Doubao แชตบอต AI (Artificial Intelligence) จาก ByteDance บริษัทแม่ของ Tiktok แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดัง กำลังไต่ขึ้นเป็นมาเป็นเบอร์หนึ่งในจีน แซงหน้าแชตบอตจากบริษัทคู่แข่งอย่าง Baidu หลังเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน
จากข้อมูลของ Sensor Tower Data เผยว่า นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนเมษายน Duobao จาก ByteDance มียอดการดาวน์โหลดราว 9 ล้านครั้ง และจำนวนผู้ใช้งานจริงรายเดือน (Monthly Active Users: MAU) มากกว่า 4 ล้านรายบนระบบปฏิบัติการ iOS แซงหน้า ERNIE Bot ของ Baidu ที่มียอดการดาวน์โหลด 8 ล้านครั้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่า ERNIE จะเป็นแชตบอต AI ตัวแรกที่เปิดตัวในประเทศจีนก็ตาม
แต่ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวไม่ครอบคลุมการใช้งานบนระบบปฏิบัติการบน Android ซึ่งทาง ByteDance ได้เปิดเผยข้อมูลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า Doubao มีผู้ใช้งานจริงรายเดือน (MAU) ทั้งในโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์มากกว่า 26 ล้านราย
ในขณะที่ข้อมูลของ SimilarWeb เผยว่า จำนวนผู้ใช้งานจริงรายเดือน (MAU) บนโทรศัพท์ของ ChatGPT อยู่ที่ราว 6.7 ล้านรายเท่านั้น
หลังจากที่ เหลียงรั่วโป ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ByteDance ได้ประกาศให้ AI เป็นเทคโนโลยีที่บริษัทจะให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ในจีนอย่าง Alibaba และ Tencent ที่ต้องการแข่งขันในอุตสาหกรรม Generative AI อย่างที่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในซิลิคอนแวลลีย์อย่าง Microsoft กำลังเดิมพันกับ ChatGPT หลายหมื่นล้านดอลลาร์
โดย Alibaba และ Tencent ไม่เพียงแต่พัฒนาเทคโนโลยี AI พื้นฐานของตนเองเท่านั้น แต่ก็มีการลงทุนหลายล้านดอลลาร์ไปในสตาร์ทอัพด้าน AI อย่าง Baichuan และ Zhipu AI เช่นกัน
โรเบิร์ต ลี นักวิเคราะห์ของ Bloomberg Intelligence ชี้ว่า การแข่งขันที่ดุเดือดของ AI ในจีนนับว่ามีกำแพงในการเข้าไปทำธุรกิจค่อนข้างต่ำ (Low Barrier to Entry) ประกอบกับการแข่งขันในรูปแบบ ‘ใช้งานฟรี’ และการจำกัดการเข้าถึงชิปขั้นสูงจากสหรัฐฯ จะทำให้โอกาสในทำเงินของผู้เล่น AI ในจีนเป็นไปได้ยากขึ้น
Sensor Tower ยังพบว่า แม้ ERNIE จะเป็นเพียงหนึ่งในท็อป 5 แชตบอต AI ของจีน ที่คิดค่าบริการการใช้งาน (Subscription Fee) แต่ก็ทำเงินได้ไม่ถึง 5 แสนดอลลาร์ ทั้งจากค่าธรรมเนียมรายเดือนและการคิดค่าบริการภายในแอปพลิเคชันนับตั้งแต่เปิดตัวมาในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2023
ซึ่ง ERNIE มองว่า ตัวผลักดันรายได้ของ AI จะมาจากบริการที่ไปเกี่ยวกับโฆษณา (Advertising) และคลาวด์ (Cloud) และบริการดังกล่าวจะเพิ่มรายได้ให้กับ Baidu หลายพันล้านหยวนภายในปีนี้
อ้างอิง:
