บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการจากเมืองบอสตันอย่าง Bain & Company ได้คาดการณ์ถึงยอดขายโดยรวมของสินค้าลักชัวรีทั่วโลกประจำปี 2021 พบว่า สถานการณ์กลับมาดีขึ้นจากปีที่แล้ว และสร้างยอดขายโดยประมาณสูงกว่าของปี 2019 ก่อนโควิด ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศในหลายประเทศ
โดยทางบริษัทได้ประมาณตัวเลขไว้ที่ 283,000 ล้านยูโร หรือเกือบ 10.6 ล้านล้านบาท ซึ่งกลับมาฟื้นตัวจากปี 2020 ที่วิกฤตโควิดส่งผลกระทบทางด้านยอดขายของสินค้าลักชัวรีเข้าอย่างจังที่ทำไว้ที่ 220,000 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 31% ตามอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ และแซงหน้าปี 2019 ในสถานการณ์ปกติที่ 281,000 ล้านยูโร หรือ 4% ตามอัตราแลกเปลี่ยนคงที่
หนึ่งในเหตุผลที่ทาง Bain & Company กล่าวว่ามีผลต่อยอดขายที่สูงขึ้นมาจากตัวเลขการฉีดวัคซีนที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่สามารถแซงหน้าทวีปยุโรปขึ้นมาเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดได้ รวมไปถึงการเปลี่ยนกลยุทธ์ของหลายแบรนด์ที่ปรับมาเจาะตลาดลูกค้าในประเทศมากขึ้น และกระจายไปยังเมืองต่างๆ นอกเหนือจากเมืองศูนย์กลางของภูมิภาค แทนการพึ่งพาตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เป็นแรงกระตุ้นสำคัญของยอดขายแบบที่ผ่านมา
ส่วนประเทศจีนที่ยังไม่มีนโยบายอนุญาตให้ประชาชนเดินทางเข้าออกนอกประเทศ ยอดขายจากออนไลน์และการที่แบรนด์ใหญ่ๆ ต่างพากันไปจัดโชว์ในประเทศยังมีส่วนช่วยให้ประเทศมหาอำนาจนี้ยังคงเป็นตลาดสำคัญที่สร้างเม็ดเงินให้กับแบรนด์
ส่วนทวีปยุโรป ซึ่งเป็นศูนย์กลางของวงการแฟชั่นที่มีเมืองใหญ่ๆ ทั้งปารีสและมิลาน ทางบริษัทได้คาดการณ์ว่าอาจจะต้องรอถึงปี 2024 กว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ ถึงแม้ว่าจะมีการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงพักร้อนที่ผ่านมาแล้วก็ตาม
ปี 2020 อาจเป็นฝันร้ายของวงการแฟชั่น แต่ในปี 2021 และในอนาคต เราได้เห็นการปรับตัวของเครือแฟชั่นยักษ์ใหญ่และแบรนด์ไฮเอนด์อย่างเห็นได้ชัด ทั้งการจัดป๊อปอัพตามที่ต่างๆ และอัดฉีดอีคอมเมิร์ซให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น ออกคอลเล็กชันพิเศษมากมาย และจัดโชว์นอกตารางแฟชั่นวีคในต่างประเทศถี่และหลากหลายมากขึ้น
ภาพ: Stephane Cardinale – Corbis / Corbis via Getty Images
อ้างอิง: