การเป็นผู้เล่นในตลาดผลิตภัณฑ์กัญชงกำลังเป็นกระแสอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยมีทั้งผู้เล่นที่เข้ามาอยู่ในห่วงโซ่อุปทานระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยในส่วนของระดับต้นน้ำ (นำเข้าเมล็ดพันธุ์และปลูก) และกลางน้ำ (โรงสกัด) ผู้เล่นที่โดดเด่นสุดรายหนึ่งก็คือ บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค หรือ DOD ซึ่งล่าสุดได้เซ็น MOU กับพันธมิตรทางธุรกิจไปแล้ว 4 ราย และยังมีที่อยู่ระหว่างเจรจากันอีก
ภาพความเป็นผู้กรุยทางในระดับต้นน้ำ (นำเข้าเมล็ดพันธ์ุและปลูก) ที่ชัดเจนเรื่อยๆ ยังทำให้ราคาหุ้น DOD ทำนิวไฮอีกครั้ง โดยวานนี้ (17 มีนาคม) ปิดที่ 14.70 บาท +8.09% หลังจากที่เคยทำราคาสูงสุดที่ 14.20 บาท เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
หากนับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่ DOD เริ่มประกาศจุดยืนการเป็นผู้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็จ ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 26.72%
สุวารินทร์ ก้อนทอง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค หรือ DOD กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า DOD มีส่วนร่วมในตลาดนี้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยล่าสุดได้เซ็น MOU กับพันธมิตรแล้ว 4 รายเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สำเร็จ ตลอดจนดำเนินการผลิตเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำเร็จให้แก่พันธมิตรทางการค้า โดยผลิตภัณฑ์ปลายน้ำของพันธมิตรส่วนมากเป็นกลุ่มอาหารเสริม และเวชสำอาง
สาเหตุ DOD เน้นวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สำเร็จกลุ่มอาหารเสริมและเวชสำอาง เนื่องจากเป็น Core Business เดิมของ DOD อยู่แล้ว จัดเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ DOD มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ทำงานเป็นอย่างดี รวมถึงมีโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตรองรับ ไม่ว่าจะเป็นแล็บ (LAB) และโรงสกัด ซึ่งได้มาตรฐานสากล
สุวารินทร์ กล่าวว่า ความคืบหน้าล่าสุดของการรุกธุรกิจกัญชงนั้น ขณะนี้บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธ์ุกัญชงจาก อย. แล้ว ขั้นตอนต่อไปอยู่ระหว่างการรอใบรับรองจาก อย. เพื่อนำไปประกอบกระบวนการนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชง 10 สายพันธุ์จากอเมริกา ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับเมล็ดพันธุ์ในเดือนเมษายนปีนี้ จากนั้นจะเป็นกระบวนการเพาะปลูก ซึ่ง DOD มีพื้นที่รองรับการเพาะปลูกราว 100 ไร่ มาจากพันธมิตรทางธุรกิจคือ บริษัทในเครือชโยกรุ๊ป ราว 50 ไร่ และพื้นที่จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้อีกกว่า 50 ไร่
“ในส่วนมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เราได้เปิดรับเกษตกรผู้สนใจเป็น Contract Farming ซึ่งการเพาะปลูกเมล็ดพันธุ์กัญชงจะเป็นไปในรูปแบบที่เรากำหนด เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณสมบัติตามที่ อย. กำหนด ซึ่งได้รับความสนใจค่อนข้างดี”
ขณะเดียวกัน กระบวนการสกัดซึ่งเป็นส่วนกลางน้ำนั้น DOD มีโรงสกัดอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนเพิ่ม อีกทั้งยังมีแล็บสำหรับตรวจสอบคุณภาพสารสกัดจากกัญชงว่าเป็นไปมาตรฐานที่ อย. กำหนดหรือไม่ เช่นกัน
และส่วนของปลายน้ำหรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ก่อนหน้านี้ DOD มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ผลิตและจำหน่ายอยู่แล้ว จึงมีความต้องการจากลูกค้ารองรับสินค้าที่จะผลิตออกมา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าการรุกสู่ตลาดกัญชงนี้จะสร้างการเติบโตให้กับ DOD ในสัดส่วนเท่าไร เนื่องจากยังมีเรื่องของการกำหนดราคาขาย ซึ่งจะต้องรอมาตรฐานส่วนผสมในอาหารและยาที่ อย. จะเป็นผู้กำหนด และอาจจะมีข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อควบคุมคุณภาพและราคาสินค้าเพิ่มเติมได้ แต่ก็มองเป็นโอกาสการเติบโตของตลาดที่มหาศาล
“ตอนนี้กัญชงกำลังเป็นกระแส มีผู้เล่นมากมายกระโดดเข้ามาในตลาดนี้จนเริ่มเกิดเป็นฟองสบู่ขึ้นมา สิ่งที่ DOD จะมุ่งไปก็คือ เราจะสร้างธุรกิจกัญชงขึ้นมาให้เป็น Core Business ของเราให้ได้ และสามารถขยายธุรกิจต่อไปได้แม้ในวันที่ฟองสบู่กัญชงแตกก็ตาม”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์