×

ทรัมป์ส่งสัญญาณบวกในเวที G7 พร้อมเจรจาจีน-ฝรั่งเศส แก้ปัญหาการค้า: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (27 ส.ค. 2562)

โดย FINNOMENA
27.08.2019
  • LOADING...
Finnomena
  • จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ 1. GDP Q2/2019 เยอรมนี โดยคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.4% (YoY) ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 0.7% (YoY) ขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะหดตัว 0.1% ซึ่งลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 0.4% (QoQ) สืบเนื่องจากภาคการส่งออกที่อ่อนแอจากผลพวงของสงครามการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชะลอตัวของภาคการบริโภคในจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าที่สำคัญของเยอรมนี 2. US CB Consumer Confidence ดัชนีบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่สำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา โดยครั้งนี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 130.0 จุด ลดลงจากครั้งก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 135.7 จุด สืบเนื่องจากความกังวลกรณีเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้มีการชะลอการบริโภคลง

 

  • สหรัฐฯ-จีนเตรียมกลับมาเจรจารอบใหม่ หลังจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สงครามการค้ากลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้ง จากการตอบโต้ด้วยมาตรการทางภาษีของจีนและสหรัฐฯ โดยวานนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยว่า เจ้าหน้าที่จีนได้ต่อสายตรงขอเดินหน้าเจรจาอีกครั้ง ทำให้ท่าทีที่แข็งกร้าวระหว่างสองประเทศลดลง ซึ่งคลายความกังวลให้กับตลาดการลงทุน จากความหวังว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นในอนาคต

 

  • G7 เริ่มส่งสัญญาณที่ดี โดยระหว่างการประชุมในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจและการลงทุนมากขึ้น ทั้งในส่วนของข้อตกลงเบื้องต้นระหว่างสหรัฐฯ และฝรั่งเศสต่อการเก็บภาษีดิจิทัล หลังฝรั่งเศสเรียกเก็บจากธุรกิจออนไลน์ที่ส่วนมากจะเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันอย่าง Facebook, Amazon, Google และ Apple ในอัตรา 3% ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่ทางการสหรัฐฯ โดยอ้างว่าเป็นการจงใจตั้งกำแพงภาษีกับสหรัฐฯ ส่งผลให้มีการขู่ออกมาตรการตอบโต้อย่างต่อเนื่อง โดยทางการฝรั่งเศสระบุว่า จะมีการจ่ายเงินคืนให้แก่บริษัทต่างๆ ที่ถูกเรียกเก็บภาษี โดยเป็นเงินส่วนต่างระหว่างภาษีของฝรั่งเศส และภาษีที่คิดจากกลไกที่จะมีการร่างขึ้นโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) นอกจากนั้นแล้ว ที่ประชุมยังมีท่าทีที่ดีต่อประเทศอิหร่าน โดยสหรัฐฯ อาจเข้าร่วมการปลดอาวุธนิวเคลียร์แบบสันติอีกครั้ง โดยสหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรหากอิหร่านยอมทำตามข้อตกลงฉบับใหม่ที่เตรียมการเจรจา ซึ่งระบุรวมไปถึงการปลดอาวุธและการเลิกให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้ายในภูมิภาค

 

  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมประกาศใช้แนวนโยบายการให้สินเชื่อรายย่อยอย่างเหมาะสม ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งหมด โดยมีกำหนดเริ่มบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2563 ซึ่งในช่วง 2-30 สิงหาคมนี้ จะเปิดรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ โดยมุ่งเน้นไปที่การประเมินความสามารถในการชำระหนี้อย่างถี่ถ้วน เพื่อให้พอต่อการดำรงชีพของกลุ่มลูกค้า ให้รายละเอียดครบถ้วนชัดเจน และไม่กระตุ้นหรือชักจูงให้ก่อหนี้เกินความจำเป็น โดยที่ลูกค้าไม่ได้ร้องขอ เพื่อป้องกันปัญหาหนี้สินครัวเรือนที่มากเกินตัวของภาคครัวเรือนไทย

 

  • ความเชื่อมั่นเกาหลีใต้ฮวบ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกาหลีใต้ปรับตัวลดลงเหลือ 92.5 จุดในเดือนสิงหาคม จาก 95.9 จุด การปรับตัวดังกล่าวเกิดขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่ชะลอตัว นอกจากนี้ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ออกมายอมรับว่า เกาหลีใต้อาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการขยายตัวตามตัวเลขประมาณการ GDP ที่ 2.2% หากการส่งออกและการลงทุนยังอยู่ในภาวะชะลอตัวเช่นนี้

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • เอเชียเปิดลบตามภาวะตลาดสหรัฐฯ เมื่อคืนวันศุกร์ตามคาด พร้อมกับการทำจุดสูงสุดใหม่ของราคาทองคำในรอบ 5 ปีที่ระดับ 1,563 ดอลลาร์/ออนซ์ เหตุวิตกสงครามการค้าจีนและสหรัฐฯ ก่อนที่จะเริ่มมีสัญญาณผ่อนคลายของตลาดออกมา หลังจากจบการประชุม G7 ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า จะมีการเจราจาการค้าใหม่กับจีนในเร็วๆ นี้ หลังได้รับสายตรงจากทางการจีนในวันอาทิตย์ เพื่อเรียกร้องให้ทั้งสองกลับมานั่งโต๊ะหารือกับประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง  ซึ่งท่าทีดังกล่าวช่วยสร้างความผ่อนคลายแก่ตลาดในช่วงเย็นวานนี้ได้พอสมควร
  • โดยตลาดหุ้นยุโรปอยู่ในแดนบวกเกือบตลอดวัน ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดกระโดดขึ้นและปิดบวกราวครึ่งหนึ่งจากที่ปรับตัวลงในวันก่อนหน้า แต่ยังคงต้องจับตาดู เพราะราคาทองคำยังคงปรับตัวอยู่ในระดับสูงสุดของวันศุกร์ราว 1,538 ดอลลาร์/ออนซ์ และ VIX Index ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง และการกลับมาแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลอื่นๆ ทั่วโลก โดย Dollar index กลับไปที่ระดับ 98 จุดอีกครั้ง ขณะที่วานนี้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ต่างพากันปรับตัวขึ้น แสดงให้เห็นว่านักลงทุนกลับมาเน้นถือเงินสดเพื่อรอดูความชัดเจนของสถานการณ์เป็นหลัก

 

ยุโรป

  • Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3348.84 เพิ่มขึ้น 14.59 (0.44%)
  • DAX ปิดที่ 11658.04 เพิ่มขึ้น 46.53 (0.4%)
  • FTSE 100 ปิดที่ 7094.98 ลดลง -33.2 (-0.47%)
  • FTSE MIB ปิดที่ 20676.83 เพิ่มขึ้น 202.97 (0.99%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 ปิดที่ 20261.04 ลดลง -449.87 (-2.17%)
  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 6440.1 ลดลง -83 (-1.27%)
  • Shanghai ปิดที่ 2863.57 ลดลง -33.86 (-1.17%)
  • Hang Seng ปิดที่ 25680.33 ลดลง -499 (-1.91%)
  • SET ปิดที่ 1622.73 ลดลง -23.95 (-1.45%)
  • KOSPI ปิดที่ 1916.31 ลดลง -31.99 (-1.64%)
  • BSE Sensex ปิดที่ 37494.12 เพิ่มขึ้น 792.96 (2.16%)

 

อเมริกา

  • Dow 30 ปิดที่ 25902.28 เพิ่มขึ้น 273.38 (1.07%)
  • S&P 500 ปิดที่ 2878.5 เพิ่มขึ้น 31.39 (1.1%)
  • Nasdaq ปิดที่ 7853.73 เพิ่มขึ้น 101.97 (1.32%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 53.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง -0.36 (-0.66%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 58.3 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง -0.5 (-0.85%)
  • ราคาทองคำ Gold ปิดที่ 1538.35 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.75 (0.05%)

FINNOMENA

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Prachachart
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising