ทั้งที่ปิดฤดูกาลไปแล้ว แต่เรื่องราวของศึกฟอร์มูลาวันก็ยังไม่จบลงง่ายๆ หลังจากที่ไม่กี่วันมานี้มีดราม่าใหม่ซึ่งอาจกลายเป็นรอยร้าวครั้งใหญ่ระหว่างองค์กรปกครองการแข่งขันรถยนต์อย่างสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ หรือ FIA กับฝ่ายดำเนินการแข่งขันอย่างฟอร์มูลาวัน อันมีจุดเริ่มต้นมาจากบทความเพียงชิ้นเดียว
จุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในโลกของรถสูตรหนึ่งครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นิตยสาร BusinessF1 ตีพิมพ์บทความที่อ้างว่าผู้บริหารทีมในศึกรถสูตรหนึ่งจำนวนหนึ่งเป็นกังวลเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่าง ซูซี โวล์ฟฟ์ ผู้อำนวยการ F1 Academy คนปัจจุบัน กับ โตโต โวล์ฟฟ์ ทีมบอสของเมอร์เซเดส AMG
แฟนๆ F1 เกือบทุกคนคงรู้ดีกันอยู่แล้วว่า ซูซีกับโตโตเป็นสามี-ภรรยากัน ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 2011 ซึ่งเป็นช่วงปลายอาชีพการเป็นนักขับ DTM ของซูซี
แตกต่างจาก โตโต โวล์ฟฟ์ ที่อยู่กับทีมเดียวมาอย่างยาวนาน เพราะเขาเข้ามารับงานที่เมอร์เซเดส AMG F1 ตั้งแต่ปี 2013 หลังออกจากตำแหน่งบริหารในทีมวิลเลียมส์ แต่ซูซีมีชีวิตที่ค่อนข้างโลดโผนหลังจากแขวนพวงมาลัย โดยเธอทำงานกับวิลเลียมส์ตั้งแต่ปี 2012-2015 ก่อนจะย้ายไปทำงานกับฟอร์มูลาอีในปี 2018-2022 และกลับมารับงานดูแล F1 Academy เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
นั่นเองที่เป็นประเด็นร้อน ซึ่งส่งผลให้กลายเป็นเรื่องราวดราม่าระหว่างองค์กรปกครองโลกยานยนต์อย่าง FIA และ F1 ที่เป็นฝ่ายจัดการแข่งขัน จนถึงปัจจุบันนี้
ทำไม ซูซี โวล์ฟฟ์ จึงสำคัญ?
ตำแหน่งผู้อำนวยการ F1 Academy ของ ซูซี โวล์ฟฟ์ ฟังผ่านๆ ก็อาจคิดว่าเป็นโรงเรียนสอนขับรถภายใต้สังกัดของ F1 หรืออาจเป็นโปรแกรมพัฒนานักขับ ไม่ก็อะไรทำนองนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว F1 Academy คือการแข่งขันชิงแชมป์รถที่นั่งเดี่ยวสำหรับผู้หญิงเท่านั้น ซึ่งเปิดแข่งขันฤดูกาลแรกในปี 2023
ให้คิดง่ายๆ ได้เลยว่าเป็น F1 ของผู้หญิง และนั่นหมายความแบบเข้าใจง่ายๆ ได้ว่า ซูซี โวล์ฟฟ์ ใหญ่ที่สุดในการแข่งขันรายการดังกล่าว นั่นทำให้เธอสำคัญมาก เพราะเธอกลายไปเป็นผู้กุมข้อมูลทุกอย่างของการแข่งขันเอาไว้ ซึ่งเธอมีหน้าที่เพียงแค่รายงานตรงต่อ สเตฟาโน โดเมนิคาลี ประธาน F1 คนเดียวเท่านั้น
ข้อมูลที่ว่ายังรวมถึงข้อมูลด้านเทคนิคของการแข่งขัน เช่น เรื่องของเครื่องยนต์, อากาศกลศาสตร์ (Aerodynamic), CFD, ดาวฟอร์ช และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าข้อมูลจำนวนมากเหล่านี้สามารถนำไปวิเคราะห์และนำไปปรับใช้งานในศึก F1 ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
ปัญหาจึงเกิดขึ้นเมื่อมีข้อสงสัยว่าซูซีเอื้อเฟื้อข้อมูลดังกล่าวให้กับโตโตหรือไม่? เพราะถ้ามีการเปิดเผยข้อมูลนี้ให้กันจริง ก็จะทำให้เมอร์เซเดส AMG มีความได้เปรียบเหนือทีมอื่นๆ ที่ร่วมแข่งขัน F1 ไปโดยปริยาย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านั่นเป็นข้อสงสัยที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะทั้งคู่มีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา ถึงแม้ว่าในฐานะความเป็นมืออาชีพแล้ว การเอื้อผลประโยชน์ทับซ้อนเช่นนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลยก็ตาม
แต่หากมองให้เป็นกลางแล้วก็ต้องยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีมูลสักเท่าไร และข้อมูลที่ ซูซี โวล์ฟฟ์ มีในมือ แม้จะสร้างความได้เปรียบให้ผู้ที่ได้ไปจริง แต่ก็คงไม่มากเท่าไรนัก
และหากโตโตได้มันไปแล้วจริงๆ แต่ผลงานของทีมเมอร์เซเดสยังตามหลังทีมเรดบูลล์สุดกู่แบบในฤดูกาลที่เพิ่งผ่านไป ก็ยิ่งหมายความว่าข้อมูลที่ว่าไม่ได้ส่งผลต่อการแข่งขันมากมายขนาดนั้น และอาจไม่ใช่เรื่องที่ทีมอื่นๆ ควรใส่ใจเลยก็ได้เช่นกัน
ความสามัคคีของคนใน F1
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่มีการเผยแพร่บทความดังกล่าวจากทาง BusinessF1 ฝั่ง โตโต โวล์ฟฟ์ และทีมเมอร์เซเดส AMG ก็ออกแถลงการณ์ปฏิเสธเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน และยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่มีการเอื้อข้อมูลที่เป็นประโยชน์ใดๆ จากซูซี ภรรยาของโตโตเลยแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นไม่ถึง 24 ชั่วโมงในเวลาไล่เลี่ยกัน ทาง FIA ก็กระโดดมารับลูกต่อทันทีด้วยการเปิดการสอบสวนว่าทางฝั่ง โตโต และ ซูซี โวล์ฟฟ์ มีผลประโยชน์ทับซ้อนต่อกันจริงหรือไม่
โดยแถลงการณ์ฉบับแรกของ FIA ที่มีการแจ้งการเปิดการสอบสวนนั้นได้มีข้อความที่จะทำให้เห็นความขัดแย้งระหว่าง FIA กับ F1 ในเวลาต่อมาชัดเจนขึ้น หลังพวกเขาระบุในแถลงการณ์ว่า ‘ได้รับข้อมูลมาจากฝ่ายบริหารขององค์กรใน F1’
แต่ทว่าทางฝั่ง F1 ก็สามัคคีกันอย่างเหลือเชื่อ เมื่อทุกค่ายต่างออกแถลงการณ์ว่าพวกเขาไม่ได้ร้องเรียนใดๆ ต่อ FIA เกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่าง โตโต โวล์ฟฟ์ และ ซูซี โวล์ฟฟ์
ที่แสบกว่านั้นก็คือ ถ้าหากไปไล่อ่านแถลงการณ์จากทุกค่ายแล้วจะพบว่ามีเนื้อหาเหมือนกันทุกตัวอักษร ย้ำว่า ‘ทุกตัวอักษร’ ซึ่งสามารถตีความได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมว่า “พวกข้าคุยกันแล้ว แล้วเอ็งไปคุยกับใครมา” ซึ่งเหมือนส่งสารกลับไปยัง FIA ว่า “อย่ามายุ่ง”
ด้าน F1 ที่ออกแถลงการณ์มาก่อนหน้านี้ก็ถือว่าเปิดหน้าชนไปก่อนแล้ว โดยตอกกลับไปถึงทาง FIA ว่า F1 มีกระบวนการที่หนาแน่นพอ เพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่แล้ว และอย่ายัดเยียดข้อกล่าวหาร้ายแรงโดยไร้เหตุผลเช่นนี้
ปิดท้ายที่แถลงการณ์ตอบโต้ของ ซูซี โวล์ฟฟ์ ซึ่งเรียกได้ว่า ‘เดือด’ ที่สุด โดยเธอกล่าวว่า เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ FIA จงใจใช้สถานะสมรสมาเล่นงานเธอและสามี โดยยังตอบโต้กลับทาง FIA ไปด้วยว่า มีพฤติกรรมข่มขู่และเกลียดชังผู้หญิง (ในจุดนี้เหมือนเธอจงใจกล่าวกระทบไปยัง โมฮัมเหม็ด เบน ซูลาเย็ม ประธาน FIA ซึ่งเคยมีพฤติกรรมการเหยียดเพศในอดีต) ซึ่งในช่วงท้ายของแถลงการณ์เธอยืนยันการปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาด้วย
FIA vs. F1 จบตรงไหนดี?
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ FIA กับ F1 เผชิญหน้ากัน ย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 หากยังจำกันได้ คดีการตัดสินของ ไมเคิล มาซี ที่ส่งผลต่อการลุ้นแชมป์ F1 ในปีดังกล่าวก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ F1 ไม่พอใจการทำงานของ FIA ในฐานะองค์กรกำกับดูแลอยู่ก่อนแล้ว
แถมในปี 2023 ยังมีประเด็นที่ซาอุดีอาระเบียต้องการจะซื้อ F1 แต่ทางลิเบอร์ตี้มีเดียตั้งราคาไว้สูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 7 แสนล้านบาท โดยทางเบน ซูลาเย็ม ก็ออกมากล่าวว่าเป็นราคาที่สูงเกินจริง แต่ทาง F1 ก็ตอบโต้ว่า FIA ไม่มีหน้าที่จะออกความเห็นเรื่องการพาณิชย์ของ F1
และอีก 1 ข้อขัดแย้งที่เพิ่งเกิดคือ การที่ FIA พยายามอย่างหนักในการผลักดันให้ F1 มีเพิ่มเป็น 12 ทีม จากปัจจุบันที่มีกันอยู่ 10 ทีม
โดยสาเหตุที่ F1 ต้องยอมอ่อนข้อให้ FIA ในบางครั้งแม้จะมีความเห็นไม่ตรงกัน เนื่องจาก FIA ก็ยังเป็นเจ้าของสิทธิ์ทางการค้าของ F1 ด้วยเช่นกัน หลังคณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดให้มีการแยกบทบาทด้านกฎระเบียบออกจากฝ่ายการค้า ส่งผลให้ทั้งสององค์กรแยกจากกัน แต่มีสัญญาร่วมกันอยู่ถึง 100 ปี
แล้วถ้าเป็นแบบนั้นเรื่องนี้จะจบลงตรงไหนดี?
คำตอบของคำถามนี้มีไม่กี่ทางคือ ทางแรก FIA ยอมถอยด้วยการปล่อยให้เรื่องซาแล้วตัดสินว่าคู่สามี-ภรรยาโวล์ฟฟ์ไม่มีความผิด เส้นทางนี้จะทำให้เกิดการประนีประนอม และเราก็จะได้เห็นศึก F1 ที่คุ้นชินดำเนินต่อไป
อีกทางคือ FIA ไม่ถอย นั่นหมายความว่าอาจถึงขั้นแตกหัก ซึ่งตรงนี้มีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะทีเดียว ไล่ตั้งแต่ผลตัดสินว่าผิดหรือไม่ ผิดมากหรือผิดน้อย โทษรุนแรงแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ดูจากความสามัคคีของฝั่ง F1 แล้ว พวกเขาจะอยู่เคียงข้างคู่สามี-ภรรยาโวล์ฟฟ์อย่างแน่นอน
ซึ่งหาก FIA ไม่ยอมถอยจริงๆ ทางที่แย่ที่สุดอาจถึงขั้นที่ลิเบอร์ตี้มีเดียยอมปล่อย F1 ออกไป แล้วเราอาจจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกของรถสูตรหนึ่งก็เป็นได้
อ้างอิง:
- www.bbc.com/sport/formula1/67641893
- www.si.com/fannation/racing/f1briefings/rumours/f1-rumour-fia-and-formula-one-at-war-after-recent-controversy-detrimental-lm22
- racingnews365.com/much-more-is-going-on-around-the-fia-investigation-into-the-wolff-family
- www.the-race.com/formula-1/fia-wolff-case-what-next-wider-f1-implications/