รู้จัก Novo Nordisk บริษัทยาที่ดันตลาดหุ้นเดนมาร์กจนให้ผลตอบแทนสูงสุดในโลก

ตลาดหุ้นของเดนมาร์กให้ผลตอบแทนมากถึง 15.95% ต่อปี ซึ่งเป็นตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในโลกตลอด 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2009 – วันที่ 31 มีนาคม 2024) จากข้อมูลบนเว็บไซต์ Novelinvestor.com ซึ่งรวบรวมผลตอบแทนของตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (International Stock Markets) 22 ประเทศ และกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Stock Markets) 24 ประเทศ

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นเดนมาร์กโดดเด่นมาจากบริษัทยายักษ์ใหญ่ Novo Nordisk (NVO) ที่ช่วยดันการซื้อ-ขาย รวมถึงเศรษฐกิจประเทศให้ดีขึ้น

บริษัท Novo Nordisk มีมูลค่าตลาดตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 6 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 21.6 ล้านล้านบาท และเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในยุโรป หากนักลงทุนระยะยาวที่ถือหุ้นไว้ 5 ปีจะได้รับผลตอบแทนมากกว่า 450% เลยทีเดียว วันนี้ THE STANDARD WEALTH จะพาไปรู้จักกับหุ้นที่น่าสนใจตัวนี้กัน

หุ้น Novo Nordisk บริษัทผลิตยาเบาหวานครึ่งโลก ผู้กอบกู้เศรษฐกิจประเทศเดนมาร์ก

Novo Nordisk เป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดในยุโรป โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 6.3 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่อันดับ 2 ตามมาด้วย LVMH (4.13 แสนล้านดอลลาร์) และอันดับ 3 ได้แก่ ASML Holding NV (4.09 แสนล้านดอลลาร์) โดยมูลค่าของ Novo Nordisk ในปัจจุบันอยู่ในระดับใกล้เคียงกับบริษัทอย่าง Visa, TSMS, JPMorgan

Novo Nordisk ครอบครองส่วนแบ่งตลาดยารักษาเบาหวานได้เกือบครึ่งโลก และกลายเป็นหนึ่งในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ต้นปี 2024 หุ้นของบริษัทด้านการดูแลสุขภาพยักษ์ใหญ่ของเดนมาร์กเพิ่มขึ้นประมาณ 42% มากกว่าผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 ที่เพิ่มขึ้น 13.33% และในปี 2023 ราคาหุ้น NVO พุ่งขึ้นมากกว่า 50% ขณะที่ S&P 500 ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 24%

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ Novo Nordisk ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง Ozempic และ Wegovy คือบริษัทได้เติบโตแซงหน้าประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเป็นบริษัทบ้านเกิด มูลค่าตลาดของบริษัทในขณะนี้สูงกว่าผลผลิตทางเศรษฐกิจประจำปีของเดนมาร์กที่ 4.1 แสนล้านดอลลาร์ และความสำเร็จของบริษัททำให้ประเทศเดนมาร์กสามารถเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ในปีที่แล้ว สำนักงานสถิติของเดนมาร์กระบุว่า เศรษฐกิจขยายตัว 1.8% ในปี 2023 แต่หากไม่ได้อุตสาหกรรมยาที่กำลังเฟื่องฟูช่วยเอาไว้ เศรษฐกิจของเดนมาร์กจะหดตัว 0.1%

Jens Naervig Pedersen นักวิเคราะห์อาวุโสของ Danske Bank กล่าวว่า Novo Nordisk มีแนวโน้มว่าจะเป็น ‘ตัวขับเคลื่อนการเติบโตหลัก’ ของเดนมาร์กต่อไปในปีนี้ เนื่องจากบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้ผลักดันเศรษฐกิจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างงาน การลงทุนในโรงงานใหม่ หรืองานในภาคการก่อสร้าง

ธุรกิจที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของ Novo Nordisk ในปีที่ผ่านมา

ผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวผลักดันธุรกิจที่สำคัญมาจากยารักษาเบาหวานชนิด GLP-1 ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดยารักษาเบาหวานทั่วโลกมากกว่า 55% ขณะที่ผลิตภัณฑ์รักษาโรคอ้วนเติบโตมากกว่า 150% จนเป็นช่องรายได้ที่มีนัยสำคัญของบริษัท ซึ่งตอนนี้เป็นรายได้เกือบ 20% ของบริษัทแล้ว

บริษัทยายักษ์ใหญ่ของเดนมาร์กรายงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 2.54 หมื่นล้านโครนเดนมาร์ก หรือคิดเป็น 3.65 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.37 หมื่นล้านโครน โดยยอดขายยารักษาโรคอ้วนยอดนิยม Wegovy เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเป็น 9.38 พันล้านโครน

ยอดขายสำหรับไตรมาสแรกของปี 2024 อยู่ที่ 6.54 หมื่นล้านโครนเดนมาร์ก โดยเพิ่มขึ้น 22% จาก 5.34 หมื่นล้านโครนเดนมาร์กเมื่อปีก่อน

โอกาสเติบโตของหุ้น Novo Nordisk

แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นมาสูงมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่บริษัทยังคงมีปัจจัยบวกมากมายที่มาสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของกำไรที่สูงหรือศักยภาพในการเติบโต โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ให้อนุมัติยาลดน้ำหนัก Wegovy ของบริษัท Novo Nordisk สำหรับการลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจวายในผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วนที่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวาน สิ่งนี้จะช่วยดันยอดขายในภูมิภาคอเมริกาเหนือให้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้บริษัทยังเผยรายงานข้อมูลเชิงบวกเกี่ยวกับการทดลองยาลดน้ำหนักตัวใหม่ Amycretin ที่ให้ผลที่น่าประทับใจจากการทดสอบระยะที่ 1 Novo Nordisk เผยว่า การทดสอบระยะที่ 2 จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 และคาดว่าจะได้ผลลัพธ์ในช่วงต้นปี 2026

อ้างอิง: