Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี งานภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา (บอดี้..ศพ#19) เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์จากค่าย GDH ที่มาพร้อมกับบิ๊กไอเดียระดับน่าสนใจและแข็งแรงมากๆ ด้วยการตั้งคำถามง่ายๆ ว่า ‘จะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีคนตัดสินใจเดินเข้าไปหาผีแล้วถามว่า ‘โลกหลังความตายมีอยู่จริงหรือไม่’ จึงเกิดเป็น Ghost Lab ที่หยิบนำเรื่องราวความเชื่ออย่าง ‘ผี’ มาท้าพิสูจน์ด้วยทฤษฎีทาง ‘วิทยาศาสตร์’
Ghost Lab บอกเล่าผ่านเรื่องราวของ วี (ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร) และ กล้า (ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต) สองนายแพทย์หนุ่มที่ได้เผชิญหน้ากับ ‘ผี’ ภายในโรงพยาบาลเข้าโดยบังเอิญ ทั้งคู่จึงตัดสินใจร่วมมือกันหาทางพิสูจน์ว่าผีมีอยู่จริงหรือไม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อนำผลการวิจัยลงตีพิมพ์ในนิตยสารวิทยาศาสตร์ระดับโลก แต่ดูเหมือนว่าความคลั่งไคล้ในการทดลองของพวกเขาจะเริ่มถลำลึกลงไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นความหมกมุ่นเกินกว่าใครจะจินตนาการถึง
อย่างไรก็ตาม แม้เราจะกล่าวว่า Ghost Lab จัดอยู่ในหมวดของภาพยนตร์แนวสยองขวัญ แต่สิ่งที่ทำให้ Ghost Lab แปลกและแตกต่างไปจากภาพยนตร์ไทยในหมวดเดียวกันคือกลวิธีนำเสนอที่มีส่วนผสมของภาพยนตร์แนวสืบสวน ซึ่งเราคิดว่าผู้กำกับภาพยนตร์อย่าง กอล์ฟ ปวีณ ค่อนข้างปรุงแต่งรสชาติของความสยองขวัญและสืบสวนออกมาได้ลงทีเดียว
จุดเด่นข้อแรกที่เราชื่นชอบเป็นการส่วนตัว คือการพาผู้ชมไปทำความรู้จักตัวละครหลักอย่างวีและกล้าในช่วงต้นเรื่องได้กระชับฉับไวและครบถ้วน ไล่เลียงตั้งแต่ วี นายแพทย์หนุ่มสุดเนิร์ดผู้ยึดมั่นในทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์อย่างหมดใจ และมองว่าไสยศาสตร์ที่พิสูจน์ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องไร้สาระ และ กล้า นายแพทย์ผู้มีนิสัยกล้าหาญสมชื่อ และพร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาคำตอบในสิ่งที่ตัวเองสงสัย
รวมถึงการปูปมของตัวละครที่ผลักดันให้ทั้งคู่ต่างสงสัยใคร่รู้และต้องการพิสูจน์ว่าผีมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อให้ผู้ชมสามารถเข้าใจในการตัดสินใจของตัวละครได้ตลอดทั้งเรื่อง
และอย่างที่เรากล่าวไว้ในตอนต้น Ghost Lab มีส่วนผสมของภาพยนตร์แนวสืบสวนอยู่ด้วย โดยเฉพาะบรรยากาศที่วีและกล้าต่างพร้อมใจพูดศัพท์เทคนิคกันรัวๆ แบบไม่เกรงใจผู้ชม (สำหรับใครที่ยังไม่ได้ชมมาก่อน ให้ลองนึกภาพซีรีส์ Sherlock อีพีแรก เวอร์ชันพูดช้าลงมาหน่อย) ซึ่งถ้าใครที่ทำงานเกี่ยวกับการแพทย์หรือมีความรู้ด้านศัพท์ทางวิทยาศาสตร์อยู่บ้าง เราคิดว่าพวกคุณน่าจะสนุกกับภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่น้อยทีเดียว
นอกจากนี้สิ่งที่เราชื่นชอบมากๆ คือการที่กอล์ฟและทีมเขียนบทสามารถเชิญชวนให้ผู้ชมคิดตามและตั้งสมมติฐานไปพร้อมกับวีและกล้า ซึ่งเป็นการดึงความสนใจของผู้ชมในการติดตามเรื่องราวการทดลองของทั้งคู่ได้ตลอดทั้งเรื่อง
ขณะเดียวกันกอล์ฟก็ไม่ลืมที่จะใส่รสชาติของภาพยนตร์สยองขวัญควบคู่ลงไปด้วย ทั้งบรรยากาศและจังหวะจะโคนในการตัดต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกใช้ Long Take แบบสั้นๆ ในฉากที่ควรใช้เพื่อดึงบรรยากาศชวนสยองให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เรียกว่าเป็นการผสมผสานรสชาติของภาพยนตร์สยองขวัญและสืบสวนที่กลมกล่อมทีเดียว
และสิ่งที่เราไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ คือการแสดงอันยอดเยี่ยมของ ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร และ ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต ผู้สวมบทบาทเป็นวีและกล้าได้อย่างถึงแก่น โดยเฉพาะการถ่ายทอดความคลุ้มคลั่งของตัวละครที่พยายามพิสูจน์ว่าผีมีตัวตนอยู่จริงๆ รวมถึง ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ผู้รับบทเป็น ใหม่ ที่แม้ว่าจะปรากฏตัวออกมาไม่บ่อยนัก แต่ภาพยนตร์ก็มีช่วงที่เปิดโอกาสให้เธอได้พิสูจน์ความสามารถทางการแสดงออกมาอย่างเต็มที่ไม่แพ้ตัวละครหลัก ซึ่งเราเชื่อว่าบทบาทของพวกเขาและเธอใน Ghost Lab จะเป็นอีกหนึ่งผลงานที่อยู่ในความทรงจำของแฟนๆ อย่างแน่นอน
แม้ว่าภาพยนตร์จะมีจุดที่ชวนให้เรารู้สึกติดขัดบ้างในบางช่วง แต่ในภาพรวมแล้ว Ghost Lab นับว่าเป็นภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญอีกหนึ่งเรื่องที่พยายามจะปรุงแต่งรสชาติใหม่ๆ ให้เราได้ลองชม ทั้งกลวิธีนำเสนอที่ชวนให้ผู้ชมคิดตามตลอดเวลาและการแสดงอันยอดเยี่ยมของเหล่านักแสดงนำ ซึ่งเราขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ยืนยันว่า Ghost Lab คือภาพยนตร์สยองขวัญที่คนกลัวผีก็สามารถดูสนุกได้อย่างแน่นอน
จนบางทีเราก็แอบเสียดายเล็กๆ ว่าหากเราได้ชม Ghost Lab เรื่องนี้ในบรรยากาศของโรงภาพยนตร์ละก็ มันคงจะสนุกถึงใจมากกว่าการดูผ่านจอเล็กๆ อยู่ไม่น้อยทีเดียว
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า