Financial Services Agency (FSA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของญี่ปุ่น เตรียมทบทวนเกณฑ์การปล่อยกู้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ในต่างประเทศของธนาคารขนาดใหญ่ หลังจากภาคอสังหาทั่วโลกกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น และอุปสงค์ในตลาดที่ลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
รายงานประจำปีของ FSA ระบุว่า อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มสูงขึ้นนี้อาจทำให้เจ้าของที่ดินจำนวนหนึ่งเลือกที่จะผิดนัดชำระหนี้กลางคัน แทนที่จะถมเงินลงไปในโครงการก่อสร้างที่มีแนวโน้มจะไม่สร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ
ปัจจุบันธนาคารในญี่ปุ่นไม่ได้รายงานข้อมูลการปล่อยกู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ในต่างประเทศ แต่เข้าใจว่าพอร์ตสินเชื่อในเซ็กเมนต์นี้ของแบงก์ญี่ปุ่นมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก
อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Jun Ohta ซีอีโอของ Sumitomo Mitsui Financial Group (SMFG) สถาบันการเงินขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ออกมายอมรับว่า SMFG มีการตั้งสำรองหนี้เสียบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ในต่างประเทศ และเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการปล่อยกู้ในภาคอสังหาของสหรัฐฯ
นอกจากระมัดระวังความเสี่ยงในภาคอสังหาต่างประเทศแล้ว FSA ยังมีโจทย์ที่ต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้จัดการสินทรัพย์และกองทุนบำเหน็จบำนาญในประเทศ เพื่อตอบสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรี Fumio Kishida ที่ต้องการให้ประชาชนนำเงินออมออกมาลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น
อ้างอิง: