×

ชาวฟิลิปปินส์ยอมไกล่เกลี่ยรับค่าสินไหมเหตุทำร้ายร่างกายที่ซอยสุขุมวิท 11 เตรียมกลับประเทศทันที

โดย THE STANDARD TEAM
06.03.2024
  • LOADING...

วันนี้ (6 มีนาคม) ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ลุมพินี พนักงานสอบสวนนัดหมายให้ ณัฐพร บัวแก้ว หรือ แชมป์ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย LGBTQIA+ ชาวฟิลิปปินส์ จากกรณีที่กลุ่ม LGBTQIA+ ชาวไทยรวมตัวไปกับกดดันกลุ่มฟิลิปปินส์ที่ซอยสุขุมวิท 11 เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 5 มีนาคม ให้มาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีชาวฟิลิปปินส์

 

ทางเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทยเป็นผู้พาคู่กรณีของแชมป์มาที่ สน.ลุมพินี เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนตาม พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยฯ

 

มีรายงานว่าในที่ประชุมมีคนกลางที่ร่วมการไกล่เกลี่ย อาทิ เจ้าหน้าที่สถานทูตฯ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต. วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 รวมถึงสมาคมไกล่เกลี่ย และสมาคมล่ามแห่งประเทศไทย

 

ภายหลังการไกล่เกลี่ยนานกว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.ต. วิทวัฒน์ ระบุว่า การเจรจาไกล่เกลี่ยครั้งนี้จบลงด้วยดี ในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ติดใจจะดำเนินคดี ทางแชมป์ได้มอบเงินค่ารักษาพยาบาล 10,000 บาท ให้ผู้บาดเจ็บ ซึ่งความเห็นแพทย์เบื้องต้นชาวฟิลิปปินส์ต้องรักษาตัว 14 วัน เนื่องจากได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและลำตัว

 

ด้าน JAYMAR TIMWAT หรือ ไอวี่ คู่กรณีชาวฟิลิปปินส์ กล่าวว่า อยากจบปัญหาทุกอย่าง และอยากมีความสัมพันธ์เป็นเพื่อนกันจะดีกว่า ยืนยันว่าในคืนเกิดเหตุตนไม่ได้รู้สึกโกรธ แต่แค่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหลังจากนี้จะเดินทางกลับประเทศฟิลิปปินส์ทันที และยังไม่มีแผนว่าจะกลับมาประเทศไทยเร็วๆ นี้

 

ขณะที่แชมป์กล่าวขอบคุณผู้เสียหายที่ยอมไกล่เกลี่ยทำให้ไม่ถูกดำเนินคดี ถือเป็นการจบลงด้วยดี ทำให้ความสัมพันธ์ต่างๆ เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ทางผู้เสียหายไม่ได้เรียกร้องเงิน แต่ 10,000 บาทนั้นเป็นสิ่งที่ตนตั้งใจที่จะให้เอง เบื้องต้นได้ขอโทษผู้เสียหาย ยอมรับว่าสิ่งที่ทำคือความรุนแรง และตอนนั้นทำลงไปด้วยอารมณ์ ก่อนกล่าวทิ้งท้ายว่ายินดีต้อนรับกลับประเทศไทย

 

พล.ต.ต. วิทวัฒน์ กล่าวต่อว่า กรณี LGBTQIA+ ชาวฟิลิปปินส์ที่ก่อเหตุรุมทำร้ายคนไทยที่ยังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ขณะนี้สามารถพิสูจน์ทราบได้ 1 คน อยู่ระหว่างเตรียมออกหมายจับ และต้องมีการขยายผลเพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลเพิ่มเติมว่ามีใครมีส่วนของการกระทำความผิดบ้าง

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising