×

ECB ลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจตามคาด, โอเปกเตรียมลดกำลังการผลิตน้ำมันอีก, จับตายอดค้าปลีกสหรัฐฯ วันนี้: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (13 ก.ย. 2562)

โดย FINNOMENA
13.09.2019
  • LOADING...
  • ECB ลดดอกเบี้ยตามคาด พร้อมดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วานนี้คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมทั้งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ประกอบไปด้วย 1. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.10% สู่ระดับ -0.50% 2. คงอัตราดอกเบี้ย Refinance ที่ 0.00% 3. เริ่มมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ (APP) อีกครั้งด้วยวงเงินสุทธิ 20,000 ล้านยูโรต่อเดือน เริ่มเดือนพฤศจิกายน 4. ปรับอัตราดอกเบี้ยวงเงินกู้ TLTRO-III จากเดิมที่อัตราดอกเบี้ยพื้นฐานอยู่ที่ MRO+0.10% เป็น MRO เท่านั้น ขณะที่เงื่อนไขอื่นๆ คงเดิม 5. ใช้ระบบ 2 Tier System ซึ่งเป็นการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่ธนาคารกลางจะไม่ถูกคิดอัตราดอกเบี้ยติดลบ โดยระบุให้ธนาคารสามารถฝากสภาพคล่องส่วนเกินได้ 6 เท่าของเงินทุนสำรองที่กำหนดไว้ ซึ่ง มาริโอ ดรากี ประธาน ECB ย้ำว่ามาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นจากความจำเป็นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจยุโรป ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยืดเยื้อ และระดับเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าเป้าหมาย เพื่อให้แน่ใจได้ว่าระดับอัตราเงินเฟ้อจะถึงระดับเป้าหมายอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งระบุเพิ่มเติมว่า มาตรการดังกล่าวไม่ได้มีเป้าหมายที่จะทำให้สกุลเงินอ่อนค่าแต่อย่างใด

 

  • ที่ประชุมโอเปกเผย เตรียมเดินหน้าลดกำลังการผลิตปลายปีนี้ วานนี้กลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ออกแถลงการณ์ เตรียมดำเนินการลดกำลังการผลิตในช่วงเดือนธันวาคมเพิ่มเติม หลังจากที่มีมติลดกำลังการผลิตไปแล้วกว่า 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่ต้นปี 2019 โดยการลดกำลังการผลิตในครั้งนี้ เห็นชอบให้มีการตรวจสอบในกลุ่ม OPEC+ ที่เข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้สามารถพยุงราคาน้ำมันให้ใกล้เคียงระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลตามที่ตั้งไว้ให้ได้ ด้านรัสเซีย หนึ่งในสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม OPEC+ ในครั้งนี้เผย รัสเซียต้องการเป็นพันธมิตรด้านพลังงานกับสหรัฐฯ เหมือนที่รัสเซียเป็นกับกลุ่มโอเปก เพื่อความร่วมมือด้านพลังงาน แต่สหรัฐฯ กลับไม่ต้องการเช่นนั้น ซึ่งส่งผลเสียต่อทั้งสองฝ่ายในฐานะผู้ผลิตน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลก

 

  • จับตายอดค้าปลีกสหรัฐฯ วันนี้ โดยสหรัฐฯ มีกำหนดประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งสะท้อนถึงปริมาณการบริโภคของภาคครัวเรือนสหรัฐฯ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่สำคัญในการช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา แม้ยอดการส่งออกจะมีแนวโน้มชะลอตัวก็ตาม โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจะขยายตัว 0.1% ลดลงจากครั้งก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 1.0% แต่ยังคงเป็นการขยายตัว 5 เดือนต่อเนื่อง

 

  • สงครามการค้ายังคลุมเครือ วานนี้กระแสข่าวสงครามการค้ายังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อตลาดหุ้นทั่วโลก โดยสำนักข่าว CNBC รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า อาจพิจารณาข้อตกลงการค้าชั่วคราวกับจีน แต่หากเลือกได้ต้องการข้อตกลงที่เป็นการถาวร และได้ประโยชน์เต็มที่มากกว่า หลังจากนั้นทางการออกมาปฏิเสธว่า สหรัฐฯ ยังไม่ได้พิจารณาข้อตกลงการค้าชั่วคราวแต่อย่างใด สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับการให้สัมภาษณ์ของสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐฯ ที่ระบุว่าสหรัฐฯ พร้อมที่จะตรึงการขึ้นภาษีต่อจีนในระหว่างการเจรจาการค้า และกล่าวเสริมถึงกรณีการชุมนุมประท้วงในฮ่องกงว่าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา

 

  • หุ้นเจ้าสัวเจริญ IPO ทำสถิติแพงสุด บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (AWC) หนึ่งในธุรกิจหลักของเจ้าสัวเจริญ เดินหน้าเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 6,957 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 22.47 ของจำนวนหุ้นสามัญ ที่ราคา 6.00 บาทต่อหุ้น คาดจะได้เม็ดเงินระดมทุนกว่า 48,000 ล้านบาท ซึ่งจะดัน Market Cap ให้พุ่งขึ้นไปแตะ 190,000 ล้านบาท AWC ประกอบธุรกิจพัฒนาและบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์แบ่งเป็น 1. กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) มีฐานลูกค้าทั่วโลกกว่า 300 ล้านราย 2. กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail & Commercial Building) ทั้งเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, เกทเวย์, พันธุ์ทิพย์ และตะวันนา นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของอาคารสำนักงานให้เช่าอีก 4 แห่ง

.

ภาวะตลาดวานนี้

 

  • ธนาคารกลางยุโรปประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก พร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ตลาดคาดไว้ โดยจะเริ่มการเข้าซื้อสินทรัพย์อีกครั้งในเดือน พ.ย. วงเงิน 2 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน อย่างไม่มีกำหนด ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนในแดนบวก อาทิ Dow 30 ปรับตัวขึ้นทดสอบจุดสูงสุดที่ 27,300 จุด ก่อนจะกลับมาปิดที่ 27,182.45 จุด ด้านราคาทองคำก็ปรับตัวขึ้นราว 25 ดอลลาร์/ออนซ์ ขึ้นสู่ระดับ 1,530 ดอลลาร์/ออนซ์ ก่อนจะกลับมาปิดที่ 1,505.8 ดอลลาร์/ออนซ์ 

 

สหรัฐฯ

  • Dow 30 ปิดที่ 27182.45 เพิ่มขึ้น 45.41 (0.17%)
  • S&P 500 ปิดที่ 3010.5 เพิ่มขึ้น 9.59 (0.32%)
  • Nasdaq ปิดที่ 8194.47 เพิ่มขึ้น 24.79 (0.3%)

 

ยุโรป

  • DAX ปิดที่ 12410.25 เพิ่มขึ้น 51.18 (0.41%)
  • FTSE 100 ปิดที่ 7344.67 เพิ่มขึ้น 6.64 (0.09%)
  • Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3538.86 เพิ่มขึ้น 22.04 (0.63%)
  • FTSE MIB ปิดที่ 22083.17 เพิ่มขึ้น 191.6 (0.88%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 ปิดที่ 21759.61 เพิ่มขึ้น 161.85 (0.75%)
  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 6654.9 เพิ่มขึ้น 16.9 (0.25%)
  • Shanghai ปิดที่ 3031.24 เพิ่มขึ้น 22.42 (0.75%)
  • SZSE Component ปิดที่ 9919.8 เพิ่มขึ้น 66.08 (0.67%)
  • China A50 ปิดที่ 13979.67 เพิ่มขึ้น 192.93 (1.4%)
  • Hang Seng ปิดที่ 27087.63 ลดลง -71.43 (-0.26%)
  • Taiwan Weighted ปิดที่ 10827.55 เพิ่มขึ้น 37.2 (0.34%)
  • SET ปิดที่ 1660.68 ลดลง -13.35 (-0.8%)
  • KOSPI ปิดที่ 2049.2 เพิ่มขึ้น 17.12 (0.84%)
  • IDX Composite ปิดที่ 6342.17 ลดลง -39.78 (-0.62%)
  • BSE Sensex ปิดที่ 37104.28 ลดลง -166.54 (-0.45%)
  • PSEi Composite ปิดที่ 7944.43 ลดลง -23.47 (-0.29%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 55.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง -0.63 (-1.13%)
  • ราคาน้ำมันเบรนท์ ปิดที่ 60.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง -0.36 (-0.59%)
  • ราคาทองคำปิดที่ 1505.8 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.6 (0.17%)

 

 

finnomena in partnership

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง: 

  • InfoQuest
  • Bloomberg
  • Investing
  • The STANDARD
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising