นายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ (Fumio Kishida) ของญี่ปุ่น เปิดเผยต่อสื่อมวลชนวานนี้ (29 พฤษภาคม) ว่า โชทาโร คิชิดะ (Shotaro Kishida) บุตรชายคนโตของเขา จะลาออกจากตำแหน่งเลขานุการบริหารในวันพฤหัสบดีนี้ (1 มิถุนายน) เนื่องจาก ‘พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม’ ภายหลังปรากฏกรณีนิตยสารรายสัปดาห์ Shukan Bunshun เผยแพร่ภาพของโชทาโร และบรรดาญาติๆ พร้อมกับแขกอีกหลายคน ในงานปาร์ตี้ฉลองปีใหม่แบบส่วนตัว ที่จัดขึ้นในทำเนียบนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2022 ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมากแก่ประชาชน
จากภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่าโชทาโรและแขกที่ไปร่วมงานมีการโพสท่าถ่ายภาพในหลายจุดที่เป็นสถานที่สำคัญเชิงสัญลักษณ์ในทำเนียบ รวมถึงมีการถ่ายภาพหมู่เลียนแบบคณะรัฐมนตรีที่บันไดทำเนียบ ซึ่งโชทาโรยืนอยู่ตรงกลางอันเป็นตำแหน่งยืนของนายกรัฐมนตรี
โดยในตอนแรกรัฐบาลของคิชิดะได้แสดงท่าทีต่อกรณีที่เกิดขึ้น โดยระบุว่านายกรัฐมนตรีได้ตำหนิลูกชายของเขาสำหรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวแล้ว แต่ไม่มีการแสดงท่าทีว่าจะปลดออก ก่อนที่คิชิดะจะแสดงความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นผู้แต่งตั้งลูกชายเข้ามารับตำแหน่ง
“พฤติกรรมของเขาในที่สาธารณะไม่เหมาะสมสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการในฐานะผู้ช่วยทางการเมือง ผมตัดสินใจเปลี่ยนให้ผู้อื่นเข้าทำหน้าที่แทนเขาเพื่อรับผิดชอบ ผมจะปฏิบัติตามหน้าที่และความรับผิดชอบ ด้วยการรับฟังเสียงของประชาชนอย่างตั้งใจ และพยายามจัดการกับปัญหาที่ไม่สามารถบ่ายเบี่ยงได้” คิชิดะกล่าว และเผยว่าเลขานุการอีกคน ชื่อว่า ทาคาโยชิ ยามาโมโตะ จะรับตำแหน่งแทนบุตรชายของเขา
ทั้งนี้ คิชิดะยังเผยว่าได้ตำหนิลูกชายอย่างรุนแรงสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ท่าทีของเขาไม่สามารถระงับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องจาก ส.ส. ฝ่ายค้านและความไม่พอใจอย่างมากของประชาชน ซึ่งส่งผลให้คะแนนเสียงสนับสนุนของเขาลดลง
ด้าน ฮิโรคาสุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บุตรชายของนายกรัฐมนตรีจะคืนเงินชดเชย โบนัสสิ้นปี และเงินช่วยเหลืออื่นๆ ที่เขาอาจได้รับทั้งหมด
สำหรับตำแหน่งของโชทาโรที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว คือตำแหน่งเลขานุการด้านนโยบาย ซึ่งเป็น 1 ใน 8 ตำแหน่งเลขานุการบริหารของนายกรัฐมนตรี โดยการแต่งตั้งบุตรชายของคิชิดะถูกมองว่าเป็นขั้นตอนในการวางตัวเขาเพื่อสืบทอดเส้นทางการเมือง แม้จะถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเลือกที่รักมักที่ชัง
ขณะที่เหตุการณ์นี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่บุตรชายของคิชิดะตกเป็นเป้าเพราะใช้ตำแหน่งไปทำกิจกรรมส่วนตัว โดยก่อนหน้านี้โชทาโรยังถูกตำหนิเรื่องการใช้รถยนต์ของสถานทูตในการเที่ยวชมอังกฤษและปารีสเป็นการส่วนตัว และยังซื้อของที่ระลึกให้สมาชิกคณะรัฐมนตรีที่ห้างสรรพสินค้าหรูในลอนดอน ระหว่างที่ติดตามบิดาในการเดินทางไปเยือน
กรณีอื้อฉาวครั้งนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลของคิชิดะสูญเสียรัฐมนตรีถึง 4 คน ที่ลาออกในระยะเวลา 3 เดือน จากข้อกล่าวหาเรื่องความไม่ปกติทางการเงินหรือการเชื่อมโยงกับโบสถ์แห่งความสามัคคีที่กำลังเป็นประเด็นขัดแย้ง
ภาพ: STR / JIJI PRESS / AFP
อ้างอิง:
