เกิดอะไรขึ้น:
วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 กระทรวงเกษตรจีนเปิดเผยว่า เกิดการระบาดของไข้หวัดนก (H5N1) ณ ฟาร์มแห่งหนึ่งในมณฑลหูหนาน ติดกับมณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยฟาร์มดังกล่าวมีไก่ทั้งสิ้น 7,850 ตัว แต่ตายด้วยไข้หวัดนกถึง 4,500 ตัว จึงทำให้ทางการท้องถิ่นดำเนินการกำจัดสัตว์ปีกไปแล้วทั้งสิ้น 17,828 ตัว เพื่อระงับการแพร่เชื้อไปยังพื้นที่อื่น
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (3 กุมภาพันธ์) ราคาหุ้น บมจ. จีเอฟพีที (GFPT) ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดในช่วงเช้าที่ 12.80 บาท เพิ่มขึ้น 3.2%DoD ก่อนที่จะชะลอความร้อนแรงลงในช่วงบ่าย และเคลื่อนไหวที่ระดับ 12.30-12.50 บาท ขณะที่ราคาหุ้น บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) และ บมจ. ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) ปรับลง 6.67%DoD และ 3.98%DoD
มุมมองระยะสั้น:
SCBS มองว่า การระบาดของไข้หวัดนกที่จีนจะหนุนให้ราคาเนื้อไก่ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากอุปทานไก่ในจีนลดลง ทำให้จีนต้องนำเข้าเนื้อไก่จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อผู้ประกอบการส่งออกเนื้อไก่ไทย โดยเฉพาะบริษัทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้ส่งออกไก่ไปยังจีนได้ทั้ง GFPT และ TFG ขณะที่ CPF แม้จะเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่ให้แก่ประเทศจีน แต่บริษัทมีโรงงานไก่ในประเทศจีน และมีสัดส่วนรายได้จากการขายอาหารสัตว์ให้แก่ประเทศจีนสัดส่วน 21.6% ของรายได้รวมปี 2561 ซึ่งทำให้ CPF อาจได้ผลกระทบเชิงลบจากการระบาดของไข้หวัดนกครั้งนี้
ในระยะสั้นต้องติดตามทิศทางราคาไก่ที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นในระยะสั้นจากผลกระทบของไข้หวัดนกในจีน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อผลประกอบการของธุรกิจเนื้อไก่สด รวมถึงติดตามการประกาศผลการดำเนินงานปี 2562 ซึ่งคาดว่าจะประกาศก่อนวันที่ 2 มีนาคม 2563
มุมมองระยะยาว:
ในระยะยาวคงต้องติดตามทิศทางค่าเงินบาท โดยล่าสุดเริ่มเห็นสัญญาณการอ่อนค่าขึ้นเมื่อเทียบกับหลายสกุลเงิน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการส่งออก ตลอดจนติดตามทิศทางต้นทุนอาหารสัตว์ เช่น ข้าวโพด กากถั่วเหลือง ปลาป่น และรำข้าว ฯลฯ ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของธุรกิจการเลี้ยงสัตว์
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- บมจ. จีเอฟพีที (GFPT) มีสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ 76%
- บมจ. ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) มีสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ 63%
- บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) มีสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ 20-30%
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
