×

ภาคอุตสาหกรรมจีนกำไรดีกว่าคาด, ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำ All Time High อีกครั้ง: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (27 ธ.ค. 2562)

โดย FINNOMENA
27.12.2019
  • LOADING...
  • เอกชนสหรัฐฯ ฟ้องศาล กรณีได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า โดยศาลชั้นต้นสหรัฐฯ พิพากษาให้ บริษัท Transpacific Steel LLC ชนะคดีความที่มีต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ในกรณีที่รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถดำเนินการจัดเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม 25% บนสินค้าที่นำเข้าจากประเทศตุรกี ซึ่งประกาศในเดือน สิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา ได้ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ อาจต้องคืนเงินภาษีแก่ผู้ที่ถูกจัดเก็บภาษีนำเข้า อย่างไรก็ตาม คาดว่าคดีดังกล่าวจะมีการอุทธรณ์ในชั้นศาลต่อไป ซึ่งหากสิ้นสุดด้วยชัยชนะของบริษัท Transpacific Steel LLC อาจส่งผลให้มีการฟ้องร้องในลักษณะเดียวกันเพิ่มขึ้นตามมา

 

  • วานนี้รัฐบาลจีนประกาศเตรียมเดินหน้าปฏิรูปรัฐวิสาหกิจจีนครั้งใหญ่ ภายใต้แผนงาน 3 ปี ซึ่งประกอบไปด้วยทั้งการอนุมัติการร่วมทุนกับเอกชน การใช้กลไกทางตลาดช่วยผลักดันให้เกิดการแข่งขันและประสิทธิภาพ และเพิ่มเติมในส่วนของงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้รัฐวิสาหกิจจีนกลายเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกในอนาคต 

 

  • BOJ ยันอัดฉีดต่อเนื่อง ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ประธานธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แถลงข่าวระบุว่าพร้อมจะเดินหน้านโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปโดยไม่ลังเล หากอัตราเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ระดับ 2% หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงอัตราดอกเบี้ยระยะยาวไว้ใกล้ระดับศูนย์ นอกจากนี้ BOJ ยังประเมินว่า ภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังคงอยู่ในทิศทางการขยายตัวปานกลาง

 

  • สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ระดับอัตราค่าจ้างแท้จริงของสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับอัตราการว่างงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การลงมติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาอย่างยาวนานจากกรณี Brexit ข้างต้นอาจสร้างแรงกดดันต่อการจ้างงานได้ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงต่ำ ซึ่งมีระดับรายได้ที่ชะลอตัว และเริ่มมีสัญญาณของการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจจะเริ่มเห็นผลในช่วงปี 2020 

 

  • ภาคอุตสาหกรรมจีนกำไรดีกว่าคาด หนุนตลาดหุ้นพุ่งต่อเนื่อง วานนี้สำนักสถิติจีน เผยผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมจีนประจำเดือนพฤศจิกายนขยายตัว 5.4% (YoY) หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 593,900 ล้านหยวน ฟื้นตัวขึ้นจากเดือนตุลาคมที่กำไรหดตัว 9.9% (YoY) ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2019 จากภาวะการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนที่กลับมาฟื้นตัวจากแนวโน้มการเจรจาการค้าที่มีท่าทีประนีประนอมมากขึ้น

 

สรุปภาพรวมตลาดวานนี้

  • ดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นและทำ All Time High อย่างต่อเนื่อง หลังจาก Mastercard ออกมารายงานว่ายอดขายออนไลน์ช่วงเทศกาลก่อนปีใหม่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แสดงถึงภาคบริโภคของสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่ง นำโดยหุ้น Amazon ที่ปรับตัวขึ้น 4.4% 

 

  • ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว รวมไปถึงด้านอุปสงค์น้ำมันที่ยังดีอยู่จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ด้านราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยบางส่วน

 

สหรัฐฯ

  • Dow 30 ปิดที่ 28621.39 เพิ่มขึ้น 106 (0.4%)
  • S&P 500 ปิดที่ 3239.91 เพิ่มขึ้น 16.53 (0.5%)
  • Nasdaq ปิดที่ 9022 เพิ่มขึ้น 69.51 (0.8%)

 

ยุโรป

  • *หยุดทำการ*

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 ปิดที่ 23924.92 เพิ่มขึ้น 142.05 (0.6%)
  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 6794.2 เพิ่มขึ้น 9.1 (0.13%)
  • Shanghai ปิดที่ 3007.35 เพิ่มขึ้น 25.47 (0.85%)
  • SZSE Component ปิดที่ 10303.72 เพิ่มขึ้น 74.14 (0.72%)
  • China A50 ปิดที่ 14139.42 เพิ่มขึ้น 120.47 (0.86%)
  • Hang Seng ปิดที่ 27864.21 ลดลง -42.2 (-0.15%)
  • Taiwan Weighted ปิดที่ 12001.01 ลดลง -7.12 (-0.06%)
  • SET ปิดที่ 1579.03 เพิ่มขึ้น 6.03 (0.38%)
  • KOSPI ปิดที่ 2197.93 เพิ่มขึ้น 7.85 (0.36%)
  • IDX Composite ปิดที่ 6319.44 เพิ่มขึ้น 13.53 (0.21%)
  • BSE Sensex ปิดที่ 41163.76 ลดลง -297.5 (-0.72%)
  • PSEi Composite ปิดที่ 7842.28 ลดลง -30.32 (-0.39%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 61.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.66 (1.08%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 67.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.69 (1.03%)
  • ราคาทองคำปิดที่ 1516.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 11.45 (0.76%)

FINNOMENA

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง: 

  • InfoQuest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising