×

เหตุผลที่เรากลับไปเยี่ยมร้าน ‘Eat Me’ ครั้งแล้วครั้งเล่า

04.12.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins read
  • กลับไปเยือน ‘Eat Me’ ร้านอาหารที่เซอร์ไพรส์คนกินไม่มีเบื่อ กับ 4 เมนูใหม่จากเชฟทิม บัตเลอร์ ที่ตอกย้ำว่าของอร่อยซอยคอนแวนต์มีมากกว่าส้มตำนะ

ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราไปฝากท้องที่ ‘Eat Me’ ร้านอาหารดังในซอยคอนแวนต์ ติดหนึ่งใน Asia’s 50 Best Restaurants หลายปีซ้อน นำโดยฝีมือของ ทิม บัตเลอร์ (Tim Butler) เชฟชาวอเมริกันผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยของหลายร้านอาหารในกรุงเทพฯ และหลังจากง่วนอยู่กับการปลุกปั้นร้านน้องใหม่อย่าง ‘Esenzi’ ที่พังงา ในที่สุดเขาก็เซอร์ไพรส์แฟนๆ ของ Eat Me อีกครั้งกับ 4 เมนูใหม่ที่ตอกย้ำว่าไป Eat Me กี่ครั้ง ก็มีเรื่องราวความอร่อยน่าตื่นเต้นไม่มีซ้ำ

 

ซ้าย: เชฟทิม บัตเลอร์กับเสื้อสีดำอันเป็นซิกเนเจอร์ / ขวา: Omi Wagyu ใช้เนื้อโอมิ เนื้อวัวจากวัวพันธุ์ญี่ปุ่นขนสีดำที่คัดเลี้ยงอย่างดี

 

ด้วยความที่เชฟทิมมีความสนใจในเทคนิคการปรุงอาหารแบบญี่ปุ่นเป็นพิเศษ นั่นทำให้เขาเลือกวัตถุดิบคุณภาพจากญี่ปุ่นมาปรุงประกอบด้วยในเมนูใหม่ล่าสุดของเขา อาทิ Omi Wagyu (750 บาท) ที่ใช้เนื้อโอมิ เนื้อวัวจากวัวพันธุ์ญี่ปุ่นขนสีดำที่คัดเลี้ยงอย่างดีจนโด่งดังเฉกเช่นเนื้อโกเบ หรือเนื้อมัตสึซากะ ซึ่งเชฟเลือกวัวชั้นดีที่มีชั้นไขมันแทรกซึมเป็นหินอ่อนถึงระดับ A5 มาจี่ในกระทะร้อน สร้างผิวสัมผัสและรสชาติด้วยความสุกแบบมีเดียมแรร์ เสิร์ฟพร้อมแตงกวา ซอสน้ำมันงา ไข่หอยเม่นชิ้นโต และปลาแห้งคัตสึโอะบุชิแบบญี่ปุ่น

 

ซ้าย: White Asparagus รวมวัตถุดิบจากสเปน / ขวา: Clams วัตถุดิบยอดฮิตของร้านที่นำมาปรับโฉม

 

ส่วนเมนูตามฤดูกาลอย่างหน่อไม้ฝรั่งขาว White Asparagus (770 บาท) ที่รสชาติแตกต่างจากหน่อไม้ฝรั่งสีเขียวที่เราคุ้นตาคุ้นลิ้นกันดี เหตุเพราะเป็นหน่อไม้ที่หลบอยู่ใต้ดิน ไม่ผ่านการสังเคราะห์แสงสร้างคลอโรฟิลล์ จึงทำให้มีรสชาติอ่อนนุ่มกว่าหน่อไม้ฝรั่งสีเขียว ทั้งยังแฝงด้วยรสหวานตามธรรมชาติ ซึ่งเชฟยังคงเก็บรสชาติวัตถุดิบเอาไว้ได้อย่างดีตามแบบฉบับการปรุงอาหารแบบญี่ปุ่นที่คำนึงถึงรสแท้ๆ ของสิ่งที่นำมาปรุง แต่เขายังจับหน่อไม้มาคู่กับรสชาติอื่นๆ ที่มาจากสเปน เช่น ไข่ปลาคาเวียร์ แฮมฮามอน และชีสแมนเชโกที่ทำมาจากนมแกะที่ให้รสชาตินุ่มละมุนราวกับเนย ถือเป็นจานที่แตกต่างในรสสัมผัส แต่มีความละมุนลิ้นที่ลงตัว หรือจะลอง Clams (575 บาท) ที่นำวัตถุดิบฮอตฮิตของร้านมานำเสนอใหม่เป็นหอยกาบตัวอวบที่เชฟดึงความสดอร่อยของหอยออกมาให้มากที่สุด

 

Alaskan King Crab เมนูของอร่อยจากท่าเรือดัตช์ฮาร์เบอร์ในอลาสก้า

 

นอกจากนั้นยังมี Alaskan King Crab (1,000 บาท) ปูอลาสก้าส่งตรงจากแหล่งจำหน่ายปูทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอลาสก้านั้นเต็มไปด้วยปูขนาดยักษ์ใต้ท้องทะเลน้ำเย็น และเชฟทิมนำมาเสิร์ฟเป็นเมนูของอร่อยของคนรักปูจานนี้โดยเฉพาะ รับประทานพร้อมไข่หอยเม่นให้ละเลียดรสของทะเลได้อย่างเต็มรส

 

 

และมา Eat Me ทั้งที อย่าลืมเลือกเมนูค็อกเทลเด็ดๆ ที่ได้แรงบันดาลใจจากอาหารริมทางฝีมือมิกโซโลจิสต์ ป๊อบ-บุญธเนศ ดิเรกฤทธิกุล มาละเลียดคู่กันด้วย เราขอแนะนำ Laab Moo (320 บาท) ลิ้มลองรสค็อกเทลลาบหมูที่ใช้วอดก้าเป็นเบส ใช้แฮมเซอร์ราโนกรอบๆ มาเสิร์ฟออนท็อป ขณะลิ้มรสเครื่องลาบในเครื่องดื่มและรอบแก้ว ขอบอกว่าแซ่บ! หรือถ้าคิดไม่ออก ขอให้บอกเมนูสิ้นคิด Kaprao Moo Krob Kai Dao Mai Sook (320 บาท) กะเพราหมูกรอบไข่ดาวไม่สุกแสนอร่อยที่แปลงให้ดื่มได้ แก้วนี้ใช้รัมดิโปลมาติโก บลังโก ผสานความอร่อย ใส่เครื่องปรุงรสผัดกะเพรา (สูตรนี้ใส่น้ำมันหอยด้วยนะ) แฮมเซอร์ราโนกรอบๆ รอบแก้ว รับประทานคู่กับไข่นกกระทาไม่สุกโรยพริกไทย และยังมีเมนู 4 ภาคจากซีรีส์ ‘Sip Some Thai’ ที่ครีเอทีฟไปอีก อาทิ น้ำพริกหนุ่ม ส้มตำปูปลาร้า แกงไตปลา ฯลฯ ให้ไปพิสูจน์ความอร่อยได้ไม่มีเบื่อ

 

Eat Me Restaurant

Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 15.00-01.00 น.

Address: ซอยพิพัฒน์ 2 ในซอยคอนแวนต์ ถนนสีลม บางรัก กรุงเทพฯ

Contact: โทร. 0 2238 0931 และ eatmerestaurant.com

Map: 

 

Photo: Eat Me,  พฤภัทร ทรงเที่ยง

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising