×

เปิดประวัติ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ‘ศัตรูที่รัก’ ของดัมเบิลดอร์ ก่อนดู Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald

15.11.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ คือเด็กอัจฉริยะที่เข้าศึกษาในสถาบันเวทมนตร์เดิร์มสแตงก์ เขามีความหลงใหลในศาสตร์มืดและตำนานเครื่องรางยมทูตตั้งแต่เด็ก และถูกไล่ออกจากสถาบันเพราะการทดลองบางอย่างที่ทำให้เพื่อนร่วมชั้นหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัส
  • หลังจากนั้นเขาย้ายมาอยู่ที่ก็อดดริกส์ ฮอลโลว์ และได้พบกับ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ที่มีทั้งความสามารถและความสนใจใกล้เคียงกัน ทั้งคู่พูดคุยกันถูกคอและสานสัมพันธ์กันอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเกิดเหตุทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกันหลังการเสียชีวิตของน้องสาวดัมเบิลดอร์
  • กรินเดลวัลด์เริ่มออกตามหาเครื่องรางยมทูตและรวบรวมพรรคพวกที่มีความเห็นตรงกันกับแนวคิด The Greater Good ของเขา เพื่อขยายอำนาจสู่การสร้างโลกที่ผู้วิเศษไม่จำเป็นต้องปกปิดตัวเองอีกต่อไป
  • เนื้อเรื่องใน Fantastic Beasts ทั้ง 5 ภาคจะค่อยๆ เล่าเหตุการณ์ของโลกเวทมนตร์ในปี 1926-1945 ตั้งแต่ภาคแรกที่กรินเดลวัลด์เริ่มขยายอำนาจของตัวเองไปในสหรัฐอเมริกาจนได้ปะทะกับ นิวท์ สคามันเดอร์ เป็นครั้งแรก
  • ภาคสอง Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald จะเล่าเรื่องหลังกรินเดลวัลด์ถูกจับกุมและเริ่มรวบรวมพรรคพวกอย่างรุนแรงอีกครั้ง จนดัมเบิลดอร์ต้องเริ่มยื่นมือเข้ามาเกี่ยวผ่านการขอความร่วมมือจากนิวท์ สคามันเดอร์ อดีตลูกศิษย์ของเขา

จากภาคแรก Fantastic Beasts and Where to Find Them ในปี 2016 เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ที่รับบทโดย จอห์นนี เดปป์ ได้ปรากฏตัวออกมาเพียงช่วงท้ายๆ หลังถูก นิวท์ สคามันเดอร์ เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงๆ พร้อมกับคำมั่นที่ว่าเขาจะกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

 

ผ่านไป 2 ปีก็ถึงเวลาของภาคที่สอง Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald ที่คนดูจะได้ทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของเจ้าแห่งศาสตร์มืดรุ่นแรกแห่งโลกเวทมนตร์ กับภารกิจขยายอำนาจเพื่อทำให้ผู้วิเศษไม่ต้องปกปิดตัวตนและเป็นผู้ปกครองมนุษย์ (มักเกิลหรือโนแมจ) ตามอุดมการณ์ The Greater Good เพื่อประโยชน์สุขของคนหมู่มากที่เขาคิดขึ้นมา

 

ก่อนจะไปทำความรู้จักกับเขาบนจอภาพยนตร์ THE STANDARD POP จะพาทุกคนไปย้อนรู้จักประวัติของกรินเดลวัลด์ตั้งแต่ความหลงใหลในศาสตร์มืดวัยเด็ก ไปจนถึงช่วงเวลาสำคัญที่เขาสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ก่อนที่ความเห็นไม่ตรงกันจะเปลี่ยนมิตรภาพของทั้งคู่ให้กลายเป็น ‘ศัตรูที่รัก’ ที่เราจะได้เห็นบทสรุปกันในแฟรนไชส์ Fantastic Beasts อีก 3 ภาคที่เหลือต่อไป

 

 

วัยเด็กของชายผู้หลงใหลในเครื่องรางยมทูต

พื้นฐานครอบครัวของ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ นั้นเป็นเสมือนความลับดำมืดที่ไม่มีการเปิดเผยแม้กระทั่งผู้เป็นพ่อแม่พี่น้อง ยกเว้นการเป็นหลานของ บาธิลดา แบ็กช็อต (นักเขียนหนังสือประวัติศาสตร์เวทมนตร์) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

 

เรารู้แค่เพียงว่าเขาลืมตาดูโลกขึ้นมาในปี 1883 (หลังดัมเบิลดอร์ 2 ปี) ณ เมืองหนึ่งทางตอนเหนือทวีปยุโรป และเริ่มชีวิตการเป็นผู้วิเศษจากสถาบันเวทมนตร์เดิร์มสแตงก์ที่มีชื่อเสียงเรื่องการส่งเสริมวิชาด้านศาสตร์มืดมาช้านาน

 

ในช่วงเวลาไม่กี่ปีนั้น กรินเดลวัลด์ถูกจัดอยู่ในหมวด ‘อัจฉริยะ’ เช่นเดียวกับดัมเบิลดอร์และทอม ริดเดิล (ผู้ที่กลายเป็นเจ้าแห่งศาสตร์ลอร์ดโวลเดอมอร์ในเวลาต่อมา) และด้วยพื้นฐานความสนใจด้านศาสตร์มืด โดยเฉพาะตำนานเครื่องรางยมทูต (Deathly Hallows) ทำให้เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการศึกษาค้นคว้าและทำการทดลองเพื่อพัฒนาความสามารถของตัวเองจนกระทั่งอายุ 16 ปี การทดลองที่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทำให้เพื่อนนักเรียนได้รับบาดเจ็บจนเกือบเสียชีวิตหลายคน

 

แม้กระทั่งสถาบันเวทมนตร์ที่เชี่ยวชาญด้านศาสตร์มืดยังรับไม่ได้และไล่กรินเดลวัลด์ให้พ้นจากสภาพการเป็นนักศึกษา และก่อนจากมาเขาได้สลักตราสัญลักษณ์เครื่องรางยมทูตเอาไว้บนกำแพงเดิร์มสแตงก์จนผู้คนส่วนใหญ่ใช้มันเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของกรินเดลวัลด์ตั้งแต่นั้นจนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต

 

 

การสานสัมพันธ์กับ ‘ศัตรูที่รัก’ อัลบัส ดัมเบิลดอร์

หลังถูกไล่ออกจากโรงเรียน กรินเดลวัลด์ได้เดินทางมาอาศัยอยู่กับ บาธิลดา แบ็กช็อต ที่ก็อดดริกส์ ฮอลโลว์ ที่ที่หลุมฝังศพของ อิกโนตัส เพฟเวอเรลล์ ผู้ครอบครองผ้าคลุมล่องหนคนแรกตั้งอยู่ และเป็นสถานที่เดียวกันที่ทำให้เขาได้รู้จักดัมเบิลดอร์ เด็กหนุ่มตาสีฟ้าที่เพิ่งจบการศึกษาจากสถาบันเวทมนตร์ฮอกวอตส์ที่กลายมาเป็น ‘ศัตรูที่รัก’ ของเขาในอนาคต

 

ด้วยความสามารถ ความรอบรู้ และความสนใจในเรื่องเครื่องรางยมทูตที่ใกล้เคียงกัน (ดัมเบิลดอร์มีความคิดอยากเป็นเจ้าของหินชุบวิญญาณ หนึ่งในสามเครื่องรางยมทูตที่อาจทำให้เขาได้พบกับพ่อและแม่ที่เสียชีวิตไปอีกครั้ง) ทำให้ทั้งคู่ผูกมิตรและแลกเปลี่ยนทัศนคติในโลกเวทมนตร์กันได้อย่างถูกคอ โดยเฉพาะแนวความคิดที่ว่า ‘ผู้วิเศษควรเป็นผู้ปกครองเหล่ามักเกิล และไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ เพื่อปกปิดความลับ’ ที่กระทบใจดัมเบิลดอร์ผู้มีความหลังจากการที่ แอรีอานนา น้องสาวของเขาเคยถูกกลุ่มเด็กมักเกิลรุมทำร้ายมาก่อนได้แบบเต็มๆ จนมีแผนว่าจะออกเดินทางเพื่อตามหาเครื่องรางยมทูตไปพร้อมกับกรินเดลวัลด์

 

แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ต้องสิ้นสุด เมื่อ อาเบอร์ฟอร์ธ น้องชายของดัมเบิลดอร์ ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้และเริ่มต่อสู้กับกรินเดลวัลด์อย่างรุนแรง ในขณะที่กรินเดลวัลด์เสกคำสาปกรีดแทงใส่อาเบอร์ฟอร์ธ ดัมเบิลดอร์พยายามเข้ามาห้ามจนลำแสงเวทมนตร์และเสียงระเบิดดังไปทั่ว ทำให้แอรีอานนาที่อยู่บริเวณนั้นเกิดคลุ้มคลั่งจนควบคุมพลังของตัวเองไม่อยู่ และเมื่อการต่อสู้สงบลง ฝุ่นควันจางหาย สิ่งที่เหลือไว้มีเพียงร่างไร้วิญญาณของแอรีอานนานอนนิ่งอยู่กับพื้น พร้อมกับความรู้สึกผิดในใจของดัมเบิลดอร์ว่าตัวเองคือผู้ร่ายคาถาปลิดชีวิตน้องสาว และรอยร้าวระหว่างกรินเดลวัลด์ที่ไม่อาจสมานให้เหมือนเดิมได้อีกต่อไป

 

เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ (รับบทโดย จอห์นนี เดปป์) และอัลบัส ดัมเบิลดอร์ (รับบทโดย จู๊ด ลอว์)

 

The Greater Good อุดมการณ์ขยายอำนาจของเจ้าแห่งศาสตร์มืดรุ่นหนึ่ง

หลังจากนั้นกรินเดลวัลด์ก็หนีออกจากก็อดดริกส์ ฮอลโลว์ และเริ่มออกตามหาเครื่องรางยมทูตเพียงลำพัง จนได้ครอบครองไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์จากการลอบเข้าไปขโมยมาจากเจ้าของร้านขายไม้กายสิทธิ์ มายคิว เกรโกโรวิตช์ และตั้งหน้าตั้งตาเรียนรู้ศาสตร์มืดทุกแขนงจนแกร่งกล้าและกลายเป็นผู้นำพ่อมดแม่มดที่ฝักใฝ่ศาสตร์มืด

 

กรินเดลวัลด์ค่อยๆ ขยายอำนาจด้วยการเดินทางไปทั่วยุโรปเพื่อรวมรวบสมัครพรรคพวกที่มีความคิดในการปกครองมักเกิลเช่นเดียวกัน พลังอำนาจที่น่าเกรงขามนั่นคือเรื่องหนึ่ง กรินเดลวัลด์คือพ่อมดผู้เต็มไปด้วยวาทศิลป์และศาสตร์แห่งการโน้มน้าวใจผู้คนระดับสูง เขาไม่ได้ปกครองผู้คนด้วยความกลัวเหมือนกับโวลเดอมอร์ แต่เขาเลือกชูอุดมการณ์เพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่ (The Greater Good) เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้วิเศษจำนวนมากยินดีเข้าร่วมกับกรินเดลวัลด์ด้วยความสมัครใจ (แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าร่วมเพราะไม่อยากเป็นปฏิปักษ์กับเจ้าศาสตร์มืดแห่งยุคอยู่เหมือนกัน)

 

อำนาจของกรินเดลวัลด์แผ่ขยายไปทั่วยุโรป ยกเว้นเพียงแค่ประเทศเดียวคืออังกฤษ ที่มี ‘ศัตรูที่รัก’ อย่างดัมเบิลดอร์เป็นผู้ดูแลที่เขาไม่กล้าย่างกรายเข้าไป เช่นเดียวกับดัมเบิลดอร์ที่หลายคนมองว่าเขาคือผู้วิเศษหนึ่งเดียวที่มีพลังอำนาจพอจะทัดทานกรินเดลวัลด์ได้ รวมทั้งเขาก็ไม่เห็นด้วยกับการทำร้ายและทรมานเหล่ามักเกิลของกรินเดลวัลด์ที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ

 

แต่ดัมเบิลดอร์ก็ดึงเวลาที่จะเผชิญหน้ากับกรินเดลวัลด์แบบตรงๆ อยู่หลายปี ไม่ใช่ว่าดัมเบิลดอร์กลัวแพ้ เขารู้ดีว่าพลังของทั้งคู่สูสีกัน หากแต่เป็นบาดแผลในใจที่เคยเกิดขึ้นในอดีต รวมทั้ง ‘ความรัก’ อันลึกซึ้งที่มีต่อกรินเดลวัลด์ต่างหากคือสิ่งที่ดัมเบิลดอร์ไม่อยากเผชิญหน้ามากที่สุด

 

นิวท์ สคามันเดอร์ (รับบทโดย เอ็ดดี้ เรดเมย์น)

 

สู่การผจญภัยครั้งใหม่ใน Fantastic Beasts ทั้ง 5 ภาค  

การหลบเลี่ยงไม่เผชิญหน้ากันของทั้งคู่จึงกลายเป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องราวในภาพยนตร์ Fantastic Beasts and Where to Find Them ที่กรินเดลวัลด์แทรกซึมตัวเข้าไปอยู่ในสภาเวทมนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (The Magical Congress of the USA – MACUSA) เพื่อหวังใช้พลังอำนาจของ ออบสคูรัส พลังมืดไร้ตัวตนในการขยายฐานอำนาจของตัวเองจนทำให้เขาได้ปะทะกับนิวท์ สคามันเดอร์ เป็นครั้งแรก

 

ส่วนเรื่องราวในภาคที่สอง Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald จะเป็นเรื่องราวในช่วงปี 1927 ที่กรินเดลวัลด์เริ่มขยายอำนาจและรวบรวมพรรคพวกมากขึ้นเรื่อยๆ จนดัมเบิลดอร์รู้สึกว่าเขาต้องเริ่มทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดยั้งแผนการนี้ แต่จากอดีตอันแสนเจ็บปวดอย่างที่บอกไปข้างต้นทำให้เขายังไม่สามารถเผชิญหน้ากับกรินเดลวัลด์แบบตรงๆ จึงต้องขอความร่วมมือกับอดีตลูกศิษย์อย่างนิวท์ สคามันเดอร์ ให้มารับหน้าที่นี้แทน

 

ส่วนในภาคที่ 3-5 ของแฟรนไชส์ Fantastic Beasts ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาว่าจะนำเสนอเนื้อเรื่องส่วนไหนบ้าง แต่ก็พอเดาได้ว่าจะเป็นช่วงเวลาต่อเนื่องไปถึงปี 1945 ที่ความขัดแย้งในโลกเวทมนตร์ที่มีกรินเดลวัลด์เป็นผู้นำทวีความรุนแรงมากขึ้นจนดัมเบิลดอร์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าได้อีกต่อไป และจะไปคลี่คลายตอนศึกสุดท้ายระหว่าง ‘ศัตรูที่รัก’ ทั้งสองคนที่ได้รับการกล่าวว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างสองผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเวทมนตร์

 

รวมถึงผลการต่อสู้ที่มีการเล่าลือไปต่างๆ นานาทั่วโลกเวทมนตร์มาจนถึงยุคของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่บ้างก็ว่าทั้งสองคนต่อสู้กันอย่างรุนแรง บ้างก็ว่าจะกรินเดลวัลด์เป็นฝ่ายยอมจำนนด้วยการเสกผ้าสีขาวออกจากไม้กายสิทธิ์ และยอมถูกจองจำอยู่ในคุกนูร์เมนการ์ดที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง

 

จนกระทั่งถูกโวลเดอมอร์ เจ้าแห่งศาสตร์มืดรุ่นที่ 2 ตามมาปลิดชีวิตในปี 1998 ตามเนื้อหาหลักที่ถูกเปิดเผยในซีรีส์ Harry Potter and the Deathly Hallows

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising