×

สำรวจโอกาส-ความเสี่ยงธุรกิจทั่วโลก หลัง EU ออกกฎหมายกำกับ AI

09.08.2024
  • LOADING...
EU

สหภาพยุโรป (EU) ได้นำพระราชบัญญัติ AI (EU Artificial Intelligence Act) มาใช้อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการควบคุมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีผลกระทบต่อธุรกิจทั่วโลก รวมถึงธุรกิจที่อยู่นอกสหภาพยุโรป

 

พระราชบัญญัติ AI มีที่มาจากสมุดปกขาวเกี่ยวกับ AI ของคณะกรรมาธิการยุโรป (The European Commission White Paper on AI) ที่ออกมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างกรอบการกำกับดูแลเพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยี AI สอดคล้องกับมาตรฐานทางจริยธรรมและสิทธิมนุษยชน และป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ AI เช่น อคติและการเลือกปฏิบัติภายในอัลกอริทึม, การแคมเปญข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง, ปัญหาการละเมิดความเป็นส่วนตัว และความท้าทายด้านความโปร่งใสเนื่องจากความซับซ้อนของระบบ AI ตลอดจนข้อกังวลด้านความปลอดภัยในการใช้งานในบางภาคส่วน เช่น การสาธารณสุขและการคมนาคมขนส่ง ความเสี่ยงเหล่านี้นำมาซึ่งแนวคิดการกำกับดูแล AI เพื่อส่งเสริมความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และความไว้วางใจของสาธารณะ

 

ในขั้นตอนการร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปได้มีการปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกลุ่มผู้พัฒนา AI จากนั้นมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2567 ส่งผลให้ EU เป็นผู้นำกฎระเบียบด้าน AI ในปัจจุบัน

 

เปิดเนื้อหาพระราชบัญญัติ AI แบ่งระดับความเสี่ยง

 

กฎหมายฉบับนี้แบ่งระบบ AI ออกเป็น 4 ระดับความเสี่ยง ได้แก่ ความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้, ความเสี่ยงสูง, ความเสี่ยงจำกัด และความเสี่ยงต่ำ โดยการแบ่งประเภทนี้จะกำหนดระดับการกำกับดูแลตามกฎระเบียบที่แต่ละระบบจะต้องปฏิบัติตาม​

 

  • AI ที่มีความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้: การใช้งาน AI เพื่อวัตถุประสงค์บางประการถูกห้าม เนื่องจากเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัย สิทธิขั้นพื้นฐาน หรือค่านิยมทางสังคมอย่างมาก เช่น การใช้ AI สำหรับการให้คะแนนทางสังคม (Social Scoring) การระบุข้อมูลไบโอเมตริกซ์ (การระบุอัตลักษณ์ เช่น ลายนิ้วมือ การจดจำใบหน้า) แบบเรียลไทม์ในพื้นที่สาธารณะ และระบบที่ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของกลุ่มเฉพาะ​
  • AI ที่มีความเสี่ยงสูง: ครอบคลุมถึงระบบ AI ที่ใช้ในภาคส่วนสำคัญ เช่น การดูแลสุขภาพ, การขนส่ง, การบังคับใช้กฎหมาย และบริการทางการเงิน โดยต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ เช่น การประเมินความเสี่ยง, จัดทำเอกสารทางเทคนิคโดยละเอียด, การจัดทำแนวทางการจัดการข้อมูลที่ปลอดภัย และการกำกับดูแลโดยมนุษย์ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องต้องทำให้แน่ใจว่าระบบเหล่านี้โปร่งใสและปลอดภัย
  • AI ที่มีความเสี่ยงจำกัด: ได้แก่ แชตบอตและเครื่องมืออัตโนมัติในการบริการลูกค้า โดยระบบเหล่านี้ต้องอยู่ภายใต้ข้อผูกพันด้านความโปร่งใส เช่น ผู้ใช้จะต้องได้รับแจ้งว่าพวกเขากำลังคุยกับ AI
  • AI ที่มีความเสี่ยงต่ำ: การใช้ AI ส่วนใหญ่จัดอยู่ในหมวดหมู่นี้ เช่น วิดีโอเกมที่ใช้ AI หรือตัวกรองสแปม แม้ว่าระบบ AI ที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดจะได้รับการยกเว้นจากข้อผูกพันตามกฎหมายฉบับนี้ แต่ก็ยังต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ของ EU ด้วย

 

สำรวจผลกระทบต่อธุรกิจนอกสหภาพยุโรป

 

การบังคับใช้พระราชบัญญัติ AI ส่งผลกระทบต่อบริษัทต่างๆ ทั่วโลกที่ต้องการดำเนินการภายในตลาดของ EU ธุรกิจที่พัฒนาหรือใช้ระบบ AI ที่มีการโต้ตอบ (Interact) กับพลเมืองของ EU จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงจัดทำแนวทางการประเมินความเสี่ยง และนำแนวทางการจัดการข้อมูลที่เหมาะสมมาใช้ ตลอดจนต้องทำให้แน่ใจว่าระบบ AI โปร่งใสและมีความรับผิดชอบ

 

ต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น: บริษัทที่ไม่ได้อยู่ใน EUจะเผชิญกับต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องปรับตัวให้เข้ากับมาตรฐานการกำกับดูแลของ EUซึ่งรวมถึงต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย การจัดทำเอกสาร หรือแม้แต่อาจต้องทำการออกแบบระบบ AI ใหม่เพื่อให้ตรงตามข้อกำหนดของ EUนอกจากนี้ธุรกิจต่างๆ จะต้องลงทุนในการฝึกอบรมพนักงานและอัปเดตนโยบาย รวมทั้งกรอบการกำกับดูแลให้สอดคล้องกับกฎหมาย

 

โทษหนักสำหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย: กฎหมาย AI กำหนดโทษหนักสำหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยอาจปรับเงินได้สูงถึง 30 ล้านยูโร หรือ 6 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายประจำปีทั่วโลก แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงอย่างมากสำหรับธุรกิจระหว่างประเทศ

 

ข้อได้เปรียบในการแข่งขันสำหรับธุรกิจที่ปฏิบัติตามกฎหมาย: บริษัทที่ปฏิบัติตามกฎหมาย AI อย่างจริงจังอาจได้รับข้อได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด EUและการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์จะทำให้ธุรกิจสามารถเพิ่มชื่อเสียง และสร้างความไว้วางใจต่อผู้บริโภค รวมถึงอาจสร้างโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติมภายใน EUได้​

 

ธุรกิจที่อยู่นอกสหภาพยุโรปต้องรับมืออย่างไร?

 

  • การประเมินระบบ AI: บริษัทต่างๆ ควรประเมินระบบ AI ของตนอย่างละเอียดถี่ถ้วน รวมถึงการทำความเข้าใจการแบ่งประเภทตามความเสี่ยงของเทคโนโลยี AI และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับแต่ละประเภท
  • การเสริมสร้างการกำกับดูแลข้อมูล (Data Governance): ธุรกิจที่อยู่นอก EUจำเป็นต้องนำกรอบการกำกับดูแลข้อมูลที่เหมาะสมมาใช้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการจัดการข้อมูลและความโปร่งใส เพื่อรับรองคุณภาพข้อมูล ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย ตลอดจนการจัดทำกระบวนการจัดทำเอกสารที่ชัดเจน​
  • การเพิ่มความโปร่งใสและความรับผิดชอบ: ธุรกิจต่างๆ ควรเน้นที่การปรับปรุงความโปร่งใสและความรับผิดชอบของระบบ AI ซึ่งรวมถึงการให้ข้อมูลที่ชัดแจ้งแก่ผู้ใช้เกี่ยวกับการทำงานของ AI และการรับรองการกำกับดูแลโดยมนุษย์ในการใช้ AI ที่มีความเสี่ยงสูง
  • การจัดลำดับความสำคัญของระบบ AI ที่มีความเสี่ยงสูง: ธุรกิจต่างๆ ควรโฟกัสไปที่ระบบ AI ที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อให้แน่ใจว่าระบบเหล่านั้นเป็นไปตามมาตรฐานกำหนดโดยสหภาพยุโรป ซึ่งรวมถึงการนำกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงอย่างครอบคลุมมาใช้
  • การติดตามการพัฒนากฎระเบียบ: ในขณะที่สหภาพยุโรปยังคงปรับปรุงภูมิทัศน์ของกฎระเบียบด้าน AI ธุรกิจต่างๆ จะต้องคอยติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนากฎระเบียบด้าน AI ที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ขณะที่รัฐเองควรเน้นการมีส่วนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและสมาคมอุตสาหกรรม เพื่อทำความเข้าใจถึงผลกระทบของกฎระเบียบที่เกิดขึ้นใหม่

 

จับตาแนวโน้มอนาคต

 

พระราชบัญญัติ AI มีแนวโน้มจะสร้างบรรทัดฐานสำหรับการกำกับดูแล AI ทั่วโลก โดยมีอิทธิพลต่อภูมิภาคอื่นๆ ในการพัฒนากรอบการกำกับดูแลที่คล้ายคลึงกัน ความเป็นผู้นำของสหภาพยุโรปในการกำกับดูแล AI ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่การกำกับดูแลเทคโนโลยี AI ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการสนทนาในระดับโลกเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้าน AI ที่มีจริยธรรม

 

สำหรับธุรกิจนอกสหภาพยุโรป พระราชบัญญัติ AI ถือเป็นทั้งความท้าทายและโอกาส แม้ว่าข้อกำหนดการปฏิบัติตามอาจเข้มงวด แต่การปรับให้สอดคล้องกับมาตรฐานของสหภาพยุโรปสามารถเปิดประตูสู่ตลาดและพันธมิตรใหม่ๆ ซึ่งตอกย้ำความสำคัญของการพัฒนา AI ที่มีจริยธรรมและโปร่งใส

 

เมื่อพระราชบัญญัติ AI มีผลบังคับใช้ ธุรกิจระหว่างประเทศต้องเท่าทัน ปรับตัวและเตรียมพร้อมรับมือกับกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X