอกลูกค้า
ผมเป็นนายกสมาคม ต้องทำตัวเป็นตัวอย่าง ร้านผมแจ้งค่ากำเหน็จแต่ละถาดที่วางทองและชั่งน้ำหนักให้ดูแต่ละชิ้น ระบุน้ำหนัก เปอร์เซ็นต์ 96.5% ต้องมีระบุในชิ้นงาน มีโลโก้ผู้ผลิต ยี่ห้อจินฮั้วเฮง มีระบุหมด ทองรูปพรรณก็ระบุ ทำตามมาตรฐานที่ สคบ. ร่วมกับสมาคมค้าทองคำกำหนดออกมา สามารถตรวจสอบได้
ถ้าซื้อให้ลูกหลานหรือเก็งกำไร สามารถซื้อทองแท่งเพียวๆ 96.5% เช่นเดียวกับทองรูปพรรณ แต่ถ้าทอง 99.99% ต้องมีน้ำหนักแท่ง 1 กิโลกรัมและมาจากนอก
ส่วนทองแท่งของจินฮั้วเฮงตอนนี้ สำหรับลูกค้าที่มีเงินไม่มากก็สามารถซื้อทองแท่งที่ราคาไม่สูง มีเงินหลักพันก็สามารถซื้อได้ มี 0.3 กรัม เล็กๆ อยู่ในการ์ด และมี 1 กรัม นอกจากนี้ยังมี 5-10 บาท เหล่านี้ราคาซื้อขายเป็นทองคำแท่งไม่มีค่ากำเหน็จ เวลาขายราคาดีกว่าทองรูปพรรณ เพราะทองรูปพรรณมีน้ำประสานที่เชื่อมแต่ละข้อและมีค่าแรง
กรณีพบว่ามีการขายทองออนไลน์ในโซเชียลมีเดีย ประชาชนจะสามารถตรวจสอบอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างที่เกิดขึ้น
เดี๋ยวนี้มีร้านทองออนไลน์เปิดใหม่ ถ้าเราเห็นมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และเขาไม่ได้อยู่ในวงการทอง เราก็ไม่พิจารณาให้เป็นสมาชิกสมาคมค้าทองคำ เพราะถ้าเขาอ้างไปแล้วหลอกลวงประชาชนก็ทำให้เสียชื่อ
ก่อนหน้านี้ 2 ปี ทองไม่ค่อยมีปัญหา เพราะสมาคมค้าทองคำจะมี สคบ. ช่วยกลั่นกรองดูแลสมาชิกสมาคม
การจะเข้ามาเป็นสมาชิกสมาคม ต้องผ่านการตรวจสอบว่าร้านนี้มีแบ็กกราวด์เป็นอย่างไร ใครเป็นเจ้าของและทำอะไร จะสมัครเข้ามาต้องมีรายละเอียดพอสมควร ไม่ใช่รับสมาชิกกันง่ายๆ เพราะกลัวจะไปทำเสียชื่อ ถ้าผ่านการตรวจสอบแล้วสมาคมจะให้มีโลโก้ติดไว้หน้าร้าน ว่าเป็นสมาชิกสมาคมค้าทองคำ ซึ่งเราผลักดันกันมา
แต่เนื่องจากว่า 2 ปีที่ผ่านมา สคบ. เปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในบางอย่าง จึงยังไม่ดำเนินการต่อ ตอนนี้สมาคมพยายามประสานงานบอกว่า ถ้าเราไม่ตรวจให้เข้มงวดเกรงว่าคุณภาพจะเสื่อม
สมาคมจึงอยากให้ สคบ. มาตรวจร่วมกับสมาคม เพราะหน่วยราชการอาจไม่รู้เท่าสมาคม ขณะที่สมาคมรู้ ใครเป็นใครก็รู้หมด พาไปจี้ไปตรวจสอบก็สามารถทำได้
ถ้าเป็นสมาชิกของสมาคมร้านเขาจะมีโลโก้ติดอยู่ แสดงว่าผ่านการตรวจสอบ ได้มาตรฐาน โดยสมาคมค้าทองคำร่วมกับ สคบ. มีการตรวจสอบสินค้าที่มีมาตรฐาน และให้การรับรอง รวมถึงมีการสุ่มตรวจทั้งร้านย่อยและผู้ผลิตในแต่ละปี
สมาคมค้าทองคำแบ่งร้านทองมีทั้งขายปลีกขายส่ง นำเข้าส่งออก เรามีหลายกลุ่ม มีความเข้มงวดกับกลุ่มค้าส่ง เพราะต้นตอจะมาจากร้านขายส่ง ทุกร้านถูกตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ต้องมีทุนจดทะเบียน มีประสบการณ์ ซึ่งร้านขายส่งทั้งหมดอยู่ในเยาวราช
ส่วนร้านขายปลีกที่เป็นสมาชิกสมาคมมี 2,000 กว่าแห่ง ใช้วิธีสุ่มตรวจ เพราะคงตรวจไม่หมด แล้วร้านทองทั้งหมดทั่วประเทศมี 6,000-7,000 แห่ง บางส่วนให้ประธานชมรมแต่ละภาคช่วยกันดูแล
โครงสร้างจะมีผู้ค้าปลีกและขายส่ง เฉพาะกลุ่มเยาวราชอีกแบบหนึ่ง เพราะร้านทองทั่วไปในชานเมือง ต่างจังหวัด และรายย่อย ไม่ได้ผลิตทองเอง เขามาซื้อจากร้านขายส่งไปขาย ส่วนร้านทองในเยาวราชจะผลิตทองเอง
การทำงานจะมีการสุ่มตรวจแต่ละภาค มีการจัดสัมมนา และตรวจสอบทุกปี ถ้าไม่สุ่มตรวจบางทีจะมีพวกกระเป๋าหิ้ว ไม่ได้มาจากร้านขายส่งที่ได้มาตรฐาน เขาก็เอาทองที่ไม่ได้มาตรฐานไปขายถูกๆ แย่งลูกค้า เขาได้กำไรจากการเอาทองไม่ได้มาตรฐานมาขาย สมาคมถือว่าเรื่องมาตรฐานสำคัญมาก เราแจ้งสมาชิกสมาคมว่า ถ้ามีอะไรก็ร้องเรียนได้ เพราะเราร่วมกับ สคบ. ให้มีข้อกำหนดต่างๆ ส่วนทองคำที่ขายออนไลน์แล้วมีปัญหา ไม่ใช่ร้านที่เป็นสมาชิกของสมาคม
นัดพบรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จี้การทำงาน สคบ.
ตอนนี้จึงดำเนินการและนัดพบ จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.00 น. เพราะขณะนี้มีการผลิตทองไม่ได้มาตรฐานและมีทองปลอมเยอะ ซึ่งก็เป็นข่าว
จะไปพบรัฐมนตรีเพื่อขอความร่วมมือรัฐมนตรีให้จี้ สคบ. ให้ออกมามีแอ็กชัน เนื่องจากถ้าทิ้งนานไป มีทองไม่ได้มาตรฐานก็เสียชื่อทองในประเทศไทย ขณะที่สมาชิกสมาคมต้องทำอย่างได้มาตรฐาน
ทองต้องมีที่มาที่ไป และเกี่ยวข้องพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
เอกสารการซื้อขายที่เห็นออกมาอย่างเป็นทางการ เดี๋ยวนี้มีการใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์ออกมาสะดวกสบาย สมัยก่อนอาจใช้มือเขียน เอกสารสมัยก่อนจึงดูไม่ทันสมัยเหมือนปัจจุบัน
เอกสารใบเสร็จรับเงินที่ลูกค้าได้รับนี้ มีเหตุผลมาจากการซื้อขายทอง เราก็ต้องแจ้งสรรพากร ต้องออกบิลกำกับภาษี เราต้องเสียภาษีให้สรรพากร จึงต้องมีบิลเหล่านี้
ที่มาของทองต้องมี สมมติผมนำเข้ามา 10 กิโลกรัม แล้วผมนำมาขายโดยไม่มีผู้ซื้อ ที่มาที่ไปอ้างอิงไม่ได้ ก็เป็นไปไม่ได้ ซื้อมาเท่าไร เหลือเท่าไรก็ต้องมีบัญชี
ผู้บริโภคหรือลูกค้าที่ซื้อทองจะได้รับบิล แต่เวลาเอามาขายคืนอาจไม่ต้องเอาบิลมา เพียงแต่ร้านจะขอบัตรประชาชนมาบันทึกว่ารับซื้อมาเป็นการอ้างอิง
ส่วนกฎหมายฟอกเงินมีมานานแล้ว และทองคำมีความล่อแหลม เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง ส่วนใหญ่มิจฉาชีพจะใช้ช่องทางซื้อทองไปฟอกเงิน เพราะฉะนั้นเวลาเรา KYC ยืนยันตัวตนลูกค้ามาที่ซื้อ เราต้องตรวจสอบ ต้องดูแลให้เรียบร้อย
แล้วเงินที่เข้ามา เราต้องรายงานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ถ้าสงสัย เช่น มาซื้อ 2 ล้านบาท ต้องแจ้ง แต่ว่ากรณีถ้าเราสงสัยก็ไม่จำเป็นต้องถึง 2 ล้านบาท แม้ไม่ถึง 2 ล้านบาทก็ต้องแจ้ง เพราะถ้าเกิดมีความผิดขึ้นมาร้านทองเดือดร้อน กฎหมายเข้มงวด ถ้าผิดพลาดถูกปรับเป็นแสนได้ กฎหมายฟอกเงิน ปปง. เข้มงวดเรื่อง KYC
ร้านเราทำถูกต้องหมด เราแจ้ง ปปง. กรณีคนแปลกหน้าหอบเงินมาเยอะๆ ไม่รู้มาจากไหน ค้าอะไรมา ถ้ารู้จักกันแล้วก็ไม่เป็นไร แจ้งทีเดียวก็โอเคแล้ว ไม่จำเป็นต้องแจ้งทุกครั้ง
ร้านบางแห่งถูกอายัด ถูกปรับด้วย แต่ร้านผมไม่เจอแบบนั้น เพราะผมเป็นนายกสมาคม ต้องทำตัวเป็นตัวอย่างให้กับทุกร้าน ต้องแนะนำทุกร้าน เวลาไปเปิดงานอบรม ผมก็ต้องไปทุกครั้ง ทุกภาค ต่างจังหวัดก็ไป อบรมร่วมกับ ปปง. ให้ความรู้ หมุนเวียนทุกภาค
บางกรณีไม่ถึง 2 ล้านบาท เราก็รายงาน ถ้าเขาเอาเงินที่มีปัญหามาซื้อผมก็เดือดร้อน นอกจากถูกอายัดแล้วยังต้องถูกปรับด้วย ร้านทองต้องรับผิดชอบ ถึงได้บอกว่าต้องอบรมพนักงานขาย
สคบ. ขอความร่วมมือสมาคม เราจัดอบรมเจ้าหน้าที่พนักงานให้ดูลักษณะลูกค้า KYC รายงานธุรกรรม เวลานี้อบรมไปแล้ว 6 รุ่น อบรมร่วมกับ ปปง. ด้วย เพื่อจะได้ทราบว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร
ทำไมไม่โชว์ความหรูหราอย่างคนทำธุรกิจต่างๆ รวมถึงทองคำในโลกออนไลน์ ที่เขามักจะอวดความร่ำรวย มีรถหรู ทั้งที่อยู่ในฐานะที่ทำได้แต่ไม่ทำแบบนั้น
จริงๆ การอวดรวยเป็นอันตรายแก่ตัวเองมากกว่านะ ผมว่าก็เห็นอยู่ คนที่ไปอวดรวยมีเจตนาอะไร
ผมเป็นที่รู้จักไม่เฉพาะในเมืองไทย เพราะต่างประเทศก็รู้จักผมดี รู้จักผมหมด ผมเปิดร้านจินฮั้วเฮงมาตั้งแต่ปี 2523 ตอนนี้ 40 กว่าปีแล้ว ผมอยู่วงการค้าทองมานาน ก่อนเปิดร้านผมก็ทำงานกับร้านทองตั้งแต่อายุ 15 ปี ตอนนี้อายุ 84 ปีแล้ว
ผมรู้ข้อมูลตั้งแต่เริ่มต้นจนปัจจุบัน เราไปศึกษางานต่างประเทศ เขาก็มาศึกษาเรา แล้วเราก็พัฒนาสมาคมค้าทองคำ มีรายละเอียดออกมาเยอะ จนทุกคนเขาบอกว่าระบบไทยดีที่สุด ขณะที่บางประเทศทำไม่ได้
คนไทยก็นิยมซื้อทอง เดี๋ยวนี้ทองแพงคนอาจซื้อน้อยลง สมัยก่อนใครๆ ก็ซื้อทอง ช่วงก่อนโควิด ราคาทอง 20,000 กว่าบาทต่อทองหนึ่งบาท ถ้ามีเงินเหลือก็ซื้อเก็บออม แล้วบางคนซื้อทองห้อยพระ ทุกคนมีทองในตัว ไม่ว่าจะมีเงินหรือไม่มีเงินก็จะมีทองในตัว มีความเชื่อเรื่องความเป็นสิริมงคลด้วย งานมงคลอย่างงานแต่งงานจึงใช้ทองคำ
ถ้าคนรวยอาจใช้เพชรแพงๆ แต่คนทั่วๆ ไปใช้ทองคำ ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมั่งคั่ง อย่างสมัยประเทศเพื่อนบ้านมีสงคราม เงินตราในประเทศเขาใช้ไม่ได้ สิ่งที่ติดตัวมาจึงเป็นทองคำ ถ้าเดินทางไปทั่วโลกที่ไหนก็เปลี่ยนทองคำเป็นเงินได้ทันที ถ้าเอาเงินออกมาขณะที่เงินของประเทศไม่ได้รับการยอมรับเพราะมีสงคราม การใช้ทองคำจะถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ดี
สมัยก่อนร้านทองในไทยมีหมื่นกว่าแห่ง คึกคัก ขายดี ปีใหม่ตรุษจีน ขายกลางคืนด้วย เมืองไทยคนนิยมทองคำ แต่ตอนนี้ทองบาทละ 40,000 กว่าบาท ไม่มีเงินซื้อแล้ว สมัยผมเข้าสู่วงการทองคำบาทละ 300 กว่าบาท ตอนผมอายุ 15 ปี ประมาณ 69 ปีก่อน
เมื่อราคาทองสูงขึ้นขนาดนี้ น่าจะแปลว่าคุณรวยขึ้นเยอะเลยจากมูลค่าทองที่มี
ผมก็คิดว่าร้านทองเก่าแก่ทุกร้านคงรวยกันทุกคน ถ้าเอาทองไปขายแล้วเลิกกิจการ แต่ถ้าไม่ปิดร้าน เราต้องดูว่าเราเหลือทองน้ำหนักเท่าไร ไม่คิดเป็นมูลค่า ซึ่งก็มีร้านทองปิดตัวไปพอสมควร บางร้านลูกหลานไม่ทำต่อ เพราะเดี๋ยวนี้ทองขายไม่ดีและมีราคาสูง
ถ้าจะมีคนเจ็บตัวเพราะทองจะเป็นกรณีไหน
ถ้าซื้อทองจริงๆ จะไม่เจ็บตัว ถ้าซื้อขายจากร้านทองจริงๆ เก็บไว้อย่างไรก็ไม่ขาดทุน เพราะถ้าราคายังไม่กำไรก็เก็บทองไว้กับตัวได้ คนออมทองซื้อชิ้นเล็กๆ ยังเห็นทอง ดีกว่าซื้อแล้วไม่เห็นทอง
คนที่เจ็บตัวคือไปเก็งกำไร เป็นคนละตลาดที่แตกต่างจากทองจริงๆ นั่นคือตลาดซื้อล่วงหน้า ซื้อ Futures พวกนี้ไม่ใช่ทองจริงๆ มีเงินน้อยแต่อยากได้กำไรเยอะๆ ไปซื้อเยอะ ไม่ใช่การซื้อทองจริง กลุ่มที่เล่นตลาดล่วงหน้าจะเป็นอีกตลาด เดี๋ยวนี้มีคอมพิวเตอร์ ทั่วโลกซื้อที่ไหนมีตัวเลขขึ้นในคอมพิวเตอร์หมด รู้ว่าซื้อเท่าไร
เมื่อไปซื้อแล้วใครขาย มันต้องมีเจ้ามือ เหมือนไปเล่นการพนัน เล่นคาสิโน เหมือนเป๊ะเลย ไปแทงแล้วใครรับ ก็ต้องมีเจ้ามือนายทุนใหญ่ ถ้าเทียบกับเล่นไฮโลยังมีเขย่านะ แต่นี่ไม่ใช่เลย เพราะเจ้ามือมองเห็น ถ้าเขาจะต้องเสียเขาจะยอมเสียไหม ถ้าน้อยๆ ก็เลี้ยงไว้แล้วพอโตก็ฆ่าทีเดียว เพราะฉะนั้นถ้าทุกคนแห่ไปซื้อรับรองพลิกล็อก เพราะเขาไม่ยอมเสียหรอก
ตอนนี้สถานการณ์โลกมีสงคราม มีเหตุการณ์การเมืองระหว่างประเทศและภายในประเทศต่างๆ ทุกคนก็วิเคราะห์เหมือนกันหมด ทองต้องขึ้น แต่ผมมองว่าเป็นเรื่องไม่แน่หรอก ถ้าใครวิเคราะห์แบบนี้ก็มีโอกาสพลิกล็อก โดยเฉพาะตลาดล่วงหน้า ถ้าไปเก็งกำไรมีความเสี่ยงสูง ต่อให้ลูกค้าวิเคราะห์ถูก แต่ถ้าเจ้ามือเขาต้องจ่ายเงินทุกทีจะเป็นไปได้ไหม มันคนละตลาดกัน
บางทีเจ้ามือเขาปล่อยข่าว ตลาดที่เล่นเป็นการพนันแบบนี้ทุนใหญ่จะกินทุนเล็ก นานๆ ทีจะพลิกล็อก ถ้าพลิกบ่อยก็ไม่มีใครเล่น อันนี้เป็นการยกตัวอย่าง
ปีนี้ราคาทองขึ้นสูง
ตอนแบงก์ Lehman Brothers ล้ม ทองก็เริ่มขยับขึ้นมา คนมีเงินมองว่าขนาดแบงก์ปลอดภัยยังเจ๊งได้ ตอนนั้นทองไม่แพง คนจึงมาลงทุนทองคำ กลัวแบงก์ล้ม ถ้าแบงก์มีปัญหาทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยสุด
ส่วน 2-3 ปีนี้ทองก็ขึ้นมา โดยเฉพาะปีนี้ขึ้นมาเร็วสุด เพราะมีสงครามระหว่างประเทศต่างๆ แบงก์ชาติหลายประเทศลดการถือเงินดอลลาร์ หลายประเทศทั่วโลกจะพิมพ์พันธบัตรต้องเอาทองคำเป็นทุนสำรอง ยกเว้นสหรัฐอเมริกา
หลังๆ เมื่อเกิดสงคราม เมื่อสหรัฐอเมริกาเลือกข้างช่วยยูเครน หลายประเทศขยับขายดอลลาร์แล้วเก็บเป็นทองคำ ทำให้คนต้องการทองคำมากขึ้น 2-3 ปีนี้ราคาทองจึงพุ่งขึ้นมาอย่างแรง
ปีนี้ตั้งแต่ต้นปีขึ้นมาหมื่นกว่าบาทแล้ว ขึ้นมาเยอะที่สุดโดยเฉพาะเดือนตุลาคม
ถ้าราคาทองแพง เป็นไปได้ไหมที่ร้านของคุณจะปิดร้าน ไม่รับซื้อทอง เพราะมีบางร้านปิดไปเลย
ร้านผมปิดไม่ได้ ถ้าปิดก็เสียชื่อนะ เราต้องมีความน่าเชื่อถือ
ทำไมคุณเลือกใช้ชีวิตแบบนี้ คือทำงานสมาคม จัดอบรม ต้องทุ่มเทกำลังและเวลา ซึ่งคนรุ่นใหม่หลายคนไม่ทำ
ผมเป็นคนรุ่นเก่า เราบริหารมา คิดว่าถ้าอยู่ในวงการนี้ก็อยากจะให้วงการนี้เจริญ ผมเป็นนายกสมาคมค้าทองคำคนเดียวมา 41 ปี ความเชื่อถือในต่างประเทศมีเยอะ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ
