×

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งวอนนักท่องเที่ยวไม่ควรเข้าใกล้กัลปังหาแดง เกาะสุกร ชี้รบกวนธรรมชาติ

18.03.2024
  • LOADING...
กัลปังหาแดง

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) แจ้งเตือนประชาชนไม่ควรเข้าใกล้หรือสัมผัสกัลปังหาแดง (Sea Fan) บนเกาะสุกร เนื่องจากเป็นการรบกวนธรรมชาติ หลังมีสำนักข่าวและเพจ Facebook หลายแห่งรายงานเกี่ยวกับกลุ่มกัลปังหาแดงที่โผล่พ้นน้ำบริเวณเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง หลังน้ำทะเลลดลงต่ำสุด ซึ่งใน 1 ปีจะมีให้เห็นแค่ไม่กี่ครั้ง จนกลายเป็นอันซีนแห่งใหม่ของเกาะสุกร ซึ่งนักท่องเที่ยวได้แห่ชมความสวยงามกันเป็นจำนวนมาก

  • หวั่นการท่องเที่ยวกระทบชีวิตกัลปังหา

 

ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อธิบายว่า การที่นักท่องเที่ยวเข้าใกล้กลุ่มกัลปังหานี้โดยมีการเข้าไปสัมผัสหรือเหยียบย่ำจะทำให้เกิดการฟุ้งของตะกอน ซึ่งจะไปรบกวนการหาอาหารและการดำรงชีวิตของกัลปังหาได้ ด้วยเหตุนี้ ทช. จึงขอความร่วมมือนักท่องเที่ยว ตลอดจนผู้ประกอบการนำเที่ยว ไม่ควรเข้าใกล้กัลปังหาแดง อันจะเป็นการรบกวนและทำลายธรรมชาติ พร้อมขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันสร้างการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เก็บความประทับใจกลับบ้าน รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่สืบไป

  • กัลปังหาคืออะไร

 

กัลปังหาคือสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลัง แต่ละตัวมีขนาดเล็กมาก จัดอยู่ในพวกเดียวกับปะการัง กัลปังหาประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ตัวกัลปังหา (Polyp) ที่มีลักษณะคล้ายดอกไม้ทะเลขนาดเล็ก มีเนื้อเยื่ออ่อนนุ่ม และมีหนวดรอบปากจำนวน 8 เส้น ฝังและกระจายตัวอยู่ตามโครงสร้างของกัลปังหา และอีกส่วนเป็นส่วนโครงสร้างที่เป็นกิ่งแตกกิ่งก้านคล้ายพัดและซี่หวีแล้วแต่ชนิด กิ่งโครงสร้างนี้ตัวกัลปังหาสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับตัวเองและเป็นสารจำพวกเขาสัตว์ (Keratin) ชอบอาศัยอยู่ตามที่มีกระแสน้ำไหล เนื่องจากกระแสน้ำจะช่วยพัดพาอาหารมาให้ และจะช่วยพัดพาของเสียที่ถูกปล่อยออกจากกัลปังหาออกไป โดยกัลปังหาจะใช้หนวดในการดักจับสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเพื่อนำมาเป็นอาหาร ส่วนเข็มพิษที่หนวดจะช่วยในการจับพวกแพลงก์ตอน

  • ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับกัลปังหา

 

กัลปังหามีประโยชน์โดยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลขนาดเล็กหลายชนิด โดยสัตว์เหล่านี้จะเกาะตามกิ่งก้าน แต่ด้วยการที่กัลปังหามีรูปร่างและสีสันที่สวยงามจึงเกิดค่านิยมผิดๆ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์นำมาประดับตู้ปลา นำมาใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้าน หรือแม้แต่นำส่วนที่เป็นแกนในสีดำมาทำเป็นเครื่องรางของขลัง เครื่องประดับ 

 

ชาวจีนโบราณมีความเชื่อว่ากัลปังหาเป็นสมุนไพรที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีงานวิจัยหรือข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่สามารถรับรองได้เลยว่ากัลปังหามีสรรพคุณที่ใช้ในการรักษาโรคได้จริงตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ 

 

อีกทั้งในระบบนิเวศตามธรรมชาตินั้น สิ่งมีชีวิตทั้งหลายมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน การทำลายหรือย้ายกัลปังหาจากแหล่งที่อยู่เดิมถือเป็นการกระทำที่ไม่สมควร เพราะเป็นการทำลายที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลขนาดเล็ก ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ทำให้สัตว์น้ำขนาดเล็กไม่มีที่หลบสัตว์นักล่า จึงไม่สามารถเจริญเติบโตและอาจสูญพันธุ์ได้ 

 

นอกจากนี้ กัลปังหาเป็นสัตว์ทะเลที่เจริญเติบโตค่อนข้างช้า บางชนิดอาจใช้เวลาเป็นร้อยปีในการเติบโตเพียงแค่ 1 ฟุต และในหนึ่งต้นนั้นมีตัวกัลปังหาอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นการทำลายกัลปังหาหนึ่งต้นเท่ากับทำลายตัวกัลปังหาหลายหมื่นหลายแสนตัว และเป็นการทำลายระบบนิเวศทางทะเลอีกด้วย

  • กัลปังหาเป็นสัตว์คุ้มครอง ครอบครอง-ค้าขาย ถึงติดคุก

 

กัลปังหาเป็นสัตว์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง ทำการค้าขาย หรือนำเขา-ส่งออกโดยเด็ดขาด (ทั้งที่ยังมีชีวิตหรือเป็นซาก) ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงห้ามครอบครอง เว้นแต่ผู้ได้รับอนุญาตให้ครอบครอง ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท

 

ภาพ: มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

อ้างอิง: 

  • กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising