หลายสิบรัฐในอเมริกายื่นฟ้อง Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ว่า พยายามสร้างกำไรด้วยเนื้อหาและอัลกอริทึมที่ไม่เหมาะสม และหลอกลวงเยาวชนอายุต่ำกว่า 13 ปี พร้อมดึงให้อยู่บนแพลตฟอร์มนานขึ้นจนทำลายสุขภาพจิตวัยรุ่น
สำนักข่าว ABC News รายงานว่า หลายสิบรัฐในอเมริกายื่นฟ้อง Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ด้วยข้อกล่าวหาว่า Meta ละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐ และกฎหมายของรัฐบาลกลางที่มุ่งปกป้องความเป็นส่วนตัวของเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี
ในเนื้อหาของคดีความระบุว่า Meta พยายามสร้างกำไรด้วยการสร้างเนื้อหาออกมาผ่านแพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram จูงใจในทางที่ไม่เหมาะสม และหลอกลวงเยาวชนอายุต่ำกว่า 13 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่สุด ถือว่าละเมิดกฎหมายรัฐบาลกลาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สรุปแล้ว AI ของ Facebook ฉลาดจริงไหม? ทั้งที่บอกว่า 98.8% ถูกตรวจพบและลบออกด้วย AI แต่ปัญหา ‘บัญชีปลอม’ ยังมีเต็มฟีดแถม Boost Post ได้ด้วย
- Facebook และ Messenger กำลังจะเปิดให้ใช้งานฟีเจอร์ Broadcast Channels ที่สามารถทำ ‘โพล’ เพื่อสำรวจความเห็นผู้ติดตามได้ทันที
- ถึง ‘อัลกอริทึม’ จะเดาใจไม่ได้ แต่ Facebook และ Instagram ยังครองแชมป์งบโฆษณาดิจิทัลของไทยกว่า 8,183 ล้านบาท แม้ลดลงจากปีก่อนหน้า 6%
รวมถึงอัลกอริทึมที่ออกแบบมาเพื่อดึงให้ผู้ใช้อยู่บนแพลตฟอร์มได้นานขึ้น และส่งเสริมการใช้งานแบบบีบบังคับหรือการเพิ่มยอดไลก์ ซึ่งถือเป็นการเปรียบเทียบทางสังคมที่ Meta ต่างรู้ดีว่าจะทําร้ายเยาวชน ตลอดจนการแจ้งเตือนที่ชักจูงให้ผู้ใช้งานกลับเข้าไปที่แพลตฟอร์มอยู่เป็นระยะๆ
Letitia James อัยการสูงสุดในนิวยอร์ก กล่าวว่า ปัจจุบันเด็กและวัยรุ่นมีสุขภาพจิตที่ไม่ดีมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งคนที่ต้องรับผิดชอบคือบริษัท Meta ที่ออกแบบแพลตฟอร์มและฟีเจอร์แสดงเนื้อหาที่บิดเบือน เรียกว่าเป็นการพยายามสร้างกําไรที่แลกมาจากความเจ็บปวดทางจิตใจของเยาวชน
ด้านฝั่งโฆษกของ Meta ออกมาแถลงการณ์ว่า บริษัทได้ชี้แจงต่ออัยการสูงสุดถึงกรณีดังกล่าว ที่ผ่านมาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้ง Facebook และ Instagram ได้สร้างเนื้อหาที่ปลอดภัยต่อกลุ่มวัยรุ่น และได้แนะนําเครื่องมือมากกว่า 30 รายการให้ผู้ใช้งานเลือกใช้อย่างเหมาะสม
สำหรับเครื่องมือ 30 รายการจะทำงานก็ต่อเมื่อมีการตั้งค่าบัญชีเป็นส่วนตัว ซึ่งจะทำหน้าที่จํากัดจํานวนเนื้อหาที่ละเอียดอ่อน เช่น การฆ่าตัวตายและทําร้ายตัวเอง ทำงานด้วยระบบเทคโนโลยีการตรวจสอบอายุ ที่สำคัญเรายังมีฟีเจอร์ Family Center ที่มาพร้อมเครื่องมือและศูนย์กลางการศึกษา รวมถึงการมีโหมดเงียบและหยุดพักให้ได้เลือกใช้งาน
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของรัฐในนิวยอร์กได้ประกาศร่างกฎหมายใหม่ที่จะจํากัดอัลกอริทึมที่กําหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเยาวชนจะมีการบังคับใช้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันวัยรุ่นในอเมริกาจำนวนมากเลิกใช้งาน Facebook มากขึ้น แต่กลับหันไปนิยมใช้งาน Instagram ประมาณ 22 ล้านคนต่อวัน
อ้างอิง: