×

อังกฤษเดินหน้าเจรจาการค้ากับแอฟริกา, จับตาดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่น คาดหดตัว -0.9%: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (20 ม.ค. 2563)

โดย FINNOMENA
20.01.2020
  • LOADING...
  • จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้ธนาคารกลางจีนมีกำหนดประกาศอัตราดอกเบี้ยแบบ Loan Prime Rate (LPR) ซึ่งคาดว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.15% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เพื่อจับตาดูการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ สามารถบรรลุข้อตกลงเฟส 1 ด้านญี่ปุ่นมีกำหนดประกาศดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ -0.9% (MoM) หดตัวน้อยลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ -4.5% (MoM) จากแนวโน้มการค้าที่ฟื้นตัว หลังสงครามการค้ามีความชัดเจนมากขึ้น

 

  • ธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2562 กำไรขยายตัวกว่า 30% (YoY) ขึ้นสู่ระดับ 95,560 ล้านบาท เป็นผลมาจากกำไรพิเศษ กรณีขายหุ้นในบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิต ส่งผลให้สามารถจ่ายปันผลพิเศษได้ 0.75 บาทต่อหุ้น ส่วนรายได้ดอกเบี้ยยังสามารถขยายตัวได้ 3% (YoY) แม้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในแนวโน้มขาลงสอดคล้องไปกับทิศทางยอดสินเชื่อรวมที่ลดลงเช่นเดียวกัน ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยไม่รวมกำไรพิเศษขยายตัว 2% (YoY) อย่างไรก็ตาม รายจ่ายในการดำเนินงานขยายตัวขึ้น 9% (YoY) จากการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานตามกฎหมายแรงงานใหม่ ขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพขยายตัวจากระดับ 3% สู่ระดับ 3.41% ส่งผลให้มีการกันสำรองเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 36,211 ล้านบาท

 

  • อังกฤษเดินหน้าทาบทามแอฟริกา หลัง Brexit ใกล้เข้ามา วานนี้สำนักงานข่าว Reuters รายงานว่า บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดินหน้าเจรจาการค้ากับ 21 ประเทศจากทวีปแอฟริกาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังจะให้เกิดการค้า และการลงทุนระหว่าง 2 ฝ่ายเพิ่มมากขึ้น ทั้งในส่วนของการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้า และธุรกิจถ่านหิน โดยให้อังกฤษและทวีปแอฟริกาเป็นพันธมิตรการลงทุนร่วมกัน เพื่อชดเชยกับความไม่แน่นอนกรณี Brexit ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ 

 

  • วานนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่า เกษตรกรสหรัฐฯ ที่เคยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อจะได้รับการชดเชยหลังจากการเจรจาการค้าเฟส 1 ลุล่วงไปด้วยดี พร้อมทั้งระบุว่า ในปี 2016 นั้น เขาชนะการเลือกตั้งในเท็กซัส และในคราวนี้เขาต้องการชัยชนะเช่นเดิม เพื่อให้สามารถผลักดันข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรสหรัฐฯ ได้ต่อไป

 

  • OPEC คาด น้ำมันยังไปได้ต่อ เหตุความต้องการสูงต่อเนื่อง โดยในปี 2019 ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นกว่า 35% แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าจุดสูงสุดในอดีต จากข้อตกลงลดกำลังการผลิตลงกว่า 500,000 บาร์เรลต่อวัน ประกอบกับความตึงเครียดกรณีสงครามการค้าคลี่คลายลง อย่างไรก็ตาม โมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการ OPEC ให้สัมภาษณ์ว่า ความต้องการบริโภคน้ำมันในปี 2020 ยังอยู่ในระดับที่แข็งแรง และยังมีโอกาสขยายตัวได้เหนือความคาดหมายต่อไป จากทิศทางการค้าที่ฟื้นตัว พร้อมระบุว่า ความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อราคาน้ำมันอย่างมีนัย

 

สรุปภาพรวมตลาดวันศุกร์ที่ผ่านมา

  • ดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น และทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง รวมไปถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่กล้าเข้าซื้อหุ้นมากขึ้น สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้น จากการคาดหวังว่า การเจรจาการค้าระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ จะออกมาในเชิงบวก รวมไปถึงเศรษฐกิจโลกไม่ได้ชะลอตัวอย่างที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 

 

  • ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นฟู แสดงถึงความต้องการใช้น้ำมันที่กลับมาดีขึ้น ขณะที่ด้านอุปทานลดลงไปแล้วจากการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC ด้านราคาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน รวมไปถึงตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรง ทำให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยงเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยไว้บางส่วน

 

สหรัฐฯ

  • Dow 30 ปิดที่ 29348.1 เพิ่มขึ้น 50.46 (0.17%)
  • S&P 500 ปิดที่ 3329.62 เพิ่มขึ้น 12.81 (0.39%)
  • Nasdaq ปิดที่ 9388.94 เพิ่มขึ้น 31.81 (0.34%)

 

ยุโรป

  • DAX ปิดที่ 13526.13 เพิ่มขึ้น 96.7 (0.72%)
  • FTSE 100 ปิดที่ 7674.56 เพิ่มขึ้น 64.75 (0.85%)
  • Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3808.26 เพิ่มขึ้น 34.12 (0.9%)
  • FTSE MIB ปิดที่ 24141.07 เพิ่มขึ้น 200.66 (0.84%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 ปิดที่ 24041.26 เพิ่มขึ้น 108.13 (0.45%)
  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 7064.1 เพิ่มขึ้น 22.3 (0.32%)
  • Shanghai ปิดที่ 3075.5 เพิ่มขึ้น 1.41 (0.05%)
  • SZSE Component ปิดที่ 10954.39 ลดลง -13.05 (-0.12%)
  • China A50 ปิดที่ 14393.72 เพิ่มขึ้น 17.91 (0.12%)
  • Hang Seng ปิดที่ 29056.42 เพิ่มขึ้น 173.38 (0.6%)
  • Taiwan Weighted ปิดที่ 12090.29 เพิ่มขึ้น 23.36 (0.19%)
  • SET ปิดที่ 1602.66 เพิ่มขึ้น 6.79 (0.43%)
  • KOSPI ปิดที่ 2250.57 เพิ่มขึ้น 2.52 (0.11%)
  • IDX Composite ปิดที่ 6291.66 เพิ่มขึ้น 5.61 (0.09%)
  • BSE Sensex ปิดที่ 41945.37 เพิ่มขึ้น 12.81 (0.03%)
  • PSEi Composite ปิดที่ 7722.58 เพิ่มขึ้น 69.4 (0.91%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 58.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.26 (0.44%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ 65.1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.48 (0.74%)
  • ราคาทองคำปิดที่ 1557.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.85 (0.44%)

 

FINNOMENA

 

อ้างอิง:

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising