×

เจาะเบื้องหลังแคมเปญ ‘วันดี ๆ กับกระดาษดี ๆ’ และวิธีสร้างข้อความฮีลใจผ่านความเชื่อ Better Paper, Better World ของ Double A [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
20.12.2024
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 min read
  • Double A แบรนด์ที่เชื่อมั่นว่า “เราสามารถสร้างโลกที่สวยงามไปด้วยกันได้ ด้วยกำลังใจดีๆ ผ่านกระดาษแก่ผู้คน” บนแนวคิด Better Paper, Better World เพราะต่อให้โลกเปลี่ยนไปแค่ไหน พลังของกระดาษยังคงทำงานกับอารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์ได้อย่างที่อะไรก็ทดแทนไม่ได้ 
  • “เราจะคอยส่งพลังใจ ชื่นชมในความพยายาม และทำให้เขารู้ว่าพวกเขามีคุณค่าในตัวเอง” นี่คือสารตั้งต้นที่แสนจะจริงใจของ Double A ก่อนจะพัฒนามาเป็นแคมเปญ ‘วันดี ๆ กับกระดาษดี ๆ’ เพื่อสื่อสารกับคน New Gen และคนวัยทำงานซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของแบรนด์ว่า ‘ข้อความดี ๆ สามารถเปลี่ยนวันทั้งวันให้กลายเป็นวันดี ๆ ได้’  
  • คิกออฟแคมเปญด้วยการใช้ Contextual Marketing ออกแบบสื่อ Digital Out of Home ด้วย Wording Contextual ข้อความสั้นๆ เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความใส่ใจ กระจายพลังใจไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น BTS และ MRT หรือป้าย Digital Billboard ตามท้องถนน
  • ก่อนจะต่อยอดด้วยการออกแบบ Experimental Film การทดลองที่อยากเปลี่ยน 1 วันของใครสักคนให้ดีขึ้นด้วยกระดาษ 1 แผ่น โดยมี Gen Z, X และ Y เป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่ต้องใช้ชีวิตด้วยความกดดันหลากหลายรูปแบบ

‘เหนื่อยล้า กดดัน หมดพลัง’ ปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับคนยุคนี้โดยเฉพาะกับเหล่า New Gen ที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความกดดันและคาดหวังของสังคม ต้องเติบโตบนโลกที่เต็มไปด้วยอุปสรรคที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้คน New Gen รู้สึกว่าตัวเองยังไม่เก่งพอ และจะทำไม่ได้ตามที่ตัวเองและโลกคาดหวัง แม้หัวใจพวกเขาจะเต็มเปี่ยมไปด้วยการอยากเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นก็ตาม

 

จากผลสำรวจอินไซต์ผู้บริโภคปี 2025-2026 เพื่อสร้างสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ของ WGSN พบว่า ปี 2025 ลูกค้าจะรู้สึกเหนื่อยล้า ต้องการกำลังใจ คำถามคือแล้วแบรนด์จะรับมืออย่างไร?

 

หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจคือ สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการจากแบรนด์คือการสื่อสารที่โปร่งใสและจริงใจ และหวังเพียงว่าแบรนด์จะทำหน้าที่เป็นผู้ซัพพอร์ตความรู้สึกแทนที่จะควบคุมความคิด 

 

หนึ่งในแบรนด์ที่ทำหน้าที่นี้ได้อย่างดีคือ ‘Double A’ กับแคมเปญ ‘วันดี ๆ กับกระดาษดี ๆ’

 

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแบรนด์เข้าใจว่าการเชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายไม่ใช่แค่เทรนด์แต่เป็นสิ่งที่แบรนด์ควรทำ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้พวกเขาเห็นว่าแบรนด์มีความเชื่อเดียวกัน และพวกเขาสามารถมีส่วนร่วมกับแบรนด์ผ่านประสบการณ์ดีๆ สุดท้ายคือแบรนด์ได้สร้างอิมแพ็กต์ที่ดีต่ออนาคตของพวกเขา 

 

“เราจะคอยส่งพลังใจ ชื่นชมในความพยายาม และทำให้เขารู้ว่าพวกเขามีคุณค่าในตัวเอง” นี่คือสารตั้งต้นที่แสนจะจริงใจของ Double A ก่อนจะพัฒนามาเป็นแคมเปญ ‘วันดี ๆ กับกระดาษดี ๆ’ เพื่อสื่อสารกับคน New Gen และคนวัยทำงานซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของแบรนด์ว่า ‘ข้อความสร้างพลังใจดีๆ สามารถเปลี่ยนวันทั้งวันให้กลายเป็นวันดี ๆ ได้’  

 

double-a

 

ส่งต่อ ‘ความเข้าใจ’ ผ่านแคมเปญ ‘วันดี ๆ กับกระดาษดี ๆ’

 

ความพยายามที่จะเข้าใจและเข้าใกล้ New Gen ทำให้พบอินไซต์ที่น่าสนใจ ‘ความกดดัน’ จากสภาพเศรษฐกิจ สังคม ชีวิตการทำงาน ครอบครัว ไปจนถึงเรื่องส่วนตัว ล้วนบีบคั้นให้คนยุคใหม่พากันตั้งคำถามต่อคุณค่าและความสามารถของตัวเอง

“ฉันดีพอหรือยัง?”

“เรายังพยายามไม่มากพอหรือเปล่า?”

“คุณค่าของฉันอยู่ตรงไหน?” 

 

ความไม่มั่นใจที่ก่อตัวกลายเป็นตัวทำลาย ‘Better Day’ ของพวกเขา สิ่งที่พวกเขาต้องการไม่ใช่โลกที่ดีขึ้นในพริบตา แต่ต้องการเพียงแค่กำลังใจดีๆ ที่จะช่วยเติมเต็มพลัง 

 

แบรนด์หยิบอินไซต์ที่พบมาบรรจบเข้ากับไอเดียสุดครีเอตที่ต้องการเชื่อมโยงแบรนด์กับ New Gen ด้วยการสร้าง Conversational Marketing ที่มีความหมายและมีอิมแพ็กต์ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า ข้อความดีๆ สามารถเปลี่ยนวันทั้งวันให้กลายเป็นวันดี ๆ ได้

 

Double A คิกออฟแคมเปญ ‘วันดี ๆ กับกระดาษดี ๆ’ ด้วยการใช้ Contextual Marketing หรือการตลาดแบบใส่ใจ มาออกแบบสื่อ Digital Out of Home ด้วย Wording Contextual ข้อความสั้นๆ เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความใส่ใจ กระจายพลังใจไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น BTS และ MRT หรือป้าย Digital Billboard ตามท้องถนน 

 

double-a

 

ความทรงพลังของแคมเปญในเฟสแรกถูกคิดมาอย่างถี่ถ้วน ตั้งแต่การหยิบอินไซต์ความกังวลของคนแต่ละ Gen มาเป็นตัวตั้ง เลือกสื่อที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ก่อนจะคัดสรรข้อความง่ายๆ แต่อ่านแล้วใจฟูสุดๆ เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและสถานที่นั้นๆ  

 

คนวัยทำงาน นักเรียน นักศึกษาที่เดินทางด้วย BTS และ MRT เป็นประจำ คงจะเคยเห็นประโยคฮีลใจอย่าง “ชีวิตมีทางออกมากกว่า 1 ทางเสมอ”, “ออกจากสถานียิ้มให้ตัวเองสักทีนะ”, “จะเลือกทางไหนก็ขอให้ราบรื่น” หรือ “มีขาลง เดี๋ยวชีวิตก็มีขาขึ้น”

 

ส่วนใครที่เดินทางบนท้องถนนเป็นหลัก คงจะสะดุดกับข้อความน่ารักๆ เช่น “ขอให้งานวันนี้มีแต่ไฟเขียว”, “ติดขัดบ้าง…ค่อยเป็นค่อยไปนะ” หรือ “ถึงจะไปช้าๆ แต่ก็ไม่หยุดอยู่กับที่” 

 

หรือบางคนเดินเข้าร้านเครื่องเขียน อาจเคยเห็นป้าย PoPs ที่ส่งพลังใจและสร้างรอยยิ้มเล็กๆ ให้กับเขาในวันนั้น เช่น “เก่งมากวันนี้ คุณทำเต็มที่แล้ว”, “เธอเก่งในแบบของเธอนะ” หรือ “วันที่ดีเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม” 

 

จะเห็นว่าทุกประโยคถูกล้อและเชื่อมโยงไปกับบริบทของสถานที่ กลยุทธ์นี้ไม่เพียงสร้างโมเมนต์ร่วมให้กับคนที่อ่านข้อความได้อยู่หมัด แต่ยังซัดเข้าไปที่จิตใจ กระตุกให้พวกเขาหันกลับมามองเห็นเรื่องดีๆ เล็กๆ น้อยๆ ที่ซ่อนอยู่รอบตัว เหนือสิ่งอื่นใดที่ทำให้พวกเขารู้ว่า ไม่ว่าวันนี้จะเหนื่อยหนักแค่ไหน Double A จะคอยส่งกำลังใจดีๆ เคียงข้างเขาตลอดทั้งวัน 

 

ขยายพลังงานดีๆ ให้เข้าถึงทุก Gen ผ่าน ‘Experimental Film’

 

แบรนด์เล่นกับพลังของ Better Paper, Better World ต่อ ด้วยการออกแบบ Experimental Film การทดลองที่อยากเปลี่ยน 1 วันของใครสักคนให้ดีขึ้นด้วยกระดาษ 1 แผ่น โดยมี Gen Z, X และ Y เป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่ต้องใช้ชีวิตด้วยความกดดันหลากหลายรูปแบบ 

 

 

สิ่งที่สะท้อนว่าแบรนด์เข้าใจอินไซต์ของคน Gen ต่างๆ จริง คือการเลือกโลเคชัน อย่าง Gen Z ก็เลือกเป็นสถานศึกษาและแหล่งรวมตัวของคน Gen นี้ ส่วน Gen X และ Y ตัวแทนของคนวัยทำงาน จึงเลือกโลเคชั่นในโซน Office Building 

 

แต่หัวใจสำคัญของ Experimental Film คือการใช้ ‘ข้อความ’ ที่มีความหมายและมีอิมแพ็กต์ โดยหยิบอินไซต์ เช่น ความเก่งไม่พอ ความไม่มั่นใจที่เข้ามาทำร้าย Better Day ของคนแต่ละ Gen สื่อให้เห็นว่าในวันที่เหนื่อยล้า เราอาจต้องการแค่กำลังใจดีๆ ให้กันและกัน ที่ช่วยเติมเต็มพลัง เติมเต็มความรู้สึกให้กันและกัน 

 

double-a

 

ถึงโปรดักชันจะเรียบง่ายแต่ทัชใจคนดูอย่างมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากสีหน้า แววตา รอยยิ้ม ของคนที่เปิดอ่านข้อความจากกระดาษ A4 ธรรมดาๆ เพียงแผ่นเดียว สำหรับบางคนนี่อาจเป็นข้อความธรรมดาๆ ที่ได้ยินจนเบื่อ แต่บางคน ประโยคเรียบง่ายอย่าง “รู้ใช่ไหม ว่าคุณอาจจะเก่งกว่าที่ตัวเองคิด”, “เหนื่อยใช่ไหม วันนี้เธอเก่งมากเลย”, “เป็นตัวเองในแบบที่อยากเป็น” หรือ “วันนี้ทำเต็มที่แล้ว เก่งมาก!”



ที่มันทัชใจอาจเป็นเพราะบางประโยค…เราเฝ้ารอจะได้ยินจากใครสักคนก็เป็นได้

 

พลังของ Better Paper, Better World

 

นอกจากพลังงานดีๆ ที่แบรนด์ส่งผ่านข้อความดีๆ บนกระดาษดีๆ จะทำหน้าที่ผ่านแคมเปญนี้ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะเชื่อว่าใครที่ได้ดู Experimental Film ไม่ว่าจะเวอร์ชัน Gen ไหนคงได้รับคลื่นพลังงานบวกเหล่านั้นไปด้วย รวมไปถึงสื่อ OOH ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ 

 

เหนือสิ่งอื่นใดมันตอกย้ำ ‘พลังของกระดาษ’ ที่เป็นได้มากกว่าวัตถุที่ใช้จดบันทึกหรือวาดเขียน แต่ยังทำหน้าที่บางอย่างที่เทคโนโลยีไหนก็ทดแทนไม่ได้ นั่นคือพลังที่ทำงานกับอารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์ 

 

นั่นเป็นเหตุที่ว่าทำไม Double A จึงไม่หยุดที่จะสร้างกระดาษให้มีคุณค่าต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม เพราะ Better Paper สามารถสร้าง Better Day, Better Life, Better People, Better Society ไปจนถึง Better Future และที่สำคัญกว่านั้นคือ ‘Better World’ พลังที่สามารถเปลี่ยนโลกของใครหลายคนให้ดีขึ้นได้ 

 

ว่าแล้วก็อยากที่จะหยิบกระดาษสักแผ่น เขียนข้อความดีๆ ส่งกำลังใจให้กับคนรอบข้างดูบ้าง หรือถ้าไม่รู้จะเขียนให้ใคร เขียนมันให้กับตัวเอง หยิบมาอ่านทุกครั้งที่พลังใจเริ่มลด แต่ถ้าอยากทดลองว่า ข้อความดีๆ ของคุณจะสร้างวันดี ๆ ให้คนใกล้ตัวได้เหมือนกับ Experimental Film ของ Double A หรือเปล่า จะฝากใครสักคนไปยื่นให้ ย่องไปแปะไว้บนโต๊ะ เสียบไว้ในหนังสือเรียน แล้วแอบส่องดูปฏิกิริยา ถ้าไม่ยิ้มออกมาก็ต้องมีน้ำตารื้นกันบ้างละ รับรอง! 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising