×

ไม่อยากไปงานเลี้ยงรุ่น เพราะอายเพื่อน ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ?

25.08.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins read
  • สำหรับบางคน งานเลี้ยงรุ่นก็เหมือน World Expo ครับ คือมีไว้สำแดงแสนยานุภาพให้โลกรู้ว่าเราแน่แค่ไหน ใครมีแบรนด์เนมอะไรก็เทก็ถมมาใส่ทั้งตัวให้หมดเพื่อไม่ให้ใครดูถูกได้ โลกมีคนแบบนั้นจริงๆ
  • เวลาเราให้คำจำกัดความคำว่า ‘ประสบความสำเร็จ’ ในชีวิต อย่าเพิ่งไปมองถึงความสำเร็จที่ใหญ่โตอย่างเดียว ผมคิดว่ามองหาความสำเร็จเล็กๆ และทำมันให้เกิดขึ้นทุกวัน เราจะมีเรื่องให้ภูมิใจได้ทุกวัน

Q: เดือนหน้าจะมีงานเลี้ยงรุ่น ผมรู้สึกไม่กล้าไป เพราะอายเพื่อน เพื่อนแต่ละคนหน้าที่การงานใหญ่โตกันทั้งนั้น ผมเห็นในเฟซบุ๊กแล้วยังอายเลย เพราะผมเป็นแค่พนักงานต๊อกต๋อย ไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรในชีวิต เป็นแค่คนธรรมดาๆ ไม่มีอะไรน่าภูมิใจเลย เพื่อนผมมีชีวิตหรูหรา มีงานดีๆ ทำกันทั้งนั้น ใจหนึ่งผมก็อยากไปเจอเพื่อนๆ นะครับ แต่ก็กลัวว่าไปแล้วเพื่อนจะดูถูก กลัวไปแล้วตัวเองรู้สึกแย่กว่าเดิม ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ

 

A: เท่าที่ผมอ่าน ผมยังไม่เห็นการดูถูกของคนอื่นนอกจากการที่คุณดูถูกตัวเองเลยนะครับ

     จะเป็นพนักงานต๊อกต๋อย ตำแหน่งอะไรก็แล้วแต่ แต่มันคืองานสุจริต เป็นงานที่คุณได้ใช้พลังความสามารถที่คุณมีไม่ว่าด้านใดก็ตาม เป็นงานที่ทำให้คุณมีกินมีใช้ ผมว่านี่คือความน่าภูมิใจนะครับ

     ต่อให้มันไม่ได้เป็นงานที่ตำแหน่งใหญ่โต แต่ทุกตำแหน่งมีผลต่อความสำเร็จขององค์กรครับ เพราะฉะนั้น อย่าเพิ่งไม่เห็นคุณค่าในตัวเองเลยครับ

     ชีวิตคนเราไม่แน่นอนจริงๆ ครับ มันเปราะบางมาก มีอันตรายอยู่รอบตัว เราจะตายเมื่อไรก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าลุกขึ้นจากเตียงในตอนเช้าแล้วกลับมานอนตอนกลางคืนได้อย่างปลอดภัย ผมว่าก็เก่งแล้ว อย่างน้อยก็น่าภูมิใจที่เราได้ประคองตัวเองใช้ชีวิตมาได้อีกวันโดยไม่โดนสอยไปเสียก่อน

     ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรน่าภูมิใจ ผมอยากชวนให้ลองมองใหม่ และที่สำคัญคือลองใช้ชีวิตแบบใหม่

     เวลาเราให้คำจำกัดความคำว่า ‘ประสบความสำเร็จ’ ในชีวิต อย่าเพิ่งไปมองถึงความสำเร็จที่ใหญ่โตอย่างเดียว ผมคิดว่ามองหาความสำเร็จเล็กๆ และทำมันให้เกิดขึ้นทุกวัน เราจะมีเรื่องให้ภูมิใจได้ทุกวัน

     ถ้าไปยึดความสำเร็จว่าคือการไปถึงจุดสูงสุดของยอดเขา ลองคิดดูสิครับว่า กว่าจะไปถึงก็ต้องใช้เวลา พอไปถึงแล้วเราจะภูมิใจได้นานแค่ไหน เพราะเดี๋ยวก็ต้องหายอดเขาลูกต่อไปแล้ว ยังไม่ทันฟินจากยอดเขาลูกก่อนเลย…อะไรว้า

     แต่ถ้าเราหันมามีความสุขกับความสำเร็จเล็กๆ ของตัวเองทุกวัน เราไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงยอดเขาก่อน เราก็มีเรื่องให้ภูมิใจให้ตัวเองได้ทุกวัน

     อย่างที่ผมบอกครับว่า ลืมตาตื่นนอนแล้วพาตัวเองกลับมาหลับตานอนได้อีกครั้งก็น่าภูมิใจแล้ว เพราะฉะนั้น ช่วงเวลาระหว่างวัน คุณยังเติมเรื่องอื่นๆ ให้ตัวเองได้ภูมิใจอยู่เรื่อยๆ ได้ ไม่ต้องรอเรื่องใหญ่โตอย่างเดียวหรอกครับ เอาเรื่องเล็กๆ แต่เกิดขึ้นได้ทุกวันนี่แหละครับ แล้วถ้ามันจะขยับไปสู่เรื่องใหญ่ขึ้นบ้างก็เป็นโบนัสไป

 

     เรื่องต่อมาที่ผมอยากชวนคุยคือเรื่องเพื่อนครับ

     สำหรับบางคน งานเลี้ยงรุ่นก็เหมือน World Expo ครับ คือมีไว้สำแดงแสนยานุภาพให้โลกรู้ว่าเราแน่แค่ไหน ใครมีแบรนด์เนมอะไรก็เทก็ถมมาใส่ทั้งตัวให้หมดเพื่อไม่ให้ใครดูถูกได้ โลกมีคนแบบนั้นจริงๆ ครับ

     ทำไมการไปเจอเพื่อนถึงทำให้เรากดดันได้ขนาดนั้น ว่าไหมครับ?

     ผมว่าถ้าเพื่อนคนไหนมีชีวิตที่ดี เราก็ชื่นชมยินดีกับเขาไปครับ ดีกว่าเอาความสุขของเขามากลายเป็นความทุกข์ของเรา

     อย่าไปใส่ใจอะไรมากกับสิ่งที่เห็นในเฟซบุ๊ก มันเป็นแค่ด้านหนึ่งของชีวิตที่คนอยากให้เห็น ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องเก็บมาเหยียบย่ำตัวเองจนเราไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง ดังนั้น ถ้าคุณจะเจอเพื่อนร่วมรุ่นคนไหนแสดงอาการดูแคลนก็ไม่ต้องใส่ใจหรอกครับ คนบางคนใช้การเหยียบย่ำคนอื่นเพื่อให้ตัวเองสูงขึ้น แต่นั่นเป็นวิธีที่ทำให้เขาต่ำตมที่สุด

     บางทีคนแบบนั้นอาจจะหาความภูมิใจอะไรในตัวเองไม่ได้ ก็เลยต้องหาวิธีพรากความภูมิใจของคนอื่นแทน น่าสมเพชนะครับคนแบบนี้ ไม่ได้มีค่าพอที่เราจะต้องใส่ใจ ออกจากงานเลี้ยงรุ่นไปก็ไม่ได้เจอกันแล้ว ไม่ได้มีความสำคัญมากพอจะนับเป็นเพื่อน  

     อย่าเพิ่งตั้งป้อมว่าไปแล้วเพื่อนจะดูถูกคุณเลย ผมคิดว่าคุณไปงานเลี้ยงรุ่นด้วยสปิริตความเป็นเพื่อนนั่นแหละครับ

     เห็นเพื่อนเราเป็นเพื่อนคนเดิมในชุดนักเรียนนั่นแหละครับ ความเป็นเพื่อนมันไม่มีใครสูงต่ำกว่าใครหรอกครับ ทุกคนเท่ากันหมด ความเป็นเพื่อนมันทำให้เราไม่ต้องมีฟอร์ม ทำเรื่องบ้าบอกันได้เต็มที่

     ข้างนอกจะเป็นประธานบริษัทใหญ่โตแค่ไหน แต่ในความเป็นเพื่อน เราก็ยังคงเรียกชื่อมันโดยมีคำขึ้นต้นว่า ‘ไอ้เหี้-’ หรือเรียกชื่อพ่อชื่อแม่ของเพื่อนแทนตัวเพื่อนได้อย่างสนิทสนมเหมือนเดิม   

     นานๆ ทีจะได้เจอกันนะครับ ไม่ใช่ง่ายๆ เอาจริงๆ นะครับ ไม่รู้จะได้เจอกันอีกเมื่อไร และกับบางคน มันอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอเขาแล้วก็ได้ ไปใช้เวลาให้มีความสุขด้วยกันเถอะครับ

     งานเลี้ยงรุ่นทำให้เราเห็นความหลากหลายของชีวิต การได้เห็นความหลากหลายของชีวิตนี่แหละครับที่สอนเราได้เยอะเลย  

     จบจากโรงเรียนแล้ว แต่ละคนมีเส้นทางที่แตกต่างกัน และทุกคนก็ยังคงใช้ชีวิตต่อไป

     จะยากดีมีจน จะทุกข์หรือสุขอย่างไร กลับจากงานเลี้ยงรุ่น ทุกคนก็ต้องหายใจกันต่อไปครับ

 

     *ส่งคำถามดราม่าในที่ทำงานที่คุณสงสัยมาได้ที่อีเมล [email protected] หรืออินบ็อกซ์ไปที่ FB: ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ 

 

ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising