หลังจากเปิดมานาน 5 ปี บาร์ค็อกเทลหลังตู้ล็อกเกอร์ย่านทองหล่อ #FindTheLockerRoom ก็ถือโอกาสเปลี่ยนเมนูใหม่แบบยกเล่มเป็นครั้งแรก โดยยังคงคอนเซปต์การเล่นกับเวลาไว้เช่นเดิม ทว่าพวกเขาจะไม่ได้พาทุกคนไปท่องเวลาจากอดีตสู่อนาคตอย่างที่ผ่านมา เพราะเมนูค็อกเทลเล่มใหม่จะหยิบสิ่งของในความทรงจำจากช่วงยุคปี 60-80 มาเป็นแรงบันดาลใจในแต่ละแก้วแทน
#FindTheLockerRoom เกิดจากการร่วมมือกันของ 4 บาร์เทนเดอร์ คือ ‘โคลิน เชีย’ จากบาร์ Nutmeg & Clove ในสิงคโปร์, ‘ฮิเดสึกุ อูเอโนะ’ จากบาร์ High Five ในโตเกียว, ‘นิก วู’ เจ้าของบาร์ East End แห่งเมืองไทเป และ ‘หนึ่ง-รณภร คณิวิชาภรณ์’ จากบาร์ Backstage ซึ่งในวันที่เราแวะไปก็ได้พบพวกเขาเกือบทุกคน ยกเว้น นิก วู ที่ยังเดินทางมาไม่ได้
หลังจากอูเอโนะซังลงมือชงค็อกเทลซิกเนเจอร์ของเขา The White Lady ให้พวกเราจิบเป็นการทักทาย ซึ่งทุกคนลองสั่งมาชิมได้เช่นกัน ‘ปิง-โรจนัสถ์ เจริญศรี’ ผู้ดูแลเมนูเครื่องดื่มของที่นี่ ก็เริ่มพาเราเข้าสู่ช่วงเปิดตัวเมนูใหม่ด้วยการเสิร์ฟ 3 เมนูแนะนำจากทั้ง 3 หมวดในเล่ม
โดยเขาบอกอีกว่าเมนูใหม่รอบนี้จะมีทั้งหมด 9 เมนู ใส่ความสนุกลงไปตามแรงบันดาลใจที่ได้จากแฟชั่น ของเล่น และดนตรี
เริ่มกันที่แก้วแรก Who Wears Short Shorts เป็นค็อกเทล 3 เลเยอร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแฟชั่นยุค 70 ซึ่งแต่ละชั้นจะมีรสชาติของตัวเอง เริ่มจากชั้นล่างสุดจะมีรสชาติแตงโม มะเขือเทศ ทาบาสโก ชั้นกลางเป็นเมลอน แอปเปิ้ล ใบเตย ก่อนปิดด้วยจินผสมแครอตและสับปะรดชั้นบนสุด แก้วนี้ใครจะจิบทีละรสชาติหรือผสมกันไปเลยก็ได้
ต่อมา Magic F8 เป็นแก้วที่มีแรงบันดาลใจมาจากของเล่น และใส่ลูกเล่นได้สนุกดี เพราะทุกคนจะถูกตอบคำถามที่อยู่ในในใจด้วยกระดาษกินได้ ส่วนด้านบนเป็นวุ้นใบเตย ให้เราตักกินเรื่อยๆ พร้อมจิบค็อกเทลผสมจากรัม น้ำมะพร้าว ข้าวหอม และชาเฉาก๊วย
สุดท้าย Strawberry Fields เป็นค็อกเทลที่รังสรรค์ขึ้นจากเพลง Strawberry Fields Forever ของวง The Beatles แต่แก้วนี้จะไม่มีส่วนผสมของสตรอว์เบอร์รีเลย ผิดกับชื่อ เนื่องจากเบื้องหลังของเพลงนี้เกี่ยวกับสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ จอห์น เลนนอน ผู้แต่งเพลง Strawberry Fields Forever ชอบแวะไปเล่นกับเด็กๆ เพื่อตามหาความสุข ไม่ได้เกี่ยวกับทุ่งสตรอว์เบอร์รีแต่อย่างใด
ค็อกเทลแก้วนี้จึงผสมขึ้นจากจิน มะเขือเทศ ราสป์เบอร์รี แครนเบอร์รี พีช และนมเปรี้ยว เพื่อให้รสชาติที่ออกมาเหมือนสตรอว์เบอร์รี ส่วนด้านบนที่มาพร้อมกันเป็นเยลลี่มะเขือเทศ
นอกจากเครื่องดื่ม เมนูติ่มซำอันเลื่องชื่อของ Find The Locker Room ก็ยังมีให้สั่งได้เหมือนเดิม หากใครจะแวะมาตอนท้องว่างก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหิว แถมตอนนี้ชั้นล่างบาร์ยังมีโซนใหม่ Find The Monkey Room ให้แวะมาจิบเครื่องดื่ม ฟังเพลงสนุกๆ กันได้ด้วย โดยบรรยากาศจะเป็นแนวดิสโก้
Find The Locker Room
Open: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 18:00-01:30 น.
Address: Sukhumvit 55
Budget: 500-1,000 บาท
Contact: 09 8287 1898
Facebook: https://www.facebook.com/FindTheLockerRoom
Map: