เกิดอะไรขึ้น:
เย็นวานนี้ (28 ตุลาคม) บมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) รายงานกำไรสุทธิที่ 456 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%YoY แต่ลดลง 10%QoQ ต่ำกว่าตลาดคาด 10% โดยรายได้ไตรมาส 3 ปี 2563 ลดลง 1%YoY เนื่องจากยอดขายสาขาเดิม (SSS) ลดลง 5.6%YoY ซึ่งเกิดจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ รวมถึงไม่มีการเปิดสาขาใหม่ในไตรมาส 3 ปี 2563 ทำให้จำนวนสาขาปัจจุบันยังอยู่ที่ 69 สาขา
ด้านอัตรากำไรขั้นต้น 3Q63 เพิ่มขึ้น 170 bps YoY อยู่ที่ 22.7% โดยเกิดจากการเพิ่มขึ้นในสัดส่วนสินค้า Private Brand ที่ให้อัตรากำไรสูง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนสำคัญให้กำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2563 เพิ่มขึ้น YoY แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดลง 120 bps QoQ ซึ่งเกิดจากการจัดโปรโมชันลดราคาเพื่อดึงดูดลูกค้าในช่วงที่ Sentiment ตลาดอ่อนแอ
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (29 ตุลาคม) ราคาหุ้น GLOBAL ปรับตัวลง 7.45%DoD สู่ระดับ 17.40 บาท (ข้อมูลราคา ณ เวลา 12.30 น.)
มุมมองระยะสั้น:
สำหรับแนวโน้มกำไรไตรมาส 4 ปี 2563 SCBS มองว่า จะยังคงอ่อนแอทั้ง YoY และ QoQ โดยมีสาเหตุจากยอดขายสาขาเดิม (SSS) ที่อ่อนแอ และอัตรากำไรขั้นต้นที่แคบลง YoY เนื่องจากกำลังซื้อและ Sentiment ที่อ่อนแอ สำหรับมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายด้วยการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาผ่านโครงการ ‘ช้อปดีมีคืน’ ด้วยการซื้อสินค้าและบริการไม่เกิน 30,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563 จะช่วยกระตุ้นให้ยอดขายสาขาเดิม (SSS) หดตัวน้อยลง โดยอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ 3Q63
มุมมองระยะยาว:
ทั้งนี้ ต้องติดตามแผนขยายสาขาของ GLOBAL ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนต่อผลประกอบการในระยะยาว โดย GLOBAL ตั้งเป้าขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ 7 สาขาต่อปีในระยะเวลา 3-5 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับความต้องการเพิ่มขึ้น รวมถึงติดตามการฟื้นตัวของกำลังซื้อ เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ยอดขายสาขาเดิม (SSS) ปรับตัวดีขึ้น
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล