วันนี้ (26 เมษายน) พรรคประชาธิปัตย์จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 โดยมี เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค สส. และสมาชิกพรรค ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่
สำหรับวาระการประชุมในวันนี้จะพิจารณาเลือกตั้งโฆษกพรรคคนใหม่ เนื่องจากขณะนี้มี เจนจิรา รัตนเพียร รักษาการโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แทน ราเมศ รัตนะเชวง ที่ลาออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย
เฉลิมชัยกล่าวเปิดการประชุมว่า อยากสื่อสารให้ชาวประชาธิปัตย์ได้รับทราบว่า วันนี้ประชาธิปัตย์กำลังทำอะไร เพราะเดือนนี้ถือเป็นเดือนที่พรรคประชาธิปัตย์ก้าวเข้าสู่ปีที่ 80 ซึ่ง 79 ปีที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ผ่านวิกฤตต่างๆ มามากมาย มีทั้งรุ่งเรืองมีทั้งตกต่ำ นี่คือสิ่งที่เป็นธรรมชาติของการเมือง แต่สถานการณ์ ณ วันนี้ทำให้ประชาธิปัตย์อยู่ในจุดที่วิกฤตอีกครั้ง จากตัวเลขตลอดระยะเวลา 10-15 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าตัวเลขสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของพรรคลดมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมี สส. 25 คน
ถ้าพูดทางคณิตศาสตร์เป็นการยืนยันว่าพรรคอยู่ในช่วงวิกฤต สิ่งที่ต้องดำเนินการ คือการกล้าเปลี่ยนแปลง กล้าตัดสินใจ ในการที่จะนำประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง แต่ทุกอย่างต้องถูกกฎหมาย ที่ผ่านมาประชาธิปัตย์ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติเป็นอย่างมาก นี่คือสิ่งที่ตนอยากจะเอามาเป็นความภาคภูมิใจที่อยากจะให้สมาชิกช่วยกันต่อสู้ไปข้างหน้าอย่างมีเอกภาพ ตนขอบอกว่า ไม่ว่าพรรคจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ตนไม่มีวันทิ้งพรรค และจะยืนอยู่กับพวกเราทุกคน
เฉลิมชัยยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวยึดมั่นในหลักการและอุดมการณ์ประชาธิปไตยสุจริต และยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง เลือกตั้งปี 2562 ตนสอบตกเพราะไม่ยอมซื้อเสียงก็ยอมรับสภาพแต่ภูมิใจ และยืนอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ก็ยังยืนอยู่พร้อมที่จะต่อสู้และทุ่มเทที่จะนำพรรคประชาธิปัตย์กลับมาให้ได้ ตนจะไม่ยอมให้มีเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน หรือทำให้พรรคประชาธิปัตย์นั้นเสื่อมหรือแปดเปื้อน
“การประชุมครั้งก่อนเราเป็นฝ่ายค้าน วันนี้เรามาประชุมเราเป็นรัฐบาลได้ 7 เดือนกว่า การเข้ามาเป็นรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์มาตามข้อบังคับพรรคทุกประการ ไม่ใช่เฉลิมชัยหรือใครคนใดคนหนึ่งบอกว่าเป็นรัฐบาลก็เป็นได้ พรรคเราขับเคลื่อนด้วยข้อบังคับพรรคมาตลอด ประชาธิปไตยความเห็นต่างมีได้ แต่ความเห็นต่างนั้นจะต้องไม่ทำความเสียหายให้กับองค์กร” เฉลิมชัยกล่าว
เฉลิมชัยกล่าวอีกว่า เมื่อเราตัดสินใจมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันว่าหลักการของเราไม่มีเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องซื่อสัตย์สุจริต การที่ตนได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการที่ เดชอิศม์ ขาวทอง ได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป้าหมายของเราคือวางนโยบายและสิ่งต่างๆ เพื่อให้พรรคเดินไปข้างหน้า
ทั้งนี้ คำตอบอยู่ที่การเลือกตั้งครั้งหน้า พวกเราที่เข้าไปถูกปรามาสว่าจะโกงกินประเทศชาติ หรือไปหาเงิน หาทอง หาทรัพย์สิน หาผลประโยชน์ ขอยืนยันว่ามีสำนึก และจะไม่มีวันเกิดเหตุการณ์อย่างนี้กับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีวันที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสื่อมเสีย
เฉลิมชัยกล่าวอีกว่า อยากเชิญประชาชนชาวนครศรีธรรมราชเขต 8 มาร่วมสร้างประชาธิปไตยกับตนในครั้งนี้ อยากให้นครศรีธรรมราชเป็นการเริ่มต้นประชาธิปไตยสุจริตของประเทศไทย ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีตัวแทนทุกจังหวัดครบแล้ว แม้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปี 2570 แต่นี่คือการเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะกลับมายึดโยงประชาชน ให้โอกาสคนรุ่นใหม่เข้ามาขับเคลื่อนพรรค พร้อมย้ำว่าจะไม่มีวันและเลขาธิการพรรคจะไม่มีวันทำอะไรให้พรรคเสื่อมเสียเด็ดขาด ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นและสบายใจในการบริหารงานของตน