ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนการประชุม G7 ไปจนถึงเดือนกันยายนเป็นอย่างน้อย ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก
ทรัมป์เผยกับผู้สื่อข่าวขณะบินอยู่บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันว่า เขาตัดสินใจเลื่อนการประชุม G7 เพราะไม่คิดว่า G7 เป็นตัวแทนของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ได้ เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่ล้าสมัยไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องการเชิญรัสเซีย ออสเตรเลีย อินเดีย และเกาหลีใต้มาร่วมประชุมซัมมิต G7 ด้วย
G7 ประกอบด้วยกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำที่พัฒนาแล้ว 7 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ, แคนาดา, ฝรั่งเศส, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, อิตาลี และญี่ปุ่น ขณะที่อาลิสซา ฟาราห์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกลยุทธ์ของทำเนียบขาวเผยว่า ทรัมป์ต้องการเชิญชาติพันธมิตรอื่นๆ เข้าร่วมด้วย รวมถึงประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และกลุ่ม Five Eyes ซึ่งมีออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม G7
อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การระบาดของไวรัสในหลายประเทศ ทำให้บรรดาผู้นำต่างยุ่งอยู่กับการแก้ปัญหาในประเทศ ทำให้เกิดคำถามว่าจะมีผู้นำ G7 คนไหนไปร่วมประชุมด้วยตนเองได้บ้าง ขณะที่โฆษกรัฐบาลเยอรมนี เผยว่านายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ยังไม่ยืนยันว่าเธอจะสามารถเดินทางไปประชุมที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ เพราะกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของไวรัส
เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดาก็ยังไม่รับปากว่าจะเดินทางไปร่วมประชุมด้วยตนเองได้หรือไม่ เพราะกังวลเรื่องโรคระบาด และขัดต่อกฎการกักตัวของแคนาดาเช่นกัน
แนวคิดการขยายเวที G7 ของทรัมป์ถูกมองว่ามีเป้าหมายเพื่อสร้างพันธมิตรในการต่อกรกับจีน อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวทำให้เกิดข้อโต้แย้งขึ้น เนื่องจากรัสเซียถูกแบนจากการประชุมนับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผนวกดินแดนไครเมียของยูเครนมาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศในปี 2014 นอกจากนี้รัสเซียก็ไม่ใช่พันธมิตรที่มีจุดยืนตรงกับสหรัฐฯ ในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับจีน โดยเฉพาะประเด็นการปกป้องสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
