×

บิลล์ เกตส์ พลิกจุดยืนก่อนประชุม COP30 ชี้โลกทุ่มเงินลดโลกร้อนมากเกินไป ควรหันไปแก้ปัญหาความยากจนและโรคภัยแทน

01.11.2025
  • LOADING...
บิลล์ เกตส์ พลิกจุดยืนก่อนประชุม COP30 ชี้โลกทุ่มเงินลดโลกร้อนมากเกินไป ควรหันไปแก้ปัญหาความยากจนและโรคภัยแทน

บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft ซึ่งเคยเขียนหนังสือ How to Avoid a Climate Disaster ในปี 2021 ได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกเปลี่ยนแนวทางในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งใหญ่ โดยเขาแย้งว่าปัจจุบันมีการทุ่มเททรัพยากรไปกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเกินไป และควรนำเงินส่วนนั้นไปใช้ ‘พัฒนาชีวิต’ และขจัดความยากจนและโรคภัยไข้เจ็บแทน

 

ในจดหมายที่เผยแพร่ก่อนการประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศ COP30 ของสหประชาชาติในสัปดาห์หน้า เกตส์ได้วิจารณ์มุมมองแบบวันสิ้นโลก (doomsday view) ที่มีต่อปัญหาโลกร้อน และเรียกร้องให้ผู้นำต่างๆ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ (strategic pivot) ไปมุ่งเน้นในประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของมนุษย์โดยตรงมากกว่า

 

“สภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง แต่ต้องพิจารณาในแง่ของสวัสดิภาพโดยรวมของมนุษย์” เกตส์กล่าวในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับ CNBC “ผมไม่ได้เลือกจุดยืนนี้เพราะทุกคนเห็นด้วย แต่ผมคิดว่านี่คือคำตอบที่สมเหตุสมผลที่สุด”
เกตส์ได้ยกตัวอย่างที่ชัดเจนว่า หากต้องเลือกระหว่างการกำจัดโรคมาลาเรียกับการปล่อยให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น 0.1 องศาเซลเซียส

 

“ถ้าให้ผมเลือกระหว่างการกำจัดโรคมาลาเรีย กับการที่อุณหภูมิโลกจะสูงขึ้น 0.1 องศา ผมยอมเลือกกำจัดมาลาเรียดีกว่า เพราะผู้คนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าความทุกข์ทรมาน (จากโรคภัย) ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมันเลวร้ายแค่ไหน” เขากล่าว ซึ่งสะท้อนจุดยืนจากมูลนิธิ Gates Foundation ของเขาที่ทุ่มเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บทั่วโลก

 

การเปลี่ยนจุดยืนของเกตส์เกิดขึ้นในจังหวะที่การเมืองในสหรัฐฯ กลับมาให้ความสำคัญกับประเด็นอื่น โดย Breakthrough Energy ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของเขา ก็มีรายงานว่าได้ปลดพนักงานเมื่อต้นปีนี้ ซึ่งสื่ออย่าง The New York Times วิเคราะห์ว่าเป็นการ ‘ปรับทัพอาณาจักรของเกตส์เพื่อรับมือกับยุคของทรัมป์’

 

จุดยืนใหม่ของเกตส์ได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทันทีจากกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศ เจฟฟรีย์ แซคส์ (Jeffrey Sachs) ผู้อำนวยการศูนย์การพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เรียกบันทึกของเกตส์ว่า “ไร้จุดหมาย คลุมเครือ ไม่เป็นประโยชน์ และน่าสับสน”

 

เขายังกล่าวอีกว่า “ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องเลือกระหว่างการลดความยากจนกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งสองสิ่งนี้สามารถทำควบคู่กันไปได้”

 

คริสตี เอบี (Kristie Ebi) นักวิทยาศาสตร์จาก University of Washington กล่าวว่าเธอเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าการเจรจาควรเน้นไปที่การพัฒนามนุษย์ แต่ก็ชี้ว่าแนวคิดของเกตส์นั้นตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ไม่น่าเป็นไปได้

 

ขณะที่ คริส ฟิลด์ (Chris Field) จาก Stanford University มองว่าเราควรลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว “อนาคตที่สดใสในระยะยาวนั้นขึ้นอยู่กับการจัดการปัญหาโลกร้อนและการพัฒนามนุษย์ไปพร้อมกัน”

 

แม้จะถูกวิจารณ์ แต่เกตส์ก็ยังคงยืนยันในบันทึกของเขาว่าสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีคือ ‘เกราะป้องกัน’ ที่ดีที่สุดจากปัญหาโลกร้อน โดยอ้างอิงงานวิจัยที่พบว่าอัตราการเสียชีวิตจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงจะลดลงกว่า 50% หากเศรษฐกิจโลกเติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ เขายังได้วิจารณ์การที่รัฐบาลในกลุ่มประเทศร่ำรวยนำโดยสหรัฐฯ กำลังตัดงบประมาณช่วยเหลือต่างประเทศ

 

เกตส์ยกตัวอย่าง Gavi องค์กรจัดซื้อวัคซีนที่เขาก่อตั้ง กำลังจะได้รับเงินทุนน้อยลง 25% ในอีก 5 ปีข้างหน้า ทั้งที่ Gavi สามารถช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งได้ด้วยเงินเพียง 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 32,300 บาท) “เด็กที่ไม่ตายเพราะโรคหัดหรือไอกรน จะมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้นเมื่อคลื่นความร้อนมาเยือน” เขากล่าว

 

ในขณะเดียวกัน เกตส์ก็ยังคงแสดงความผิดหวังอย่างมากต่อการที่รัฐบาลทรัมป์ถอนตัวจากข้อตกลงปารีสอีกครั้ง แต่เขาก็ยังคงเชื่อมั่นว่านวัตกรรมจะเป็นทางออกในระยะยาว และได้ชื่นชมบริษัทอย่าง Microsoft ที่ยังคงลงทุนในพลังงานทางเลือก ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนพลังงานสะอาดถูกลง

 

จุดยืนของ Microsoft เองก็กำลังถูกท้าทายเช่นกัน เมลานี นากางาวะ (Melanie Nakagawa) ประธานฝ่ายความยั่งยืนของบริษัท ยอมรับว่าเป้าหมายด้านสภาพอากาศของบริษัทนั้นไกลออกไปกว่าเดิม หลังจากที่บริษัทหันมาทุ่มเทให้กับ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ (AI) ซึ่งต้องใช้พลังงานมหาศาล แต่เธอก็แย้งว่า AI จะเป็น ‘จรวดที่ใหญ่ขึ้น เร็วขึ้น และทรงพลังขึ้น’ ที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้ในระยะยาว

 

ภาพ : Leon Neal – WPA Pool /Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising