×

การอัปเกรด Shanghai ของ Ethereum ที่ใกล้เข้ามา จะทำให้ ETH เจอแรงเทขายหรือไม่

06.04.2023
  • LOADING...
Shanghai Ethereum

หลังจากการอัปเกรด The Merge ของ Ethereum เมื่อปี 2022 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก และเป็นประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมคริปโต อีกไม่นาน Ethereum จะมีการอัปเกรดครั้งสำคัญที่เรียกว่า Shanghai Hard Fork ซึ่งถูกจับตามองอย่างมาก เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่เหรียญ ETH จำนวนมหาศาลถูกปลดออกมา

 

การอัปเกรด Shanghai คืออะไร และสิ่งนี้ส่งผลต่อ Ethereum อย่างไร

การอัปเกรด Shanghai ของ Ethereum หรือที่รู้จักกันในชื่อการอัปเกรด Shapella เป็น Hard Fork ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 เมษายน 2023 แม้ว่าจะไม่ใช่การอัปเกรดครั้งใหญ่ของเครือข่ายเมื่อเทียบกับ The Merge เมื่อเดือนกันยายน ปี 2022 แต่ก็เป็นพัฒนาการที่น่าจับตามอง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เหล่า Staker และ Validator จะถอนเหรียญ ETH ออกจาก Beacon Chain ได้

 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2022 การอัปเกรด The Merge ครั้งนั้นทำให้เครือข่ายจะไม่พึ่งพากลไก Proof-of-Work (PoW) อีกต่อไป กล่าวง่ายๆ คือ เหล่านักขุดจะไม่สามารถขุดเหรียญ ETH ได้อีกต่อไป แต่จะต้องซื้อเหรียญแล้วนำไป Lock Stake เหรียญแทน ทำให้เครือข่ายประหยัดพลังงานได้มากถึง 90% เลยทีเดียว Hard Fork ในครั้งนั้นทำให้ Ethereum เข้าสู่ยุคใหม่เป็น Proof-of-Stake (PoS) อย่างเต็มรูปแบบ

 

สำหรับ Hard Fork Shanghai เป็นความคืบหน้าจากครั้งก่อน ซึ่งจะช่วยให้ Validator และนักลงทุนที่ Stake เหรียญเอาไว้ในเครือข่ายสามารถถอนเหรียญออกมาได้ หลังจากที่ถูกล็อกไว้มาตั้งแต่ธันวาคม ปี 2020 ปัจจุบันมี ETH ที่ถูก Stake ไว้ประมาณ 14% หรือคิดเป็น 18 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นมูลค่ามากกว่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์เลยทีเดียว 

 

แรงเทขายจะเกิดขึ้นหรือไม่

นักวิเคราะห์จาก K33 Research แสดงความเห็นว่า แม้จะมีเหรียญ ETH ที่ถูก Stake ไว้มากถึง 18 ล้านเหรียญ แต่การถอนเหรียญจะยังไม่สามารถทำได้ทันทีหลังการอัปเกรด โดยจะทำได้เพียงถอนเหรียญที่ได้รับเป็นรางวัลจากการ Stake เท่านั้น ซึ่งมีประมาณ 1.1 ล้านเหรียญ 

 

อย่างไรก็ตาม Celsius Network ที่ล้มละลายไปเมื่อปีที่แล้ว มี ETH ที่ล็อกเอาไว้จำนวน 158,176 ETH ซึ่งมีแนวโน้มว่าบริษัทอาจเทขายเพื่อนำเงินไปคืนเจ้าหนี้ 

 

นอกจากนี้ Kraken แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตชั้นนำที่เจอคำสั่งให้ยุติบริการ Staking คริปโต และบริษัทยังถูกปรับเป็นเงินจำนวน 30 ล้านดอลลาร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อาจต้องเจอกับแรงกดดันให้ขายเหรียญ ซึ่งทาง Kraken มี ETH ที่ล็อกไว้มากถึง 1.2 ล้านเหรียญ และอาจจะต้อง Unstake เหรียญทั้งหมด ซึ่งเป็นผลมาจาก Wells Notice จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

 

ขณะที่ทาง 21Shares วิเคราะห์ว่า การถอนเหรียญบางส่วนจะใช้เวลานานประมาณ 5-6 วัน และการถอนเหรียญทั้งหมดอาจใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ถึง 4 เดือน ซึ่งแรงขายน่าจะถูกกระจายไปตามช่วงเวลา ทำให้แรงซื้อสามารถจับคู่กับแรงขายได้ในที่สุด โดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคามากนัก นักวิเคราะห์จาก K33 ยังแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า ผู้ถือครองเหรียญส่วนใหญ่ไม่น่าจะถอนเหรียญจำนวนมากออกมา เนื่องจากราคา ETH ซื้อขายต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลมากถึง 63% 

 

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising