×

Extraction 2 ภารกิจครั้งใหม่ที่ถูกตีบวกให้ดุเดือดขึ้นทั้งฉากแอ็กชันและมิติตัวละคร

18.06.2023
  • LOADING...
Extraction 2

เดินทางมาถึงภาค 2 แล้ว สำหรับ Extraction 2 ภาพยนตร์แอ็กชันจาก Netflix ที่ดัดแปลงมาจากกราฟิกโนเวลเรื่อง Ciudad (2014) โดยได้สตันท์แมนมากประสบการณ์อย่าง Sam Hargrave กลับมานั่งแท่นผู้กำกับ พร้อมด้วย Joe Russo มารับหน้าที่เขียนบท และ Chris Hemsworth กลับมาบู๊แหลกฝ่าดงกระสุนในบทบาทของ Tyler Rake อีกครั้ง

 

สำหรับภาคนี้จะดำเนินเรื่องราวหลังจากที่ Tyler Rake รอดชีวิตกลับมาจากภารกิจเสี่ยงตายในภาคแรกและได้รับการรักษาตัวอยู่นาน 9 เดือน กระทั่งวันหนึ่งเขาก็ได้รับภารกิจใหม่ให้ไปช่วยเหลือ Ketevan (Tinatin Dalakishvili) และลูกๆ ที่ถูกสามีผู้เป็นมาเฟียขาใหญ่ในจอร์เจีย ขังไว้ในคุก Tyler จึงต้องกลับมาสวมเกราะจับปืนอีกครั้ง 

 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง: 

 


 

Extraction 2

Extraction 2. (L-R) Chris Hemsworth as Tyler Rake and Tinatin Dalakishvili as Ketevan in Extraction 2. Cr. Jasin Boland/Netflix © 2023

 

ถ้าให้ลองย้อนนึกกลับไปแบบเร็วๆ ผู้เขียนแทบจะจำเรื่องราวของ Extraction (2020) ภาคแรก ไม่ได้แล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่เรายังคงจดจำความรู้สึกในระหว่างชมได้ดีคือ ฉากแอ็กชันแบบ One Shot หรือการถ่ายทำที่นำช็อตต่างๆ มาร้อยเรียงเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นฉากที่มีเหตุการณ์ต่อเนื่องกัน เสมือนว่าเป็นการถ่าย Long Take เพื่อพาผู้ชมไปตามติดการบู๊แหลกของ Tyler กันแบบนอนสต๊อปด้วยความยาวถึง 12 นาที ซึ่งทำให้เราตื่นเต้นและลุ้นระทึกไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนาทีต่อนาที

 

กระทั่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เราก็ได้สัมผัสกับความรู้สึกแบบนั้นอีกครั้งใน John Wick: Chapter 4 (2023) ซึ่งประโคมฉากแอ็กชันที่ทั้งลุ้นระทึกและเปี่ยมไปด้วยความสร้างสรรค์ใส่เราแบบไม่ยั้ง จนเรารู้สึก ‘เหนื่อยแทน’ ทีมนักแสดงและทีมสตันท์ที่ลงทุนลงแรงไปกับฉากแอ็กชันเหล่านั้นอย่างเต็มที่

 

ดังนั้นแล้วเมื่อ Extraction 2 กำลังจะเข้าฉาย เราจึงแอบ ‘คาดหวัง’ ปน ‘สงสัย’ ว่า ผู้กำกับ Sam Hargrave และทีมงานเบื้องหลัง จะสร้างสรรค์ฉากแอ็กชัน โดยเฉพาะฉาก One Shot ให้ยังสามารถสร้างความตื่นเต้นกับเราได้เช่นเดียวกับภาคแรก หรือเทียบเท่า John Wick: Chapter 4 ได้หรือไม่ 

 

Extraction 2

Extraction 2. Chris Hemsworth as Tyler Rake in Extraction 2. Cr. Jasin Boland/Netflix © 2023

 

 

และภายหลังจากที่เราได้รับชม Extraction 2 จบ ผู้เขียนคิดว่าผู้กำกับและทีมสร้างสามารถทลายความคาดหวังของเราได้สำเร็จ เพราะนอกจากฉากแอ็กชันที่ถูกยกระดับให้ตื่นตาตื่นใจมากขึ้นกว่าภาคแรกแล้ว เรายังสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของทีมสตันท์ในการสร้างสรรค์ฉากเหล่านั้นอย่างชัดเจน 

 

เริ่มตั้งแต่ฉากแอ็กชัน One Shot ความยาว 21 นาที ที่ออกแบบมุมกล้องให้เรารู้สึกเหมือนกำลังวิ่งตามหลัง Chris Hemsworth อยู่ตลอดเวลา มีการลำดับเหตุการณ์ที่ค่อยๆ ไต่ระดับจากฉากเล็กๆ อย่างต่อยตีตัวต่อตัว ไปจนถึงการสาดกระสุนใส่เฮลิคอปเตอร์ และมีช่วงหยุดพักสั้นๆ เพื่อให้เราโฟกัสกับความเหน็ดเหนื่อยและกดดันที่ตัวละครต้องฝ่าดงกระสุนและหมัดมวยมาสารพัด จึงทำให้ฉากแอ็กชันความยาว 21 นาทีฉากนี้มีความกลมกล่อม ไม่ได้รู้สึกว่าภาพยนตร์พยายามจะยัดเยียดฉากแอ็กชันให้เราดูมากเกินไป หรือมีความยาวที่นานเกินไปจนน่าเบื่อ

 

แต่ไม้เด็ดของ Extraction 2 ไม่ได้มีแค่ฉากแอ็กชัน One Shot เท่านั้น เพราะยังมีฉากแอ็กชันในช่วงกลางและท้ายเรื่องที่พร้อมจะมาเขย่าตัวให้เราลุ้นไม่ติดเก้าอี้ว่า Tyler และพรรคพวก จะเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร เรียกได้ว่า Sam Hargrave และทีมสร้าง ทำการบ้านในการออกแบบฉากแอ็กชันขึ้นมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน จนสามารถเอาชนะใจเราได้อย่างอยู่หมัดจริงๆ 

 

Extraction 2

Extraction 2. (L to R) Golshifteh Farahani as Nik Khan and Chris Hemsworth as Tyler Rake in Extraction 2. Cr. Jasin Boland/Netflix © 2023

 

 

และไม่ได้มีแค่ฉากแอ็กชันที่ถูกตีบวกให้ดุเดือดมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น แต่ผู้กำกับ Sam Hargrave และมือเขียนบท Joe Russo ยังขยับขยายเรื่องราวของ Tyler ให้เราได้ทำความรู้จักตัวตนของเขามากขึ้นกว่าเดิม ทั้งความสูญเสียที่เขาเคยเผชิญในอดีต การตั้งคำถามว่าตัวเองควรใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร ไปจนถึงสายสัมพันธ์ระหว่างสองพี่น้อง Nik Khan (Golshifteh Farahani) และ Yaz Khan (Adam Bessa) ที่ถูกบอกเล่าให้เรารู้จักทั้งคู่มากขึ้น 

 

การขยายเรื่องราวทั้งตัวละครหลักและตัวละครสมทบเหล่านี้ ไม่ได้แค่เสริมให้มิติของตัวละครน่าสนใจมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เรามีความรู้สึกร่วมไปพร้อมกับตัวละคร ที่ต้องช่วยเหลือกันเพื่อเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ตรงหน้ามากขึ้นอีกด้วย

 

Extraction 2

EXTRACTION 2

 

อย่างไรก็ตาม Extraction 2 ก็มีข้อสังเกตที่เราติดขัดอยู่เช่นเดียวกัน นั่นคือตัวละครลูกชายอย่าง Sandro (Andro Japaridze) ที่เราแอบไม่ซื้อกับการตัดสินใจบางอย่างที่ตัวละครต้องลงมือทำเพื่อนำไปสู่เหตุการณ์ต่อไป แต่มันกลับดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไรนัก เพราะเรารู้สึกว่ามันยังมีวิธีการอื่นๆ หรือตัวเลือกอื่นๆ ที่เหมาะสมกว่า และสามารถนำไปสู่เหตุการณ์เดียวกันได้อีกหลายทาง อีกทั้งมันยังส่งผลให้บทสรุปของเรื่องดูไม่สมเหตุสมผลตามไปด้วย  

 

Extraction 2

Extraction 2. (Pictured) Chris Hemsworth as Tyler Rake in Extraction 2. Cr. Jasin Boland/Netflix © 2021

 

ในภาพรวม Extraction 2 นับว่าเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากภาคแรกให้กลมกล่อมขึ้นในทุกด้าน ทั้งฉากแอ็กชันที่สร้างความกดดันและลุ้นระทึกให้เรารู้สึกร่วมไปกับเหตุการณ์ที่ตัวละครต้องเผชิญ รวมถึงการขยับขยายเรื่องราวและความสัมพันธ์ของ Tyler และตัวละครรอบข้าง ซึ่งเสริมให้ทุกตัวละครมีมิติที่น่าสนใจ และชวนให้เราอยากเอาใจช่วยให้พวกเขาสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ตลอดรอดฝั่ง  

 

สามารถรับชม Extraction 2 ได้แล้ววันนี้ ทาง Netflix 

 

รับชมตัวอย่าง Extraction 2 ได้ที่:

 

 

ภาพ: Netflix

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising