เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) แอ็กเนส บูซอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุท้องถิ่นว่า คลื่นความร้อนในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมที่ผ่านมาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1,435 คนในฝรั่งเศส
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสระบุว่า คลื่นความร้อนระลอกแรกของปีที่ฝรั่งเศสเผชิญในช่วงระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน ถึง 7 กรกฎาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 567 ราย ส่วนระลอกที่สองระหว่างวันที่ 21-27 กรกฎาคมที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจำนวน 868 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 9.1% จากค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาเดียวกัน โดยกว่าครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตมีอายุมากกว่า 75 ปี
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศสกล่าวว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในปีนี้ยังน้อยกว่าวิกฤตคลื่นความร้อนเมื่อปี 2003 ถึง 10 เท่า ซึ่งครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตจำนวน 15,000 ราย เธอมองว่าการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักและสร้างความตื่นตัวเกี่ยวกับคลื่นความร้อนช่วยให้ฝรั่งเศสลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงได้
ในเดือนมิถุนายน ฝรั่งเศสบันทึกสถิติอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 46 องศาเซลเซียส ขณะที่กรุงปารีสก็ทำลายสถิติอุณหภูมิสูงสุดที่วัดได้ที่ 42.6 องศาเซลเซียสเมื่อเดือนกรกฎาคม
นอกจากนี้หลายประเทศในยุโรปอย่างสหราชอาณาจักร เบลเยียม เยอรมนี ลักเซมเบิร์ก และเนเธอร์แลนด์ ต่างก็ทำลายสถิติอุณหภูมิสูงสุดเช่นกัน แต่ยังไม่มีประเทศใดออกมารายงานยอดผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนในปีนี้อย่างเป็นทางการ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
