×

ธนาคารโลกคาดเศรษฐกิจโลกปี 2020 หดตัว 5.2-8%, รายงานชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอยตั้งแต่เดือน ก.พ.: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (9 มิ.ย. 2563)

โดย FINNOMENA
09.06.2020
  • LOADING...
  • วันนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกำหนดประกาศตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ประจำเดือนเมษายน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.0 ล้านตำแหน่ง ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 6.191 ล้านตำแหน่ง สะท้อนภาวะตลาดแรงงานที่ยังคงชะลอตัวจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา

 

  • วันนี้ธนาคารโลกออกรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2020 ระบุว่า หากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยืดเยื้อ อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกหดตัวได้ถึง 8% อย่างไรก็ตาม หากโควิด-19 ไม่ยืดเยื้อ เศรษฐกิจโลกก็น่าจะหดตัว 5.2% ซึ่งเป็นระดับรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปอาจหดตัว 6.1% และ 9.1% ตามลำดับ ขณะที่จีนอาจเติบโตเพียง 1% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำที่สุดในรอบ 40 ปี 

 

  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) เสริมสภาพคล่องเข้าตลาดการเงินจีนผ่านทาง Reverse Repos อายุ 7 วัน วงเงิน 1.2 แสนล้านหยวน เพื่อชดเชยสภาพคล่องของ MLF ที่ครบกำหนดวันนี้กว่า 5 แสนล้านหยวน ส่งผลให้มีสภาพคล่องออกจากระบบไปกว่า 3.8 แสนล้านหยวน โดยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา  PBOC ได้เสริมสภาพคล่องไปแล้วกว่า 2.2 แสนล้านหยวน

 

  • สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจสหรัฐฯ เผย เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อทั้งภาคการผลิตและการจ้างงานอย่างรุนแรงแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้ GDP ติดลบถึง 4.8% ในไตรมาส 1/2020 ขณะเดียวกันทางสำนักงานฯ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในไตรมาส 3 ซึ่งจะส่งผลให้ภาวะถดถอยในครั้งนี้มีระยะเวลาสั้นที่สุดนับตั้งแต่มีมา ถึงแม้จะรุนแรงก็ตาม

 

  • Fed เผชิญปัญหาในโครงการเข้าซื้อหุ้นกู้เอกชน หลังข้อกำหนดอาจส่งผลให้บริษัทต่างๆ ถูกปรับลดความน่าเชื่อถือลง อย่างไรก็ตาม ทาง Fed ได้มีการปรับมาตรการโครงการกู้ยืม Main Street Facility ให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางเข้าถึงได้มากขึ้น โดยมีการปรับลดวงเงินกู้ขั้นตํ่า ขยายระยะเวลากู้ยืม ขยายระยะเวลาชำระคืนเงินต้น และเพิ่มสัดส่วนการเข้าซื้อสินเชื่อของ Fed

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มสายการบินและเรือสำราญด้วยความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวหลังคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดย หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่ง 14.82% หุ้นนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง พุ่ง 19.75% เป็นต้น สวนทางกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงจากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน หลังตลาดหุ้นเริ่มปรับตัวขึ้นมาสูงแล้ว ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังมีมุมมองว่าตลาดยังอยู่ในช่วงขาลงอยู่ 

 

  • สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงจากการประกาศของซาอุดีอาระเบียที่จะกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตให้ครบตามโควตาจากที่ก่อนหน้านี้ผลิตต่ำกว่าที่ตกลงกันไว้ สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนที่อาจเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นเข้าซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรจากราคาทองคำที่ถูกลง

 

สหรัฐฯ

  • Dow Jones อยู่ที่ 27572.44 เพิ่มขึ้น 461.46 (1.7%)
  • S&P 500 อยู่ที่ 3232.39 เพิ่มขึ้น 38.46 (1.2%)
  • Nasdaq อยู่ที่ 9924.75 เพิ่มขึ้น 110.66 (1.13%)

 

ยุโรป

  • DAX อยู่ที่ 12819.59 ลดลง -28.09 (-0.22%)
  • FTSE 100 อยู่ที่ 6472.59 ลดลง -11.71 (-0.18%)
  • Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3366.29 ลดลง -18 (-0.53%)
  • FTSE MIB อยู่ที่ 20231.38 เพิ่มขึ้น 43.87 (0.22%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 อยู่ที่ 23178.1 เพิ่มขึ้น 314.37 (1.38%)
  • S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5998.7 เพิ่มขึ้น 6.9 (0.12%)
  • Shanghai อยู่ที่ 2937.77 เพิ่มขึ้น 6.97 (0.24%)
  • SZSE Component อยู่ที่ 11215.76 เพิ่มขึ้น 35.16 (0.31%)
  • China A50 อยู่ที่ 13872.88 เพิ่มขึ้น 104.65 (0.76%)
  • Hang Seng อยู่ที่ 24776.77 เพิ่มขึ้น 6.36 (0.03%)
  • Taiwan Weighted อยู่ที่ 11610.32 เพิ่มขึ้น 130.92 (1.14%)
  • SET อยู่ที่ 1438.66 เพิ่มขึ้น 2.96 (0.21%)
  • KOSPI อยู่ที่ 2184.29 เพิ่มขึ้น 2.42 (0.11%)
  • IDX Composite อยู่ที่ 5070.56 เพิ่มขึ้น 122.78 (2.48%)
  • BSE Sensex อยู่ที่ 34370.58 เพิ่มขึ้น 83.34 (0.24%)
  • PSEi Composite อยู่ที่ 6514 เพิ่มขึ้น 48.87 (0.76%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 38.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.14 (5.72%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 40.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.31 (5.78%)
  • ราคาทองคำ อยู่ที่ 1697.53 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -26.02 (-1.52%)

 

 

FINNOMENA

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising