วันนี้ (2 เมษายน) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แสดงความกังวลต่อแนวทางของรัฐบาล นำโดย แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เร่งรัดผลักดัน กฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ และความท้าทายด้านการส่งออก โดยเฉพาะจากกรณีที่สหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจาก 15 ประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งไทยอยู่ในอันดับที่ 10
คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวมีความเร่งรีบผิดปกติ ทั้งในแง่กระบวนการพิจารณา และการลงพื้นที่ก่อสร้างในจังหวัดภูเก็ตถึง 2 ครั้ง ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยไม่ได้มีการนำเข้าสู่การพิจารณาในคณะรัฐมนตรีก่อนหน้านั้น
พร้อมชี้ว่าการเดินหน้านโยบายด้านสถานบันเทิงในช่วงนี้ อาจไม่ตอบโจทย์ปัญหาเร่งด่วนของประเทศ โดยเฉพาะกรณีที่สหรัฐฯ ประกาศวันที่ 2 เมษายน เป็น ‘วันปลดแอกสหรัฐอเมริกา’ (Liberation Day) และจะดำเนินการขึ้นภาษีกับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้า โดยไทยมีมูลค่าส่งออกในปี 2568 คาดว่าประมาณ 2 ล้านล้านบาท หากถูกขึ้นภาษี 10% อาจส่งผลกระทบไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท
คุณหญิงสุดารัตน์เสนอว่า รัฐบาลควรมีการเตรียมพร้อมล่วงหน้า และตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีดูแลอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับที่อินเดียและเวียดนามได้ดำเนินการ เพื่อรับมือกับผลกระทบจากมาตรการภาษีดังกล่าว
ทั้งนี้ ยังแสดงความห่วงใยว่าการผลักดันกฎหมายสถานบันเทิง อาจนำไปสู่ปัญหาสังคม เช่น การพนัน ฟอกเงิน หรืออาชญากรรม และไม่ควรมีการมอบอำนาจทั้งหมดให้กับคณะกรรมการชุดพิเศษ หรือ ‘ซุปเปอร์บอร์ด’ โดยไม่มีการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ อย่างรอบด้าน
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า นักธุรกิจและผู้ส่งออกจำนวนมากคาดหวังให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการหารือในรัฐสภา เพื่อหาทางออกต่อมาตรการภาษีของสหรัฐ มากกว่าการเดินหน้ากฎหมายที่ยังมีข้อกังวลเรื่องความโปร่งใส
“ดิฉันขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีหยุดการดำเนินนโยบายที่อาจนำประเทศไปสู่ความเสี่ยง และหันมาให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจและความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอันดับแรก” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว