×

ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ขานรับ Fed ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย, ราคาน้ำมันดิบพุ่ง 4.5% หลังสหรัฐฯ เผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (11 ก.ค. 2562)

โดย FINNOMENA
11.07.2019
  • LOADING...
  • คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ประกาศคงประมาณการการขยายตัวของ GDP หลังจากไตรมาส 1 เศรษฐกิจยุโรปมีอัตราการเติบโตดีกว่าคาดจากแรงขับเคลื่อนของการบริโภคภายใน ประกอบกับการเร่งสั่งซื้อสินค้าคงคลังเพื่อเตรียมรับมือกับกรณี Brexit อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนจากกรณีสงครามการค้าได้กดดันให้ภาคการส่งออกชะลอตัว ส่งผลให้การบริโภคมีแนวโน้มลดลง แม้ค่าแรงและอัตราการว่างงานจะดีขึ้นก็ตาม

 

  • ตลาดหุ้นทั่วโลกจับตาแนวโน้มการกำหนดทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดยวานนี้ Fed ส่งสัญญาณว่าจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังกังวลว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลง ขณะที่นักลงทุนคาดหวังว่า Fed อาจปรับลดดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้วันนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ขานรับนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง ประกอบกับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้เริ่มปรับตัวลงอีกครั้ง

 

  • จับตาตัวเลขอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯ โดย Fed กำลังติดตามแนวโน้มการชะลอตัวในตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งหากยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง โอกาสที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายปลายเดือนนี้ก็มีสูงขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนมิถุนายนจะขยายตัว 0.2% เทียบเดือนก่อนที่ขยายตัว 0.1% และทรงตัวที่ระดับ 2.0% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

 

  • ราคาน้ำมันดิบทั้งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส (WTI) และเบรนท์พุ่งขึ้นกว่า 4.5% เมื่อคืนนี้ ด้วยแรงหนุนจากกระแสคาดหวังว่า Fed จะลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ลดลงมากกว่าที่คาด โดย EIA ประกาศตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังลดลง 9.5 ล้านบาร์เรล จากที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงเพียง 3.081 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ข่าวการผลิตน้ำมันที่ลดลง เนื่องจากแหล่งผลิตในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งคิดเป็น 17% ของการผลิตน้ำมันทั้งหมดของสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากพายุ ก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น

 

  • ราคาทองคำยืนเหนือระดับ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง ด้วยแรงหนุนจากการส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยเมื่อคืนนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 0.9% มาแตะระดับ 1,412.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

สภาวะตลาดวานนี้

  • ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้ม Fed ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดย เจอโรม เพาเวลล์ ประธาน Fed กล่าวต่อคณะกรรมาธิการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ว่า Fed จะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังมีความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงจากปัจจัยลบที่กำลังถาโถมเข้ามา ทั้งความตึงเครียดทางการค้า การลงทุนภาคธุรกิจที่ชะลอตัว ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่ยังปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ถ้อยแถลงของเพาเวลล์ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่า Fed มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้งปีนี้ โดยโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคมมีเพิ่มขึ้นเป็น 26% จาก 5%, ส่วนเดือน กันยายนโอกาสเพิ่มขึ้นเป็น 70% จาก 63% ขณะที่เดือนตุลาคมมีโอกาสเพิ่มเป็น 82% จาก 77% และเดือนธันวาคม โอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยมีเพิ่มขึ้นเป็น 89% จาก 86%

 

  • ไทยจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ โดยเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี ซึ่งตำแหน่งสำคัญประกอบด้วย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี, สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี, วิษณุ เครืองาม เป็นรองนายกรัฐมนตรี, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข การประกาศรายชื่อ ครม. อย่างเป็นทางการ ทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาเชื่อมั่น และเข้าซื้อหุ้นไทยวานนี้สุทธิ 3,249.84 ล้านบาท ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น 17.95 จุด หรือ 1.04%

 

  • ธนาคารกลางแคนาดามีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% โดยระบุว่า เศรษฐกิจแคนาดาเริ่มกลับมาขยายตัวอีกครั้ง แต่แนวโน้มได้ถูกบดบังด้วยผลกระทบจากความตึงเครียดด้านการค้า ด้วยเหตุนี้ทางธนาคารกลางแคนาดาจึงเห็นว่า การคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวถือเป็นแนวทางที่เหมาะสม

 

ยุโรป

  • STOXX600 ปิดที่ 387.14 ลดลง 0.78 (-0.20%)
  • DAX ปิดที่ 12,373.41 ลดลง 63.14 (-0.51%)
  • FTSE 100 ปิดที่ 7,530.69 ลดลง 5.78 (-0.08%)
  • FTSE MIB ปิดที่ 22,044.96 เพิ่มขึ้น 158.79 (+0.73%)

 

เอเชีย

  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,689.80 เพิ่มขึ้น 24.10 (+0.36%)
  • Shanghai ปิดที่ 2,915.30 ลดลง 12.93 (-0.44%)
  • Hang Seng ปิดที่ 28,204.69 เพิ่มขึ้น 88.41 (+0.31%)
  • KOSPI ปิดที่ 2,058.78 เพิ่มขึ้น 6.75 (+0.33%)
  • BSE Sensex ปิดที่ 38,557.04 ลดลง 173.78 (-0.45%)
  • Nikkei ปิดที่ 21,533.48 ลดลง 31.67 (-0.15%)
  • SET ปิดที่ 1,739.43 เพิ่มขึ้น 17.95 (+1.04%)

 

อเมริกา

DOW30 ปิดที่ 26,860.20 จุด เพิ่มขึ้น 76.71 (+0.29%)

S&P500 ปิดที่ 2,993.07 จุด เพิ่มขึ้น 13.44 (+0.45%)

NASDAQ ปิดที่ 8,202.53 จุด เพิ่มขึ้น 60.80 (+0.75%) 

 

Commodities

  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. พุ่งขึ้น 2.60 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิดที่ 60.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 2.85 ดอลลาร์ หรือ 4.4% ปิดที่ 67.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ราคาทองคำ COMEX ปิดที่ 1,412.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.00(+0.86%)

 

finnomena in partnership

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising