Reuters รายงานอ้างอิงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และข้อมูลด้านสภาพภูมิอากาศจากทั่วโลกที่พบว่า ฤดูร้อนปี 2024 ที่กำลังเริ่มต้นขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก จะเผชิญกับคลื่นความร้อนจัดถึงขั้นที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
รายงานระบุว่า คลื่นความร้อนมรณะกำลังคร่าชีวิตผู้คนในเมืองต่างๆ ของ 4 ทวีปทั่วโลก ในช่วงเวลาที่ซีกโลกเหนือเป็นวันแรกของฤดูร้อน โดยคลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นถือเป็นสัญญาณว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีส่วนผลักดันให้ความร้อนพุ่งสูงทำลายสถิติสูงสุด และอาจแซงหน้าฤดูร้อนที่แล้วซึ่งร้อนที่สุดในรอบ 2,000 ปี
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งประเมินว่า อุณหภูมิที่บันทึกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยหรือหลายพันคนทั่วเอเชียและยุโรป โดยมีรายงานว่า ในซาอุดีอาระเบีย ผู้แสวงบุญชาวมุสลิมเกือบ 2 ล้านคน กำลังประกอบพิธีฮัจญ์ที่มัสยิดหลวงในนครเมกกะในสัปดาห์นี้ แต่หลายร้อยคนเสียชีวิตระหว่างการเดินทาง ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงกว่า 51 องศาเซลเซียส ขณะที่แหล่งข่าวทางการแพทย์และความมั่นคงของอียิปต์กล่าวกับ Reuters ว่า ผู้แสวงบุญชาวอียิปต์อย่างน้อย 530 คน เสียชีวิตขณะเข้าร่วมพิธี โดยเพิ่มขึ้นจาก 307 คนตามรายงานเมื่อวานนี้ โดยมีผู้สูญหายอีก 40 คน
ขณะที่รายงานของหอดูดาวโลกขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ หรือ NOAA ระบุว่า ประเทศรอบๆ แถบเมดิเตอร์เรเนียนยังต้องอดทนต่ออุณหภูมิที่ร้อนจัดไปอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งส่งผลให้เกิดไฟป่าตั้งแต่โปรตุเกสไปจนถึงกรีซ และตามแนวชายฝั่งทางตอนเหนือของแอฟริกาในแอลจีเรีย
ด้านเซอร์เบีย นักอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียสในสัปดาห์นี้ เนื่องจากลมจากแอฟริกาเหนือพัดผ่านแนวร้อนผ่านคาบสมุทรบอลข่าน หน่วยงานด้านสุขภาพประกาศเตือนภัยสภาพอากาศสีแดง และแนะนำประชาชนอย่าออกไปข้างนอก ส่วนหน่วยบริการฉุกเฉินของกรุงเบลเกรด เมืองหลวงของเซอร์เบีย รายงานว่า อากาศร้อนมีผลต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัว ยืนยันได้จากทีมแพทย์ฉุกเฉินในกรุงเบลเกรด ที่ต้องรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจและสุขภาพเรื้อรังมากถึง 109 คนภายในช่วง 1 คืนที่ผ่านมา
ส่วนมอนเตเนโกร เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ออกมาเตือนประชาชนให้อยู่ในที่ร่มจนถึงช่วงบ่ายแก่ๆ ขณะที่นักท่องเที่ยวอีกหลายหมื่นคนแห่กันไปแสวงหาความสดชื่นบนชายหาดตามแนวชายฝั่งเอเดรียติก
รายงานระบุว่า ในปีนี้ยุโรปต้องเผชิญกับตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมากท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว โดยล่าสุดตำรวจได้จ่ายเงินชดเชยให้กับครอบครัวชาวอเมริกันวัย 55 ปี ซึ่งพบว่าเสียชีวิตบนเกาะมาธรากีของกรีซ นับเป็นการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวคนที่ 3 ในรอบสัปดาห์
ข้ามฟากมาที่สหรัฐอเมริกา มีรายงานว่า พื้นที่กว้างใหญ่ทางตะวันออกของสหรัฐฯ ก็กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนจัดเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ภายใต้โดมความร้อน หรือ Heat Dome ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อความกดอากาศสูงกักความร้อนไว้ ป้องกันไม่ให้อากาศเย็นเข้าไป และทำให้อุณหภูมิพื้นดินลดลง
ส่วนนครนิวยอร์กได้วางแผนเปิดศูนย์ทำความเย็นฉุกเฉินในห้องสมุด ศูนย์ผู้สูงอายุ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ในขณะที่โรงเรียนในเมืองเปิดตามปกติ หลายเขตในเขตชานเมืองโดยรอบส่งนักเรียนกลับบ้านเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงความร้อน ขณะที่นักอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนเรื่องความร้อนจัดในพื้นที่บางส่วนของรัฐแอริโซนา รวมถึงเมืองฟีนิกซ์ พร้อมคาดว่าอุณหภูมิจะสูงถึง 45.5 องศาเซลเซียส
อ้างอิง: