เราคือกลุ่มคนผู้โชคดีจากการยกเลิกดินเนอร์ที่ร้านอาหาร Gaggan (กากั้น) ที่ได้ที่จากการเสียบแทน หลังจากเพื่อนเอ่ยปากบอกกับเราว่า เขาสามารถจองกากั้นได้สำเร็จ เราก็รบเร้าขอให้เขาบวกเราเพิ่มเข้าไปอีก 2 คน เอาจริงๆ ก็บอกไปงั้นๆ  ไม่คิดว่าจะได้ แต่มันกลับได้และเรายืมมือคนอื่นจองในเวลาเพียง 2 วัน เราควรดีใจหรือเสียใจดีที่ได้ไป เพราะราคาก็ชวนตาโตพอตัว แต่เราก็ปลอบใจตัวเองด้วยข้อความที่เชฟกากั้นโพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า ร้านของเขาเต็มถึงปลายปีนี้แล้ว เอาเป็นว่าคิดว่าเราเป็นผู้โชคดีแล้วกัน เอาน่า ยังไงอาหารของกากั้นก็น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดี

     ออกตัวก่อนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้มากากั้น นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้ว และกากั้นก็สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ไม่ผิดหวังทุกครั้ง จนกล้าบอกว่ากากั้นคือ ‘ของจริง’ แต่ไม่ขอแนะนำคนที่ไม่ชอบอาหารอินเดียหรือกลิ่นเครื่องเทศแรงๆ เพราะเชื่อว่ายังไงคุณอาจไม่ปลื้ม จนนอยด์ก่นด่าเราเสียอย่างนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมว่าลิ้นทุกคนไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับประสบการณ์การกินที่ต่างกัน เพราะเราก็เคยเป็นมาก่อน

The Vibes

     บ้านสีขาวในซอยหลังสวนที่ใครหลายคนรู้จักดี ดูด้วยตาเปล่าคงไม่มีทางรู้ว่าบ้านหลังนี้คือร้านอาหารของเชฟดังชาวอินเดีย ที่เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งต่อเติมบ้านสีขาวให้มีส่วนที่เรียกว่า The Lab ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้พัฒนาอาหารจานใหม่และเป็นเชฟเทเบิ้ล ซึ่งส่วนขยายใหม่นี้กากั้นเคยบอกกับเราว่าเขาอยากทำขึ้นมาและมันก็กลายเป็นจริง ที่นี่ให้นักชิมจากทั่วโลกได้มานั่งใกล้ชิดกับเชฟ โดยเฉพาะวันที่เชฟกากั้นอยู่รับรองได้คุยกับเขาอย่างสนุกสนานแน่นอน

The Dishes

     เมนูใหม่ล่าสุดที่เชฟกากั้นทำออกมาดูน่ารักน่าเอ็นดูด้วยการนำเอาภาพอีโมจิ (Emoji) ยอดฮิตมาบอกเล่าเมนูอาหารแต่ละจานผ่านภาพแสดงอารมณ์เพียงภาพเดียว โอ้มายก๊อด… นี่เรากำลังจะต้องกินอะไรกันล่ะ ก็ปกติมีชื่อเมนูยาวเหยียดมาอธิบาย แต่นั่นแหละคือที่มาของชื่อ ‘Emoji Menu’ ที่กำลังบอกเล่าอารมณ์ขันและสิ่งที่เชฟกำลังมอบให้กับเรา บอกก่อนเลยว่าวัฒนธรรมการกินของคนอินเดียไม่ใช้ช้อนส้อมมีด มื้ออาหารวันนี้ก็จะใช้มือล้วนๆ

     1 อีโมจิ 1 เมนูชวนให้เราสงสัย ว่าอีโมจิรูปแตงโมคืออะไรในคอร์สแรกจาก 25 คอร์สในวันนี้ แตงโมกับพริกไทยดำและสาคูที่ให้กลิ่นรสบางๆ เพื่อล้างปากในคำแรก ตามด้วยอีโมจิระเบิด ตัวแทนของ Yogurt Explosion เมนูดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่ยุคแรกๆ โยเกิร์ตเนื้อหยุ่นที่แตกโพละออกมาทั่วปาก

แต่ที่ล้ำมากคือการนำลำโพงมาเปิดเพลงร็อกแล้วตามมาด้วยจานที่เขียนว่า Lick it up! หืม โปรดเลียฉัน ว่ากันตามจริงไฟน์ไดนิ่งไม่ควรมีอะไรแบบนี้ แต่นี่คือกากั้น และอีโมจิเมนูที่อยากให้เราร่วมสนุกไปกับเขา เอ้าเลียสิจะรออะไร! ส่วนหัวกุ้งคำต่อมาเป็นไอศกรีมต้มยำกับหัวกุ้งทอดกรอบ จะสาธยายทั้งหมด 25 คอร์สบทความนี้คงยาว  25 หน้า เอาเป็นว่าขอเล่าเฉพาะที่เราชอบแล้วกัน

     Chilly Bon Bon บอนบอนช็อกโกแลตที่สอดไส้น้ำพริกหวานอัดแน่นด้วยกลิ่นเครื่องเทศ Fish Granola เราไม่ได้ชอบที่รสชาติ แต่เราชอบไอเดียที่เราเชื่อมโยงได้กับสิ่งที่เคยกิน เพราะคล้ายขนมไหว้พระจันทร์ไส้โหงวยิ้ง แต่ใส่ปลาแห้งแทนหมู เราเชื่อว่า Gin Tonic Uni คือสิ่งที่เชฟกากั้นเรียนรู้มาจากเชฟโกะ เพื่อนซี้ชาวญี่ปุ่นของเขา หอยเม่น ผักดอง วาซาบิ ห่อด้วยมากิกรอบ อันนี้โคตรไม่อินเดีย แต่โคตรอร่อย Chutoro Sushi ก็น่าจะได้อิทธิพลเดียวกับ เมอแรงค์ข้าวพองกับปลาชูโทโร่

     Green Vegetable Matcha เป็นคอร์สที่ทุกคนในโต๊ะยี้ แต่เราเคยดื่มที่ยากกว่านี้มาแล้ว แบบนี้เราให้ผ่าน ก็เพราะชอบพิธีกรรมชงชาในร้านอาหารลูกครึ่งอินเดีย ถ้วยนี้ซุปเย็นที่ออกเขียวหน่อย มีผงหน่อไม้ฝรั่งเป็นเบส ก่อนหน้านี้เคยได้ลิ้มลองซุปมะเขือเทศในเมนูเดิมมาแล้วก็ชอบมากทีเดียว

     และที่ขอยกว่าดีมากคือ 2 คอร์สนี้ Seabass Bengali Mustard ปลาหมกกับมัสตาร์ดเบงกอลที่ให้กลิ่นรสคล้ายวาซาบิ ห่อด้วยใบตองแล้วเผา และ Lobster Dosa แป้งโดซ่าที่เนื้อนุ่มทำเป็นแผ่นบางเหมือนทาโก้ไส้แกงกะหรี่ล็อบสเตอร์ที่มีมะพร้าวขูด ให้รสจัดจ้านและปิดท้ายเมนคอร์สได้ดี

     ส่วนของหวานทำออกมาให้มีส่วนผสมของญี่ปุ่นปนอินเดีย ดูน่ารัก แต่เราก็ไม่ได้ปลื้มไปหมดทุกคอร์สหรอกนะ

The Drinks

     ไวน์ลิสต์ของกากั้นราคาค่อนข้างสูง ถ้าไปคนเดียวแนะนำให้สั่งขวดเดียวไปเลย แต่ก็จะยากอยู่สักหน่อยกับอาหารของกากั้นที่เครื่องเทศแรง แต่ให้เปลี่ยนไวน์ทุกคอร์สคงบานปลาย ถ้าไม่รู้เอายังไงดีแนะนำไวน์แพริงที่ซอมเมอลิเยร์ของร้านเลือกไว้ให้แล้ว 8 ตัว ในราคา 4,000 บาท หรือจะขอไวน์แดงราคาพอไหวตลอดมื้อดีกว่า แต่เอาเข้าจริงแค่อาหารอย่างเดียวก็แน่นมากแล้ว

Open: 2 รอบ 18.00 น. และ 21.30 น.

Address: ซอยหลังสวน ถนนเพลินจิต ลุมพินี กรุงเทพฯ

Budget: 25 คอร์ส 5,000 บาท++

Contact: eatatgaggan.com/reservation.php

Map: 

Photo: ภิญโญ เกียรติโอภาส