×

ศึกฟู้ดเดลิเวอรีแข่งเดือด! Gojek ไทยเปิดตัวแล้ว ชูกลยุทธ์ Localized ระยะยาวเน้น ‘ความยั่งยืน’ มากกว่าอัดโปร

16.09.2020
  • LOADING...

หลังจากที่ประกาศข่าวการรีแบรนด์จาก GET สู่ ‘Gojek (โกเจ็ก)’ มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ Gojek ประเทศไทยจะได้ฤกษ์เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงการเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มสู่ Gojek อย่างเป็นทางการเสียที โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา (06.00 น.) พวกเขาเพิ่งเปิดให้ผู้ใช้งานในไทยเริ่มใช้บริการอย่างเต็มรูปแบบบนแพลตฟอร์มของ Gojek ได้แล้ว

 

สำหรับบริการของ Gojek ประเทศไทยในปัจจุบัน ประกอบด้วย บริการส่งอาหาร (GoFood-โกฟู้ด), บริการเรียกรถจักรยานยนต์ (GoRide-โกไรด์), บริการรับส่งพัสดุ (GoSend-โกเซนด์) และบริการอีวอลเล็ตหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (GoPay-โกเพย์) ซึ่งในอนาคตจะมีการอัปเกรดฟีเจอร์อื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อลดข้อจำกัดในชีวิตประจำวัน ช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้บริการ และความปลอดภัยในการใช้งาน

 

Gojek ระบุว่า เหตุผลของการรีแบรนด์ครั้งนี้มาจากการที่ GET (เก็ท) ได้ประกาศรวมแอปพลิเคชันและแบรนด์ไว้ภายใต้ Gojek ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทในการสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืน และเร่งสร้างนวัตกรรมสำหรับผู้ใช้บริการในประเทศไทย (GoViet (โกเวียต) ซึ่งเป็นกิจการของ Gojek ในเวียดนามก็เปลี่ยนแบรนด์เป็น Gojek ไปเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมาเช่นกัน)  

 

เควิน อลูวี และ อันเดร โซลิสต์โย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ Gojek ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ THE STANDARD โดยบอกว่า ความตั้งใจหลักๆ และพันธกิจของ Gojek ยังเหมือนเดิม นั่นคือการสร้างแพลตฟอร์มและพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ออกมาเพื่อมุ่งหวังลดข้อจำกัด แก้ไขเพนพอยต์ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคชาวไทยให้ได้มากที่สุด

 

ที่สำคัญ กลยุทธ์การ Localized ให้อำนาจกับทีมงานโลคัลในประเทศไทยพัฒนาบริการต่างๆ ออกมาให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยให้ได้ตรงจุด ตรงความต้องการ และมีความยูนีกในแบบฉบับของตัวเอง (ให้อำนาจบริหารของทีมงานท้องถิ่นแต่ละประเทศเต็มที่) ก็ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารงานตามแบบฉบับของ Gojek ตามเดิม

 

ส่วนประเด็นการแข่งขันในตลาดฟู้ดเดลิเวอรี และการใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อการโปรโมตทำการตลาดดึงดูดผู้ใช้งานให้มาใช้บริการบนแพลตฟอร์มนั้น (Cash burn) ซีอีโอร่วมของ Gojek มองว่า ตลาดไทยถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันของธุรกิจแพลตฟอร์ม และฟู้ดเดลิเวอรีสูงมากโดยเฉพาะในระดับอาเซียน แต่จุดชี้วัดของผู้ชนะในเกมนี้คือ ‘ความสามารถในการแก้ไขปัญหาเพนพอยต์ของผู้บริโภค’ ที่ยิ่งใครทำได้ดีกว่าก็มีโอกาสที่จะเป็นผู้ชนะในเกมนี้ในท้ายที่สุด

 

ส่วนการทุ่มงบการตลาดเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานให้มาลองใช้แพลตฟอร์ม เควินและอันเดรให้ความเห็นตรงกันว่าเป็น ‘เรื่องธรรมดา’ ที่แต่ละแพลตฟอร์มผู้ให้บริการจะต้องเดินเกมด้วยกลยุทธ์นี้ในตอนต้น อย่างไรก็ดี ในระยะยาว Gojek ไม่ได้เชื่อในเรื่องของการทำการตลาดด้วยการอัดโปรโมชันเสมอไป แต่จะให้ความสำคัญในการต่อเติมแพลตฟอร์มด้วยฟีเจอร์และบริการใหม่ๆ ที่แก้ปัญหาผู้ใช้บริการได้จริงเป็นหลัก ตลอดจนเน้นหนักไปที่การให้บริการด้วย ‘ความยั่งยืน’

 

ด้าน ภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ Gojek ประเทศไทย กล่าวว่า “ผู้ใช้บริการ พาร์ตเนอร์คนขับ และพาร์ตเนอร์ร้านอาหารของเรา คือหัวใจสำคัญของก้าวต่อไปที่น่าตื่นเต้นในครั้งนี้ ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนแบรนด์ แต่คือการนำซูเปอร์แอปฯ ใหม่ถึง 3 ตัวด้วยกันเข้ามาสู่ประเทศไทย ทั้งแอปฯ Gojek สำหรับผู้ใช้บริการ แอปฯ GoPartner สำหรับคนขับ และแอปฯ GoBiz สำหรับร้านอาหาร ซึ่งแต่ละแอปฯ พัฒนาด้วยเทคโนโลยีล้ำระดับโลก ที่จะช่วยให้เราสามารถพัฒนาและนำเสนอบริการใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว รวมถึงเอื้อให้เราสามารถปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ให้ลงตัว เข้ากับความต้องการและความจำเป็นของผู้ใช้ชาวไทยได้ดียิ่งขึ้น

 

“ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและสนับสนุนเราอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงที่เราเริ่มต้นในฐานะ GET และในก้าวแรกของเราในฐานะ Gojek เราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพาร์ตเนอร์คนขับกว่า 50,000 คน พาร์ตเนอร์ร้านอาหารกว่า 30,000 ราย รวมถึงพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของเราอย่าง ธนาคารไทยพาณิชย์ เดอะมอลล์กรุ๊ป และอีกมากมาย องค์ประกอบทั้งหมดนี้จะช่วยยกระดับความสำเร็จของเราขึ้นไปอีกขั้น สามารถมอบประสบการณ์ของผู้ใช้งานที่ดียิ่งกว่า สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้อย่างรวดเร็วขึ้น และช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนในประเทศไทยได้ต่อเนื่องในอนาคต”

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising