×

Fed และคลังสหรัฐฯ เห็นพ้องกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง, ทรัมป์ประกาศตัดงบสนับสนุน WHO: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (20 พ.ค. 2563)

โดย FINNOMENA
20.05.2020
  • LOADING...
  • จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ โดยวันนี้ธนาคารกลางจีนมีกำหนดประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ซึ่งคาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 3.85% เช่นเดิม หลังจากที่ปรับลดลง 0.20% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยมีกำหนดตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งถูกคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 0.50% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหลังจากผ่านมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา

 

  • เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สนับสนุนการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการเงินและการคลัง เนื่องจากวิกฤตโควิดครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากกว่าวิกฤตครั้งก่อนๆ และอาจมีการปล่อยกู้เพิ่มเติมอีก 500 ล้านดอลลาร์ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา อีกทั้งยังสนับสนุนให้บริษัทต่างๆ เข้ามากู้เงินเพิ่มเติมในโครงการ Main Street ในกรณีเลวร้ายที่สุดกระทรวงการคลังอาจสูญเสียเงินจำนวน 500 ล้านดอลลาร์ แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจจะกลับมาดีขึ้น และกระทรวงการคลังจะได้รายได้กลับเข้ามาเล็กน้อย

 

  • โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งสารถึงผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ขอระงับการส่งเงินช่วยเหลือชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า WHO ได้รับอิทธิพลจากจีน และเพิกเฉยต่อการควบคุมการแพร่ระบาดในเมืองอู่ฮั่นตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว อีกทั้งไม่ให้อิสระในการตรวจสอบสืบสวนโรค ให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง และไม่กดดันจีนให้แสดงความรับผิดชอบ โดยส่งทีมแพทย์เข้าช่วยเหลือประเทศที่ได้รับผลกระทบ

 

  • สำนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สหภาพยุโรปให้การสนับสนุนงานวิจัยร่วมกัน 9 ประเทศเผยแพร่รายงานการศึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์การล็อกดาวน์ใหม่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเสนอให้ล็อกดาวน์ 50 วัน จากนั้นให้เปิดเมืองหรือคลายล็อก 30 วัน ซึ่งจะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตและป้องกันการถดถอยของเศรษฐกิจได้บางระดับ งานวิจัยยังแนะนำให้เพิ่มความเข้มงวดในการเว้นระยะห่างทางสังคมมากขึ้น และเชื่อว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยให้ยอดผู้ติดเชื้อค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง

 

  • ไดซูเกะ ทามูระ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์จิชิ เผยยังไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่ายา Avigan มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาโควิด-19 และยังอยู่ในขั้นตอนที่ต้องประเมินอย่างระมัดระวัง เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงต่อบุตรในครรภ์ด้วย โดยก่อนหน้านี้ ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลอาจอนุมัติให้ใช้ยา Avigan รักษาโควิด-19 ได้ภายในสิ้นเดือนนี้

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง หลังการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ยังไม่มีผลที่แน่ชัด ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาไม่ดีนัก ซึ่งสร้างความกังวลให้นักลงทุนเทขายหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงออกมา สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลดลงหลังพุ่งแรงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการบริษัทที่ออกมาไม่ดี และแรงเทขายจากนักลงทุนบางส่วนเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ต หลังปัจจัยพื้นฐานยังไม่กลับมาดีนัก

 

  • สัญญาน้ำมันปรับตัวขึ้นจากปัจจัยดีมานด์ใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น หลังหลายๆ ประเทศคลายมาตรการล็อกดาวน์ นอกจากนี้การลดกำลังการผลิตน้ำมันของประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคา ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ หลัง เจอโรม พาวเวลล์ แถลงว่าจะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลให้ทองคำมีราคาถูกลง ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น เพื่อถัวเฉลี่ยความเสี่ยงของพอร์ต

 

สหรัฐฯ

  • Dow 30 อยู่ที่ 24206.86 ลดลง -390.51 (-1.59%)
  • S&P 500 อยู่ที่ 2922.94 ลดลง -30.97 (-1.05%)
  • Nasdaq อยู่ที่ 9185.1 ลดลง -49.72 (-0.54%)

 

ยุโรป

  • DAX อยู่ที่ 11075.29 เพิ่มขึ้น 16.42 (0.15%)
  • FTSE 100 อยู่ที่ 6002.23 ลดลง -46.36 (-0.77%)
  • Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 2902.58 ลดลง -9.3 (-0.32%)
  • FTSE MIB อยู่ที่ 17034.54 ลดลง -366.91 (-2.11%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 อยู่ที่ 20433 เพิ่มขึ้น 223 (1.1%)
  • S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5491.5 ลดลง -119.5 (-2.13%)
  • Shanghai อยู่ที่ 2898.58 เพิ่มขึ้น 23.16 (0.81%)
  • SZSE Component อยู่ที่ 11052.85 เพิ่มขึ้น 131.7 (1.21%)
  • China A50 อยู่ที่ 13481.91 เพิ่มขึ้น 92.19 (0.69%)
  • Hang Seng อยู่ที่ 24388.13 เพิ่มขึ้น 453.36 (1.89%)
  • Taiwan Weighted อยู่ที่ 10860.44 เพิ่มขึ้น 119.89 (1.12%)
  • SET อยู่ที่ 1309.95 เพิ่มขึ้น 23.42 (1.82%)
  • KOSPI อยู่ที่ 1980.61 เพิ่มขึ้น 43.5 (2.25%)
  • IDX Composite อยู่ที่ 4548.66 เพิ่มขึ้น 37.6 (0.83%)
  • BSE Sensex อยู่ที่ 30196.17 เพิ่มขึ้น 167.19 (0.56%)
  • PSEi Composite อยู่ที่ 5555.85 เพิ่มขึ้น 76.5 (1.4%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 31.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.17 (-0.53%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 34.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.29 (-0.83%)
  • ราคาทองคำ อยู่ที่ 1746.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 11.31 (0.663%)

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์ 

อ้างอิง: 

  • InfoQuest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters

 

 


ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising