×

กสิกร ประเมินเงินบาทอ่อนค่าช่วงสั้น คาดครึ่งปีหลังส่อแข็งค่าแตะ 29.75 บาท/ดอลลาร์ จับตาความตึงเครียดในทะเลจีนใต้

25.03.2021
  • LOADING...

การเคลื่อนไหวของเงินบาทในช่วงนี้ แม้จะเริ่มอ่อนค่าลงจนทะลุระดับ 31 บาทต่อดอลลาร์ มาเคลื่อนไหวในระดับ 31.08 บาทต่อดอลลาร์ในปัจจุบัน แต่ระยะยาวแล้ว ธนาคารกสิกรไทยเชื่อว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่ามาแตะระดับ 29.75 บาทต่อดอลลาร์ได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ 

 

กอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทช่วงครึ่งปีแรก 2564 คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.00-31.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหนึ่งมาจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่า จากพัฒนาการกระจายฉีดวัคซีนของสหรัฐฯ ที่ทั่วถึง และแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1-2 ของปีนี้ แรงกดดันเงินบาทน้อยลงบ้างจากดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลลดลง แต่หากมองตามโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ยังส่งผลให้การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง 

 

“ดุลบัญชีเดินสะพัดยังเกินดุล เพราะการลงทุนในไทยที่ต่ำลงมาตลอด โดยสะท้อนจากอัตราการออมต่อ GDP และการลงทุนต่อ GDP ที่ห่างกันมาก ซึ่งทำให้เห็นส่วนต่าง และเห็นชัดว่าไทยยังเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อไป โดยสิ้นปี 2563 การออมต่อ GDP ของไทยอยู่ที่ 29.2% ขณะที่การลงทุนต่อ GDP อยู่ที่ 23.6% ซึ่งหากไม่เห็นมาตรการอุดช่องโหว่นี้ ไทยจะยังเกินดุลบัญชีที่ระดับสูงต่อไป”

 

อย่างไรก็ตามปัจจัยที่สามารถช่วยความน่าสนใจในการลงทุนไทยได้ ย่อมมาจากการเร่งลงนาม FTA กับนานาประเทศเพื่อเอื้อต่อการเข้ามาลงทุน และผลิตสินค้าส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ โดยไม่ต้องรับภาระด้านกำแพงภาษี ซึ่งเวียดนามเดินหน้าเรื่องนี้ไปไกลมากแล้ว เห็นได้จากส่วนแบ่งการตลาดการส่งออกของเวียดนาม ณ พฤศจิกายน 2563 อยู่ที่ 1.9% ของตลาดโลก แซงหน้าไทยที่อยู่ 1.44% 

 

อย่างไรก็ตามมองว่า ครึ่งปีหลังค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้น จากสถานการณ์ที่หลายประเทศมีการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง และเศรษฐกิจหลายประเทศรวมถึงโลกเริ่มฟื้นตัว และอาจเห็นการไหลเข้าของเงินทุนมายังเอเชีย

 

ทั้งนี้ คาดว่าค่าเงินบาท ณ ไตรมาส 4/64 จะอยู่ที่ 29.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่คาดว่าอยู่ราว 29.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยต้องจับตาความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการหยุดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และหากไทยกระจายฉีดวัคซีนได้ล่าช้า ย่อมส่งผลต่อการลงทุนภาคเอกชนให้ชะลอลงเช่นกัน

ในฝั่งตลาดทุนยังต้องจับตามองสถานการณ์สงครามการค้าที่แม้ว่าโจ ไบเดน จะทำให้สถานการณ์ดูผ่อนคลายลง แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ ที่อาจรุนแรงหรือนำสู่ความตึงเครียดมากขึ้น เห็นได้จาก EU แคนาดา ที่มีการคว่ำบาตรจีน ซึ่งหากมีความตึงเครียดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่ต้องทำการค้ากับจีน และเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวการค้าโลก 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising