×

Miniso ไม่ได้มาเล่นๆ พร้อมขยายสาขา ‘หลายพันแห่ง’ ในอเมริกา แม้วันนี้ยังมีไม่ถึง 60 แห่งก็ตาม

15.09.2021
  • LOADING...
Miniso

‘ดินแดนพญาอินทรี’ กำลังเป็นแลนด์มาร์กที่ Miniso เชนร้านดิสเคาน์สโตร์จากแดนมังกรกำลังจะหมายมั่นปั้นมือเข้าไปขยายธุรกิจ แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งยักษ์ใหญ่อย่าง Dollar Tree ที่มีร้านนับหมื่นแห่ง ในขณะที่ตัวเองนั้นยังมีร้านอยู่ไม่ถึง 60 แห่ง แต่ผู้บริหารของ Miniso ก็เชื่อว่าจะสามารถขยายไปถึงหลัก ‘หลายพันแห่ง’ ได้ไม่ยาก

 

แผนดังกล่าวเน้นย้ำถึงความทะเยอทะยานของ Miniso ธุรกิจที่เพิ่งก่อตั้งได้เพียง 8 ปีที่แล้ว ซึ่งขณะนี้มีรายได้ต่อปีประมาณ 1.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.7 หมื่นล้านบาท และจดทะเบียนในนิวยอร์กด้วย Market Cap 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.3 แสนล้านบาท

 

ด้วยร้านค้ากว่า 4,800 แห่งทั่วโลกในกว่า 90 ประเทศ Miniso จะมีสาขา 54 แห่งในสหรัฐอเมริกาภายในสิ้นปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 30 สาขาในช่วงเริ่มต้น ซึ่ง Vincent Huang รองประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศ กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า “เราเลือกที่จะขยายธุรกิจในสหรัฐฯ ในขณะนี้ด้วยเหตุผลหลายประการ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านใหม่หลังโควิดที่ลดลง”

 

ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านค้าใหม่ๆ ในสหรัฐฯ ลดลงประมาณ 20% สาเหตุหลักมาจากการการที่ห้างสรรพสินค้าต่างลดค่าเช่าเพื่อดึงดูดผู้เช่า แถมการระบาดใหญ่ยังทำให้การเข้าถึงทำเลดีๆ เป็นเรื่องง่ายขึ้นอีกด้วย “เราเชื่อเสมอมาว่าเราเป็นธุรกิจระหว่างประเทศ และอเมริกาเหนือเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์ของเรา” 

 

Miniso อธิบายตัวเองว่าเป็น ‘ผู้ค้าปลีกผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชาวญี่ปุ่น’ และในอดีตเคยถูกนำไปเปรียบเทียบกับเครือ Muji ที่ดำเนินการโดย Ryohin Keikaku ที่จดทะเบียนในโตเกียว

 

Miniso ไม่เปิดเผยตัวเลขยอดขายที่แน่นอนสำหรับร้านค้าในสหรัฐฯ ซึ่งเปิดสาขาแรกในแคลิฟอร์เนียในปี 2017 แต่เมื่อเดือนที่แล้ว Miniso เผยว่า ยอดขาย 9.07 พันล้านหยวน หรือคิดเป็นสัดส่วน 20% ของปีงบประมาณสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนมาจากร้านค้าในต่างประเทศ 1,800 แห่ง เช่น เม็กซิโก อินโดนีเซีย และอินเดีย

 

ส่วนยอดขายในสหรัฐฯ นั้นฟื้นตัวในระดับก่อนเกิดโควิด โดยยอดขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 เพิ่มขึ้น 73% เมื่อเทียบเป็นรายปี “เราได้รับความนิยมมากกว่าที่เคยตั้งแต่เกิดโรคระบาด” รองประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศ Miniso กล่าว

 

“ท้ายที่สุด ผู้บริโภคไม่สนใจว่าเราจะเป็นชาวจีนหรือชาวญี่ปุ่น ชาวอเมริกันหรือชาวยุโรป” ผู้บริหาร Miniso กล่าว “สิ่งที่ผู้บริโภคกังวลคือพวกเขาสามารถซื้อสินค้าที่คุ้มค่าโดยใช้เงินน้อยที่สุดได้หรือไม่”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: 

 

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising