กำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์สุดร้อนแรงบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ในอังกฤษอยู่ในเวลานี้ เมื่อสายการบิน easyJet ประกาศข้อกำหนดใหม่ให้ผู้โดยสารที่จะหิ้วสัมภาระขึ้นไปที่ห้องโดยสารเพื่อจัดเก็บไว้ที่ล็อกเกอร์เหนือที่นั่ง จะต้องจ่ายค่าบริการพื้นที่เก็บสัมภาระดังกล่าวด้วย
สถานีโทรทัศน์ BBC ของอังกฤษรายงานว่า ภายใต้นโยบายสัมภาระใหม่ของทางสายการบิน ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปพร้อมกระเป๋าอีกใบที่ไม่ได้โหลดเข้าห้องสัมภาระที่ท้องเครื่อง ซี่งมีขนาดไม่เกิน 56 x 45 x 25 เซนติเมตร ต้องจ่ายค่าตั๋วที่เพิ่มขึ้น โดยราคาจะแพงกว่าค่าตั๋วโดยสารสำหรับเที่ยวบินปกติราว 7.99 ปอนด์ ไปจนถึงราว 29.99 ปอนด์สำหรับเที่ยวบินทางไกล
ส่วนผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วประเภท Flexi Fare หรือเป็นสมาชิกของสายการบินเพราะบินบ่อย จะยังคงสามารถหิ้วกระเป๋าขนาดเล็กดังกล่าวขึ้นไปบนห้องโดยสารของเครื่องได้ตามปกต
รายงานระบุว่า ทางสายการบินเตรียมบังคับใช้นโยบายสัมภาระดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ปีหน้าเป็นต้นไป โดยผู้โดยสารทั้งหมดยังคงสามารถโหลดกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้ฟรี 1 ใบตามปกติ
Robert Carey หัวหน้าฝ่ายพาณิชย์และลูกค้าของ easyJet กล่าวว่า เป้าหมายของการเปลี่ยนนโยบายสัมภาระครั้งนี้ทำให้เที่ยวบินสามารถบินได้ตรงเวลามากขึ้น หลังพบว่าสาเหตุการดีเลย์ของเที่ยวบินส่วนหนึ่งมาจากการจัดการสัมภาระ ออนบอร์ดภายใต้พื้นที่ที่จำกัดในห้องโดยสาร
“นโยบายใหม่ของเราจะช่วยปรับปรุงการขึ้นบินและการตรงต่อเวลาให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงทำให้ผู้โดยสารตระหนักแน่ชัดว่าสัมภาระอะไรบ้างที่ควรจะนำติดตัวไว้” ตัวแทนของ easyJet กล่าว
ในส่วนของกระแสตอบรับมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยฝ่ายที่สนับสนุนมองว่าจะช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระให้เพียงพอ และลดปัญหาผู้โดยสารบ้าหอบฟางได้เป็นอย่างดี ขณะที่ฝ่ายที่คัดค้านมองว่าเป็นข้ออ้างของสายการบินที่หาเรื่องขึ้นราคาค่าตั๋วเครื่องบินในช่วงที่อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤตรายได้เพราะโควิด-19
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
