วานนี้ (19 มิถุนายน) ที่ประชุมของสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (FINA) ซึ่งประชุมกันที่ประเทศฮังการี ได้โหวตให้ยุติการอนุญาตให้นักกีฬาข้ามเพศลงแข่งขันกับผู้หญิง ถ้านักกีฬาคนนั้นได้ผ่านการเติบโตในฐานะผู้ชายมาแล้ว
โดย FINA วางแผนที่จะจัดการแข่งขันประเภทโอเพน สำหรับนักกีฬาว่ายน้ำข้ามเพศที่มีเพศที่แตกต่างจากตอนที่กำเนิด ขณะที่นโยบายใหม่ของ FINA นี้ได้รับการโหวตผ่าน 71% จากสมาชิก 152 คนของ FINA ซึ่งเป็นนโยบายที่ FINA อธิบายว่าเป็น ก้าวแรกสู่การเปิดรับนักกีฬาข้ามเพศอย่างเต็มตัว
เอกสาร 34 หน้าของนโยบายใหม่นี้ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า นักกีฬาข้ามเพศจากชายไปหญิงจะยังสามารถลงแข่งขันได้ ถ้าพวกเขาเป็นวัยรุ่นถูกระงับจุดเด่นทางเพศชายที่ระดับ Tanner Stage 2 จุดที่เริ่มต้นพัฒนาความแข็งแรงของร่างกายก่อนอายุ 12 ปี
ซึ่งหมายความว่า ลีอา โธมัส นักว่ายน้ำข้ามเพศชาวอเมริกัน ที่ต้องการลงแข่งขันโอลิมปิก จะถูกห้ามไม่ให้ลงแข่งขันในประเภทหญิง
“หลักการในการเขียนนโยบายนี้เป็นหลักการที่ครอบคลุมโดยใช้วิทยาศาสตร์เป็นที่ตั้ง และเน้นการเปิดรับทุกคน โดยมีสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเน้นย้ำถึงความยุติธรรมในการแข่งขัน” เบรนต์ โนวิกกิ หนึ่งในบอร์ดบริหารของ FINA กล่าว
ด้าน ฮัสซัน อัล-มุสซาลาม ประธาน FINA กล่าวว่า
“องค์กรพยายามปกป้องสิทธิของนักกีฬาในการแข่งขัน แต่เช่นเดียวกัน ก็ต้องปกป้องความยุติธรรมของการแข่งขัน
“FINA จะเปิดรับนักกีฬาเสมอ การเปิดประเภทการแข่งขันแบบโอเพนหมายความว่าทุกคนจะมีโอกาสลงแข่งขันในระดับสูงสุด นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน FINA จะเป็นผู้นำ เราอยากให้นักกีฬารู้สึกว่าพวกเขามีโอกาสเข้าร่วมในการพัฒนาไอเดียของขั้นตอนเหล่านี้”
ชาร์รอน เดวีส์ อดีตนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติอังกฤษที่ผ่านโอลิมปิกเกมส์มาแล้ว 3 สมัย ซึ่งต่อต้านการเปิดให้นักกีฬาข้ามเพศลงแข่งขันในว่ายน้ำหญิงระดับสูงมาตลอด ได้เปิดเผยกับ BBC Sport ว่ารู้สึกภูมิใจกับ FINA
“4 ปีก่อน ฉันได้ร่วมกับนักกีฬาโอลิมปิกอีก 60 คนเขียนถึง IOC (คณะกรรมการโอลิมปิกสากล) และขอร้องให้ใช้วิทยาศาสตร์เป็นหลักในการตัดสินใจ และไม่มีองค์กรกีฬาไหนใช้วิทยาศาสตร์จนถึงตอนนี้
“ว่ายน้ำเป็นกีฬาที่เปิดรับทุกคน เรารักทุกคนที่มาว่ายน้ำและมีส่วนร่วม แต่หลักการของกีฬาคือความยุติธรรม และต้องเป็นความยุติธรรมสำหรับทั้ง 2 เพศ”
ด้าน Athlete Ally กลุ่มที่สนับสนุนนักกีฬา LGBTIA+ ที่ก่อนหน้านี้เคยออกจดหมายสนับสนุน ลีอา โธมัส เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ได้เรียกนโยบายใหม่ว่าเป็นนโยบายที่เลือกปฏิบัติ อันตราย ไม่มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ และไม่ตรงกับหลักการของ IOC
อ้างอิง: