ลุ้นคลังรับลูกทักษิณ แจก ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เป็นกลุ่มต่อไป หลัง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปราศรัย ประกาศเงิน 10,000 บาทมาแน่!
วันนี้ (14 กันยายน) พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปราศรัยที่จังหวัดอุดรธานี เกี่ยวกับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทให้แก่ผู้ที่อายุเกิน 60 ปี โดยระบุว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ พิจารณา
พร้อมยืนยันว่าในเฟสต่อไป รัฐบาลจะมาพิจารณาอีกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มเปราะบางก่อนหน้านี้ แต่มีปัญหาสภาพคล่อง โดยจะคัดผู้ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน
“เรื่องนี้มาจากการที่ในเฟสที่ 1 มีการแจกเงินให้กับกลุ่มคนเปราะบางที่มีปัญหาเรื่องรายได้ ซึ่งส่วนที่เหลือนั้นต้องมาดูในส่วนที่มีปัญหาสภาพคล่อง ซึ่งต้องทำในส่วนที่ตกค้างอยู่ คาดว่าจะใช้เงินไม่มาก ไม่กี่ล้านคน ทำให้ใช้วงเงินไม่มากนัก ซึ่งเราจะนำหลักการเข้าบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป” พิชัยระบุ
สำหรับแนวทางการแจกเงิน 10,000 บาทในเฟสต่อไป พิชัยกล่าวว่า จะพิจารณาการใส่เงินที่เหมาะสมตามรูปแบบ โปรแกรม และแพลตฟอร์มดิจิทัลต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ เพราะนอกจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเข้าไปช่วยเหลือประชาชนแล้ว ยังจะทำให้ประชาชนมีความคุ้นเคยกับการใช้ระบบดิจิทัลและสมาร์ทโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านแพลตฟอร์มของรัฐที่จะให้ประชาชนเข้าถึงได้
ด้าน เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2024: BRAVE NEW WORLD เศรษฐกิจไทย ไล่กวดโลกใหม่ โดยเปิดเผยว่า การแจกเงิน 10,000 บาทให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ยังอยู่ในกระบวนการหารือ เนื่องจากยังต้องมีการพูดคุยกับหลายภาคส่วน รวมทั้งต้องมีการพูดคุยในคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยว่ารูปแบบไหนจะเหมาะสมที่สุด
สำหรับช่วงเวลาที่จะเริ่มโครงการ เผ่าภูมิระบุว่า ขึ้นอยู่กับความพร้อมของระบบและงบประมาณ อาจจะต้องรอดูจากโมเมนตัมเศรษฐกิจประกอบด้วยว่าช่วงเวลาไหนจะเหมาะสมที่สุด
นอกจากนี้ เผ่าภูมิยังกล่าวว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปี 2567 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินว่ จะขยายตัวได้ที่ 2.6% ลดลงเนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วมและการเปลี่ยนรัฐบาล
ขณะที่เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2567 คาดว่าจะเติบโตได้ที่ 4.3% โดยมีปัจจัยบวกจากภาคการส่งออกที่ขยายตัวได้ดี ประกอบกับภาคการบริโภคและการผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งสะท้อนจากตัวเลขการผลิตรถจักรยานยนต์ที่ขยายตัวได้ดีขึ้น รวมถึงได้รับแรงสนับสนุนจากการแจกเงิน 10,000 บาทให้กับกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย
ทั้งนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีกำหนดจะแถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ในวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2567
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: