นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และมอบปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วม หลังยอมให้พื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะแปลงนาข้าว เป็นพื้นที่รับน้ำจากการระบายน้ำจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เพื่อช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง บริเวณศาลาอเนกประสงค์วัดสันปูเลย ตำบลบ้านด้าย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อให้เกษตรกรใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ (สารชีวภัณฑ์) มาคลุกกับเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรจะทำการปลูกหลังน้ำลด และใช้ป้องกันกำจัดโรคข้าวที่อาจเกิดขึ้นได้หลังน้ำลด
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวว่า จากการสำรวจพื้นที่ทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด 4 ตำบล 7 หมู่บ้าน 126 ราย รวมพื้นที่ประมาณ 1,266 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความช่วยเหลือประมาณ 1,400,000 บาท ควบคู่กับส่งทีมลงไปสำรวจพร้อมให้การช่วยเหลือ ให้ความรู้การฟื้นฟู และดูแลพื้นที่หลังน้ำลดทันที โดยมีอัตราการช่วยเหลือไร่ละ 1,113 บาท รายละไม่เกิน 30 ไร่ และต้องตรวจสอบพื้นที่เสียหายจริงด้วย คณะกรรมการตรวจสอบระดับหมู่บ้านก่อนพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเงินช่วยเหลือจะโอนผ่านบัญชีเกษตรกรโดยตรง ทั้งนี้เกษตรจะได้รับมอบเชื้อราไตรโคเดอร์ให้กับเกษตรกรทุกคนใช้ป้องกันและกำจัดโรคข้าวหลังน้ำลดกว่า 850 กิโลกรัม แล้วกำชับให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเต็มที่ สำหรับปัจจัยการผลิตให้เกษตรกรมีทั้งเมล็ดพันธุ์ผัก ไส้เดือนฝอยชนิดผง เชื้อไวรัสสำหรับกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยชีวภาพ พร้อมกันนี้วิทยาลัยเทคนิคเชียงรายได้ออกหน่วยบริการซ่อมแซมเครื่องจักรกลการเกษตรของเกษตรกร เช่น ซ่อมรถอีแต๋น เครื่องสูบน้ำ เครื่องตัดหญ้า
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวย้ำว่า จากการยอมให้พื้นที่การเกษตรเป็นพื้นที่รับน้ำของการระบายน้ำจากถ้ำหลวง แล้วผันน้ำออกจากหนองน้ำพุและขุนน้ำนางนอน มีเกษตรกรไม่ขอรับเงินช่วยเหลือหรือเงินชดเชย 19 ราย เพื่อเป็นการเสียสละช่วยเหลือทีมหมูป่าที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง แบ่งเป็นหมู่ที่ 2 ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย 15 ราย และหมู่ที่ 6 ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย 4 ราย