นาทีสุดท้ายหรือวางแผนล่วงหน้า? โฮสเทลย่อมเยาหรือรีสอร์ตหรู? สองเจเนอเรชันสองขั้วกับการท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนกันแม้แต่น้อย ฐานข้อมูลล่าสุดจาก AirAsia MOVE เปิดพฤติกรรมการเดินทางในช่วงสงกรานต์ของคนสองรุ่นที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
โดยค้นพบว่า ‘กลุ่ม Gen Z’ นักเดินทางวัยใสที่เกิดในช่วงปี 1997-2012 มาพร้อมสไตล์การท่องเที่ยวแบบ ‘มินิมอล’ น้อยแต่มาก ประหยัดแต่คุ้ม เน้นความคล่องตัวและอิสระเหนือสิ่งอื่นใด
ข้อมูลชี้ชัดว่า 80% ของนักท่องเที่ยว Gen Z ใช้สมาร์ตโฟนเป็นผู้ช่วยคู่ใจในการจองทริป และที่น่าทึ่งไปกว่านั้น 24% ของพวกเขาจองที่พักแบบนาทีสุดท้าย หรือที่เรียกว่า ‘Last-Minute Booking’ เพราะชีวิตต้องลุ้น ต้องเซอร์ไพรส์!
ไม่เพียงเท่านั้น 1 ใน 5 ของคนกลุ่มนี้ชื่นชอบการเดินทางเพียงลำพัง หรือ Solo Travel มากกว่าการใช้บริการทัวร์ ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะนิสัยที่รักความเป็นส่วนตัวและต้องการสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวในแบบฉบับของตัวเอง
พวกเขามองหาประสบการณ์ที่ ‘แตกต่าง’ ไม่ซ้ำใคร ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวธรรมชาติ การตามล่าคาเฟ่ลับ หรือการเข้าร่วมเวิร์กช็อปท้องถิ่น
น่าสนใจไม่น้อยเมื่อพบว่า 30% ของนักท่องเที่ยว Gen Z และ Millennials นิยมจองโรงแรมราคาประหยัดและโฮสเทล ตอกย้ำให้เห็นถึงค่านิยมที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์มากกว่าความหรูหรา
AirAsia MOVE ยังพบว่า เชียงใหม่ครองแชมป์จุดหมายปลายทางยอดฮิตในประเทศของกลุ่ม Gen Z โดยมีสัดส่วนถึง 30% เมื่อเทียบกับทุกจังหวัดในประเทศไทย ในขณะที่เส้นทางต่างประเทศ 8% เลือกไปโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และ 5% มุ่งหน้าสู่ดานัง ประเทศเวียดนาม
ในขณะเดียวกัน ‘กลุ่ม Baby Boomers’ ผู้ที่เกิดในช่วงปี 1946-1964 กลับมีสไตล์การท่องเที่ยวที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง พวกเขาเน้น ‘ความพรีเมียม’ ทั้งที่พักและบริการ เลือกความหรูหราและความสะดวกสบายเป็นอันดับแรก
โดย 40% ของนักเดินทางกลุ่มนี้จองแพ็กเกจทัวร์ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน และอีก 40% เลือกพักในโรงแรมระดับ 4-5 ดาวและรีสอร์ตหรู
กลุ่ม Baby Boomers ให้ความสำคัญกับการวางแผนอย่างละเอียด โดย 55% นิยมแพ็กเกจทัวร์หรือการเดินทางที่วางแผนไว้ล่วงหน้า และที่น่าสนใจคือ 74% ของพวกเขาให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมและประสบการณ์เชิงลึก ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงศิลปะ ประวัติศาสตร์ และการรับประทานอาหารระดับ Fine Dining
จุดหมายปลายทางยอดฮิตของกลุ่มนี้ คือ ประเทศญี่ปุ่น (14%) โดยเฉพาะเมืองเกียวโต ประเทศเวียดนาม (12%) โดยเฉพาะเมืองฮอยอัน และประเทศไทย (49%) โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เน้นที่พักหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดอีกประการคือ Gen Z มีแนวโน้มจองที่พักใกล้แหล่งท่องเที่ยวมากกว่า Baby Boomers ถึง 45% ขณะที่ Baby Boomers ให้ความสำคัญกับบรรยากาศเงียบสงบและบริการครบวงจร โดยมีอัตราการใช้บริการ Concierge หรือ Private Tour สูงกว่า Gen Z ถึง 95%
พฤติกรรมการจองที่พักก็เป็นอีกหนึ่งข้อแตกต่างที่น่าจับตา มากกว่า 50% ของ Baby Boomers จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ขณะที่ 24% ของ Gen Z เลือกจองแบบนาทีสุดท้าย บ่งบอกถึงความไม่ยึดติดกับแผนและพร้อมปรับเปลี่ยนตลอดเวลา
ทั้งหมดนี้ไม่เพียงลบล้างมายาคติที่ว่าทุกคนเดินทางเหมือนกัน แต่ยังเปิดมิติใหม่ให้กับวงการท่องเที่ยวที่ต้องปรับตัวให้ทันกับความต้องการที่หลากหลาย แตกต่าง และเฉพาะตัวมากขึ้น สงกรานต์ปีนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นสาย ‘แบ็กแพ็ก’ แบบ Gen Z หรือสาย ‘ลักชัวรี’ แบบ Baby Boomers ทุกการเดินทางล้วนมีเสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเอง