×

สหรัฐฯ-จีนอาจเลื่อนเซ็นข้อตกลงการค้าเฟสแรกไปเป็นเดือน ธ.ค., กนง. ดันมาตรการสกัดบาทแข็ง: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (7 พ.ย. 2562)

โดย FINNOMENA
07.11.2019
  • LOADING...
  • กนง. ลดดอกเบี้ยตามคาด พร้อมดันมาตรการสกัดบาทแข็ง วานนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 1.25% ซึ่งเป็นระดับอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดในรอบ 128 เดือน จากแนวโน้มการส่งออกที่ชะลอตัว ซึ่งสร้างแรงกดดันมายังการบริโภคภายในประเทศ ส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพมากขึ้น และกดดันให้อัตราเงินเฟ้อต่ำลงต่อเนื่อง แม้ภาวะการเงินในปัจจุบันอยู่ในระดับผ่อนคลายแล้วก็ตาม พร้อมกันนี้ยังได้ผลักดันมาตรการหนุนเงินทุนไหลออก เพื่อสกัดเงินบาทแข็งค่าประกอบไปด้วย

 

  1. การยกเว้นการนำเงินรายได้จากการส่งออกกลับประเทศ
  2. เพิ่มความเสรีการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ
  3. เพิ่มความเสรีในการโอนเงินออกนอกประเทศ
  4. เพิ่มความเสรีในการซื้อขายทองคำในประเทศด้วยสกุลเงินต่างประเทศ

 

  • จีนเดินหน้าเตรียมลงทุนในบริษัทพลังงานซาอุฯ 10,000 ล้าน สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าทางการและรัฐวิสาหกิจจีนเตรียมเดินหน้าลงทุนในบริษัท Saudi Aramco บริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลกสัญชาติซาอุดีอาระเบีย ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ากว่า 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยวงเงินลงทุนประมาณ 5,000-10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าการลงทุนครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและซาอุดีอาระเบียให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

 

  • สงครามการค้ายังไม่จบ การลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ เฟส 1 มีแนวโน้มจะถูกเลื่อนออกไปเป็นกลางเดือนธันวาคมจากกำหนดการเดิมในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากทีมงานเจรจาการค้าทั้ง 2 ฝ่ายต้องการเจรจาข้อตกลงเพิ่มเติม รวมไปถึงการจัดหาสถานที่ลงนามใหม่ หลังจากที่สถานที่เดิมคือชิลี ถูกยกเลิกไปจากเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล

 

  • จับตาตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ อังกฤษมีกำหนดประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยเดิมที่ 0.75% ต่อไป แม้อัตราเงินเฟ้อจะเร่งตัวสูงขึ้นในช่วงหลังก็ตาม ขณะที่ตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐฯ ถูกคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 215,000 ตำแหน่ง ลดลงจากครั้งก่อนหน้าที่ 218,000 ตำแหน่ง แต่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียง 200,000 ตำแหน่งต่อเนื่อง ส่วนตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเยอรมนีถูกคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ -0.4% (MoM) ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 0.3% จากอุปสงค์สินค้าอุตสาหกรรมและยานยนต์ที่ยังชะลอตัว

 

  • ทำเนียบขาวเดินหน้ารับที่ปรึกษาเพิ่มช่วยเหลือโดนัลด์ ทรัมป์ กรณีถูกไต่สวน สำนักงานข่าว Reuters รายงานว่า ทำเนียบขาวเตรียมเปิดรับที่ปรึกษา 2 ตำแหน่ง ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะเป็น แพม บอนดี อดีตอัยการรัฐฟลอริดา และ โทนี ซาเยกห์ อดีตโฆษกกรมธนารักษ์ เพื่อช่วยเหลือด้านการสื่อสารต่อสาธารณะชนในเชิงรุก และป้องกันทรัมป์จากการถูกโจมตีหลังถูกไต่สวนว่าใช้อำนาจแทรกแซงการเลือกตั้งปี 2020 ผ่านทางประเทศยูเครน

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • ดัชนี Dow Jones ปิดทรงตัวจากแรงกดดันของข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในเฟสแรกที่อาจเลื่อนออกไปลงนามในเดือนหน้า โดยนักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนเพื่อดูท่าทีของข้อตกลงการค้าที่ยังไม่แน่นอน ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยจากผลประกอบการของหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่ออกมาแข็งแกร่ง ทำให้ตลาดเริ่มคลายกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว

 

  • ตลาดหุ้นไทยปิดลบเล็กน้อย แม้ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยลง 0.25% จาก 1.50% เป็น 1.25% ต่อปีก็ตาม แต่ก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แสดงว่าเศรษฐกิจของไทยอาจเติบโตต่ำกว่าคาด ทำให้มีแรงเทขายทำกำไรออกมาบางส่วน

 

  • ตลาดน้ำมันปิดลบจากสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้น 7.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก ทำให้ตลาดกังวลเรื่องอุปทานที่มากจนเกินไปจนทำให้มีแรงเทขายออกมา ด้านตลาดทองคำกลับมาบวกอีกครั้งในรอบ 3 วันจากความไม่แน่นอนของข้อตกลงการค้าในเฟสแรก และค่าเงินของสกุลดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนตัวลง ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น

 

สหรัฐฯ

  • Dow 30 ปิดที่ 27492.56 ลดลง -0.07 (0%)
  • S&P 500 ปิดที่ 3076.77 เพิ่มขึ้น 2.15 (0.07%)
  • Nasdaq ปิดที่ 8410.63 ลดลง -24.05 (-0.29%)

 

ยุโรป

  • DAX ปิดที่ 13179.89 เพิ่มขึ้น 31.39 (0.24%)
  • FTSE 100 ปิดที่ 7396.65 เพิ่มขึ้น 8.57 (0.12%)
  • Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3688.74 เพิ่มขึ้น 12.22 (0.33%)
  • FTSE MIB ปิดที่ 23373.22 เพิ่มขึ้น 8.4 (0.04%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 ปิดที่ 23303.82 เพิ่มขึ้น 51.83 (0.22%)
  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 6660.2 ลดลง -36.9 (-0.55%)
  • Shanghai ปิดที่ 2978.6 ลดลง -12.97 (-0.43%)
  • SZSE Component ปิดที่ 9860.97 ลดลง -77.63 (-0.78%)
  • China A50 ปิดที่ 14296.11 ลดลง -34.8 (-0.24%)
  • Hang Seng ปิดที่ 27688.64 เพิ่มขึ้น 5.24 (0.02%)
  • Taiwan Weighted ปิดที่ 11653.07 เพิ่มขึ้น 9.04 (0.08%)
  • SET ปิดที่ 1623.99 ลดลง -2.88 (-0.18%)
  • KOSPI ปิดที่ 2144.15 เพิ่มขึ้น 1.51 (0.07%)
  • IDX Composite ปิดที่ 6217.55 ลดลง -46.61 (-0.74%)
  • BSE Sensex ปิดที่ 40469.78 เพิ่มขึ้น 221.55 (0.55%)
  • PSEi Composite ปิดที่ 8025.88 ลดลง -190.8 (-2.32%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 56.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.79 (-1.38%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 61.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -1.15 (-1.83)
  • ราคาทองคำปิดที่ 1492.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 8.75 (0.59%)

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง: 

  • InfoQuest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising