×

หุ้นไทยเนื้อหอม กองทุนต่างชาติตบเท้าร่วมงาน Thailand Focus 2023 เพิ่มเป็น 95 แห่ง ได้นายกฯ-รัฐบาลใหม่ช่วยเรียกความเชื่อมั่น

23.08.2023
  • LOADING...
Thailand Focus 2023

กองทุนต่างชาติตอบรับเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทย โดยตอบรับร่วมงาน Thailand Focus 2023 เพิ่มเป็น 95 แห่ง เพิ่มขึ้นมาจากปีที่แล้ว 76 แห่ง แถมมีหน้าใหม่มาร่วมงาน 24 แห่ง

 

แมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า งาน ‘Thailand Focus 2023 : The New Horizon’ ระหว่างวันที่ 23-25 สิงหาคม 2023 ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี โดยมีนักลงทุนสถาบันหรือกองทุนเข้ามาร่วมงานจำนวนรวม 95 กองทุน แบ่งเป็นนักลงทุนสถาบันต่างประเทศจำนวน 54 แห่ง และนักลงทุนสถาบันในประเทศจำนวน 41 แห่ง โดยมีตัวแทนเข้าร่วมงานรวมประมาณกว่า 200 ราย โดยมีจำนวนเพิ่มจากปี 2022 ที่จำนวนนักลงทุนสถาบันมาร่วมงานจำนวน 76 แห่ง โดยมีตัวแทนเข้าร่วมงานรวม 161 ราย

 

โดยในปีนี้ภาพรวมการจัดงานถือว่าได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ทั้งกลุ่มที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่แล้ว และรายใหม่ที่ยังไม่เคยร่วมงาน ทั้งกองทุน เช่น สิงคโปร์, ฮ่องกง, สหราชอาณาจักร, มาเลเซีย, สหรัฐอเมริกา, สวีเดน, ไต้หวัน รวมถึงกองทุนขนาดใหญ่จากจีนและฮ่องกงที่กลับมาร่วมงานในปีนี้อีกครั้ง หลังจากสถานการณ์โควิด อีกทั้งยังมีนักลงทุนสถาบันจากต่างประเทศรายใหม่ที่ไม่เคยมาร่วมงานจำนวน 24 แห่ง อาทิ กลุ่มสแกนดิเนเวียก็เข้ามาร่วมงานในปีนี้ด้วย ขณะที่ภายในงานผู้ลงทุนสถาบันได้ร่วมรับฟังข้อมูลทิศทางธุรกิจจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 118 บริษัท เพิ่มจากปี 2022 ที่มีจำนวน 116 บริษัท

 

ประกอบกับปัจจัยการเมืองของไทยที่มีพัฒนาการเชิงบวก จากความชัดเจนมากขึ้นหลังสามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ และสามารถเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ถือเป็นภาพบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยจากนี้คงต้องติดตามความคืบหน้าของรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจต่างๆ ที่จะออกมา ว่าจะสนับสนุนตลาดทุนหรือเศรษฐกิจโดยภาพรวมและสร้างความเชื่อมั่นอย่างไร โดยมีความท้าทายในหลายประเด็น ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลก, อัตราเงินเฟ้อ, ดอกเบี้ยนโยบาย และผลกระทบจากประเด็นความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ 

 

นอกจากนี้ยังมีประเด็นปัญหาความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย หลังจากที่เกิดปัญหาความเชื่อมั่นก่อนหน้านี้ในตลาดทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นในการปรับปรุงเกณฑ์กำกับดูแล บจ. ต่างๆ ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น 

 

ขณะที่มีประเด็นที่จะนำเสนอต่อรัฐบาลใหม่ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วคือ การสนับสนุนความสำคัญในกลุ่มอุตสาหกรรม Growth Engine ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการออกเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบริษัทที่มีขนาดใหญ่แต่อาจจะยังไม่มีกำไร ให้สามารถเข้ามาทำ IPO ผ่านเกณฑ์ใหม่คือ เกณฑ์มูลค่าหุ้นสามัญตามราคาตลาด (Market Capitalization Test) บริษัทที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สอดคล้องกับ BCG Model เพื่อให้สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ 

 

รวมถึงสนับสนุนกลุ่มสตาร์ทอัพและธุรกิจ SMEs โดยพัฒนา LiVE Platform เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และเมื่อปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวตลาดหุ้น LiVEx ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากธุรกิจสตาร์ทอัพและ SMEs ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดำเนินการต่อไป พร้อมปรับปรุงให้เข้ากับสถานการณ์และผู้ใช้บริการมากขึ้น ถัดมาคือให้ความสำคัญกับการนำ Data มาใช้ในการประมวลผลต่างๆ เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือพัฒนาศักยภาพของตลาดทุน ร่วมกับการกำกับดูแล ซึ่งจะทำให้ดูแลกำกับการซื้อ-ขายได้ดีขึ้น 

 

ส่วนประเด็นที่รัฐบาลชุดก่อนหน้านี้มีแผนในการจัดเก็บภาษีขายหุ้น (Transaction Tax) ที่มีการชะลอไปก่อนหน้านี้ ซึ่งในฝั่งตลาดทุนมีจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเข้าไปชี้แจงข้อมูลผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาเป็นวงกว้าง ซึ่งกระทบต่อระบบการออมและผู้ที่ลงทุนในกองทุนรวมจำนวนมาก ไม่ใช่เพียงแค่นักลงทุนที่เปิดซื้อ-ขายหุ้นเท่านั้น

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising