ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ฟื้นตัว แต่ต่ำกว่าคาด, จีนเดินหน้าเสริมสภาพคล่องผ่าน CBS, Merck จับมือ IAVI พัฒนาวัคซีนสู้โควิด-19: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (27 พ.ค. 2563)

• เมื่อวานนี้ สหรัฐฯ ประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CB Consumer Confidence) ประจำเดือนพฤษภาคม ออกมาที่ 86.6 จุด ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 85.7 จุด แต่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 88.0 จุด โดยอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับสูง ยังคงกดดันการบริโภคของประชาชน

• เฮง สวี เกียต รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสิงคโปร์ แถลงเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 4 โดยพร้อมอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติมอีกราว 2.32 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สิงคโปร์ได้อัดฉีดเม็ดเงินรวมไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 20% ของ GDP ซึ่งอาจส่งผลให้รัฐบาลมีงบประมาณขาดดุลถึง 5.23 หมื่นล้านดอลลาร์

• ธนาคารกลางจีน (PBOC) ออกมาตรการเสริมสภาพคล่องสู่ระบบการเงินอีกครั้ง ผ่านทางเครื่องมือ Central Bank Bills Swap (CBS) จำนวน 5 พันล้านหยวน นับเป็นครั้งที่ 5 ของปี 2020 เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของหุ้นกู้ที่ไม่กำหนดวันครบอายุของธนาคาร พร้อมทั้งดำเนินการเสริมสภาพคล่องผ่านทางตลาดรับซื้อคืนพันธบัตร (Reverse Repo) อายุ 7 วัน อีก 1 หมื่นล้านหยวน เพื่อเสริมสภาพคล่องระยะสั้นในภาพรวมอีกทาง

• อูร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เผยเตรียมผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้เยอรมนีและฝรั่งเศสมีความเห็นตรงกันว่าคณะกรรมาธิการยุโรปควรเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้มากกว่านี้ และมีความเห็นตรงกันว่าควรจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจ EU โดยมาตรการดังกล่าวจะมีมูลค่ากว่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์ ที่จัดสรรให้ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากโควิด-19 ซึ่งจะจัดสรรจากงบกลางในยุโรปที่มีสมาชิกอยู่ 27 ประเทศ

• Merck บริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่าจะร่วมมือกับ IAVI ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ที่ไม่แสวงหาผลกำไร ในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 เพื่อให้การเข้าถึงวัคซีนเป็นไปได้สำหรับทุกประเทศทั่วโลก พร้อมเผยความคืบหน้าว่า ปัจจุบันการผลิตวัคซีนอยู่ในขั้นตอนการทดสอบเบื้องต้นแล้ว

ภาวะตลาดวานนี้

• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นจากความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 และแรงเข้าซื้อหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธนาคารจากนักลงทุนที่คาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นฟูเร็วๆ นี้ หลังมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา นำโดย หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่ง 16.30% และหุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่ง 9.23% เป็นต้น สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเช่นกันหลังเยอรมนีและสเปนเริ่มเปิดประเทศและคลายมาตรการจำกัดการท่องเที่ยวแล้ว ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มสายการบินเช้ามา หลังถูกเทขายมาอย่างยาวนาน โดยหุ้นอีซีเจ็ต พุ่ง 19% 

• สัญญาน้ำมันปรับตัวขึ้นหลังหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายการล็อกดาวน์มากขึ้น และเริ่มเปิดระบบเศรษฐกิจแล้ว ส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเริ่มสูงขึ้น ซึ่งคลายความกังวลของนักลงทุนที่เกรงว่าปริมาณน้ำมันจะล้นตลาด ด้านสัญญาทองคำปรับตัวลงจากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุนจากความคาดหวังที่เศรษฐกิจจะฟื้นฟูในเร็วๆ นี้ ส่งผลให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยไปสินทรัพย์ที่เสี่ยงกว่า

สหรัฐฯ

• Dow 30 อยู่ที่ 24995.11 เพิ่มขึ้น 529.95 (2.17%)
• S&P 500 อยู่ที่ 2991.77 เพิ่มขึ้น 36.32 (1.23%)
• Nasdaq อยู่ที่ 9340.22 เพิ่มขึ้น 15.63 (0.17%)

ยุโรป

• DAX อยู่ที่ 11504.65 เพิ่มขึ้น 113.37 (1%)
• FTSE 100 อยู่ที่ 6067.76 เพิ่มขึ้น 74.48 (1.24%)
• Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 2999.22 เพิ่มขึ้น 27.87 (0.94%)
• FTSE MIB อยู่ที่ 17860.46 เพิ่มขึ้น 264.56 (1.5%)

เอเชีย

• Nikkei 225 อยู่ที่ 21271.17 เพิ่มขึ้น 529.52 (2.55%)
• S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5780 เพิ่มขึ้น 164.4 (2.93%)
• Shanghai อยู่ที่ 2846.55 เพิ่มขึ้น 28.58 (1.01%)
• SZSE Component อยู่ที่ 10815.43 เพิ่มขึ้น 222.59 (2.1%)
• China A50 อยู่ที่ 13273.79 เพิ่มขึ้น 108.93 (0.83%)
• Hang Seng อยู่ที่ 23384.66 เพิ่มขึ้น 432.42 (1.88%)
• Taiwan Weighted อยู่ที่ 10997.21 เพิ่มขึ้น 126.03 (1.16%)
• SET อยู่ที่ 1336.09 เพิ่มขึ้น 15.11 (1.14%)
• KOSPI อยู่ที่ 2029.78 เพิ่มขึ้น 35.18 (1.76%)
• IDX Composite อยู่ที่ 4626.8 เพิ่มขึ้น 80.85 (1.78%)
• BSE Sensex อยู่ที่ 30609.3 ลดลง -63.29 (-0.21%)
• PSEi Composite อยู่ที่ 5496.83 ลดลง -42.36 (-0.76%)

Commodity

• ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 34.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.13 (0.38%)
• ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 36.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.47 (1.33%)
• ราคาทองคำ อยู่ที่ 1713.03 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -13.85 (-0.82%)

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: 

• Infoquest
• Bloomberg
• Investing
• CNBC
• Reuters