×

ชวน vs. เศรษฐา ราคายางพารา-เลือกปฏิบัติคนใต้ ลงพื้นที่นิดเดียวทวงบุญคุณ นายกฯ เบื่อมุกด้อยค่า แนะหามุกใหม่ ห่วงไม่เหลือที่นั่งในสภา

โดย THE STANDARD TEAM
04.04.2024
  • LOADING...

วันนี้ (4 เมษายน) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) ในญัตติการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ชวน หลีกภัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอภิปรายถึงประเด็นราคายางพาราว่า ตนเองในฐานะที่เป็นเด็กสวนยาง เติบโตที่จังหวัดตรัง ยางพาราราคาตกต่ำมาหลายปี ตนเองได้ร้องเรียนไปยังรัฐบาลตั้งแต่สมัย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่ามีประชาชนที่ปลูกยางพาราเดือดร้อนมากกว่า 69 จังหวัด หรือกว่า 1.7 ล้านครัวเรือน

 

ชวนกล่าวต่อว่า วันนี้ยางพารามีราคาขึ้น เป็นเรื่องน่าภูมิใจและดีใจ ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยสนับสนุนเรื่องนี้ เมื่อผลผลิตน้อย ความต้องการสูง แย่งกันซื้อราคาก็สูง เหมือนกับพืชทุกตัว แต่เมื่อผลผลิตมาก ราคาก็จะตกลงไป จึงอยากให้ราคายางสูงเช่นนี้ตลอดไป ราคาขึ้นอยู่กับอุปสงค์อุปทาน หรืออยู่ที่การตรวจจับยางเถื่อน เนื่องจากวานนี้นายกรัฐมนตรีแจงในทำนองว่าทุกฝ่ายร่วมกันในการปราบยางเถื่อน จนทำให้ราคาสูงขึ้น

 

ทั้งนี้ ถ้าประชาชนเชื่ออย่างนี้ ไม่สนใจเรื่องอุปสงค์อุปทาน ตนมีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ ขอให้ชาวสวนยางพาราอย่าไปคิดว่าราคาจะสูงเช่นนี้ตลอด ราคายางพาราเวลาขึ้นก็ขึ้นทุกประเทศ รัฐบาลต้องบอกความจริง ไม่อยากให้หลงทาง หากราคายางตกรัฐบาลจะโดนตำหนิได้ จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาเพื่อสร้างความเข้าใจ โดยเฉพาะต่อประชาชนชาวสวนยางพาราอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ จึงขอตั้งคำถามไปยังรัฐบาลว่าราคาจะดีแบบนี้โดยไม่เกี่ยวข้องกับอุปสงค์อุปทานไปตลอดใช่หรือไม่ รวมถึงรัฐบาลมีมาตรการและกำหนดตัวเลขราคายางพาราว่าควรจะได้ราคาไม่ต่ำกว่าเท่าไร

 

จากนั้นชวนได้อภิปรายถึงความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ตนเองคือบุคคลที่ทักท้วงว่ารัฐบาลไม่เขียนนโยบายเพื่อการแก้ไขความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ายังมีผู้เสียชีวิตในพื้นที่เพิ่มขึ้น โดยพบว่าตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้วจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 54 คน ปัญหาในพื้นที่ภาคใต้นั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยจนสื่อเลิกรายงานข่าว ซึ่งรัฐบาลต้องเอาใจใส่และให้ความสำคัญ จะมีมาตรการป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไร ทั้งที่จริงเป็นพื้นที่ด้ามขวานทอง แต่กลับมีสถานการณ์ที่ไม่สงบ

 

จึงขอถามนายกรัฐมนตรีว่าเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 22 มีนาคม 2566 นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่ามีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ตนเองจึงตั้งคำถามว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องภายในประเทศหรือระหว่างประเทศ แต่เมื่อปัญหาเกิดภายในประเทศเราควรที่จะต้องแก้ปัญหาของเราเอง จึงขอตั้งคำถามว่านายกรัฐมนตรีมาเลเซียให้ความเห็นว่าอย่างไร

 

ขณะเดียวกันรัฐบาลจะต้องทบทวนถึงมาตรการป้องกันความเสียหายจากสิ่งที่เกิดขึ้นโดยละเอียด ประชาชนในพื้นที่ที่มีรายได้ตกต่ำกว่าหลายพื้นที่อื่น หากรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจน ตนเองเชื่อว่าจะสามารถทำให้ปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ดีขึ้น

 

“บางเรื่องนั้นเราต้องให้เกียรติคนที่หวังดี เช่น เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่หวังดีได้ท้วงติงกรณีโครงการแจกเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เศรษฐพุฒิไม่ใช่นักทางการเมือง การท้วงติงของเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับคะแนนเสียง แต่เป็นความคิดที่หวังดีต่อประเทศชาติ” ชวนกล่าว

 

ชวนอภิปรายฝากไปถึงเศรษฐาว่า เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่อย่าไปคิดว่ามี สส. พรรคเพื่อไทยหรือไม่ ไปนิดเดียวอย่าทวงบุญคุณ เพราะเป็นหน้าที่อยู่แล้ว พร้อมยกตัวอย่างว่าจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองที่ทำรายได้ท่องเที่ยวอันดับ 1 รองจากกรุงเทพมหานคร ต้องช่วยเขาพัฒนา ก่อนจะย้ำว่าเศรษฐาไม่ใช่นายกรัฐมนตรีอีแอบ เป็นนายกรัฐมนตรีมาครึ่งปีแล้ว และที่นายกรัฐมนตรีกล่าวอ้างถึงผู้นำบางท่านที่บอกว่าเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ ไปเอามาจากไหน เพราะตนไม่เคยพูด ที่เคยพูดในวันแถลงนโยบายระบุว่า ‘ภาคใต้ถูกเลือกปฏิบัติ’

 

“คนที่เลือกปฏิบัติเขาก็พูดตรงไปตรงมาว่าเมื่อเราได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชน ขอพูดตรงๆ เราพัฒนาจังหวัดที่เลือกเราก่อน คือจังหวัดพรรคไทยรักไทยก่อน จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง ท่านนายกฯ ถ้าไม่ทราบว่าคนพูดคือใคร ผมจะบอกให้ ท่านทักษิณ (ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) พูด แต่ท่านไม่ได้แอบพูด ประกาศกับประชาชนตรงๆ เรารู้ว่าเลือกปฏิบัติ”

 

ทำให้ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นประท้วงว่าอย่าเอ่ยถึงคนนอกที่ไม่มีสิทธิ์มาชี้แจง ขอให้ระมัดระวัง การเอ่ยชื่ออดีตนายกรัฐมนตรี และยังพูดในทางเสียหายว่ามีการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แบบเลือกปฏิบัติ ซึ่งไม่เป็นความจริง ถ้าดูงบประมาณที่ลงไปในช่วงที่นายกรัฐมนตรีแต่ละท่านดำรงตำแหน่ง จะเห็นตัวเลขที่ชัดเจนว่าการพัฒนาเกิดขึ้นในช่วงใด ขอให้อภิปรายอยู่ในกรอบ และละเว้นการเอ่ยชื่อคนนอกโดยไม่จำเป็น

 

ชวนได้ตอบกลับว่า “ไม่มีใครอยู่ในกรอบเท่าผม” ทำให้ ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุมกำลังจะกล่าว ชวนพูดขึ้นอีกว่า “ไม่เอ่ยชื่อครับ” ปดิพัทธ์จึงวินิจฉัยว่าการพาดพิงส่วนบุคคลอาจจะไม่ตรงญัตติ โดยขอให้อยู่ในญัตติ และไม่พาดพิงบุคคลภายนอก 

 

ชวนอภิปรายต่อไป โดยใช้คำว่าอดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนจะย้ำว่าตนเองพูดว่าการเลือกปฏิบัติทำให้เสียโอกาส ขอรัฐบาลสนับสนุนช่วยชดเชยการเสียโอกาสจากการเลือกปฏิบัติ แต่การชดเชยกลับไม่มี ยืนยันว่าตนเองไม่ใช่คนพูดพล่อยๆ หรือบ้าน้ำลาย เพราะพูดอะไรต้องเป็นเรื่องจริง รับผิดชอบสิ่งที่พูด

 

ชวนขอให้รัฐบาลดำเนินนโยบายรัฐบาลตามที่ได้แถลงไว้ อีกทั้งที่นายกรัฐมนตรีให้คำมั่นว่าจะมีผู้ลงทุนแลนด์บริดจ์ เราก็ต้องติดตาม ส่วนกรณีนักโทษ คนป่วยหายป่วยเป็นเรื่องดี ไม่ว่าใครก็ตาม ซึ่งกฎกระทรวงเรื่องการปฏิบัติกับนักโทษนั้นดี แต่ได้มีการปฏิบัติหรือไม่ มีการปล่อยปละละเลยหรือไม่ 

 

จึงขอถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และหน้าที่ของนักการเมืองไม่ว่าฝ่ายไหนก็ต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง ถ้าต้องการให้ประชาชนมีความสุขก็ต้องทำให้ความยุติธรรมเกิดขึ้น หวังอย่างยิ่งว่าเราทุกคนต้องยึดหลักความชอบธรรม ถูกต้อง และหลักนิติธรรม

 

เศรษฐาเบื่อมุกด้อยค่า แนะหามุกใหม่ ห่วงไม่เหลือที่นั่งในสภา

 

จากนั้น เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงว่าตนขอแสดงความยินดีกับชาวสวนที่ราคายางดีที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และขอแสดงความเห็นใจกับฝ่ายค้านที่ไม่นึกว่าต้องลำบากหาเหตุผลว่าทำไมราคาดีไม่ใช่ผลงานของรัฐบาล เพราะแท้ที่จริงแล้วท่านก็ทราบดีอยู่แล้วตลอดเวลาที่เข้ามาทำงานราคายางดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

การที่รัฐบาลบริหารงานแบบเชิงรุก เข้าใจถึงปัญหา และลงรายละเอียดทุกเม็ด ก็เป็นส่วนทำให้ราคายางราคาโลกดีขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งเราคือมหาอำนาจของยางพาราโลก เช่นเดียวกับซาอุดีอาระเบียที่เป็นมหาอำนาจทางด้านน้ำมัน เราต้องมั่นใจว่าเราเป็นพี่ใหญ่ในยางพารา และผู้นำต้องมีความกล้าที่จะผลักดันเรื่องนโยบายต่างๆ ให้ราคายางสูงและทำงานเพื่อประชาชนให้กินดีอยู่ดี

 

ส่วนเรื่องที่เราปราบยางเถื่อนไม่ใช่แค่การสั่งอย่างเดียว ลงไปดูรายละเอียด กระชับพื้นที่ ทางฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายกระทรวงการคลัง กรมศุลกากร กระทรวงเกษตรฯ และศุลกากรทุกๆ คนที่ช่วยกันทำงาน ซึ่งผมก็กล่าวไปแล้วเมื่อวานนี้เป็นเรื่องที่ทำให้ลดยางเถื่อนลดการขาย (ซัพพลาย) ลงไป ซึ่งเป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์ 101

 

หากลดการขาย การซื้อ (ดีมานด์) เพิ่มมากขึ้น ราคายางจะดีขึ้นเป็นธรรมดา จริงๆ แล้วหลายท่านน่าจะรู้ แต่หากเราทำอย่างจริงจังเราก็ทำได้ แต่ในอดีตที่ไม่มีการทำกันมาเลย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลที่แล้วก็เป็นคนใต้ มีกินมีใช้มาจากยาง แต่ก็ไม่ได้ดูแลอะไรที่เกินกว่าที่ตัวเองควรจะทำ

 

“รัฐบาลนี้มีใจและทำงานอย่างแท้จริงเพื่อพี่น้องประชาชน และเราก็จะพยายามที่จะรักษาราคายางให้สูงต่อไป และเรามั่นใจว่าทำได้ แต่ราคาของผู้อภิปรายในสายตาประชาชนจะเป็นอย่างไร ผมรับผิดชอบไม่ได้ แต่เรื่องของราคายางผมรับผิดชอบครับ”

 

เศรษฐายังชี้แจงถึงการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภาคใต้ว่า ภาคใต้ไม่ได้มีแค่ยางอย่างเดียว แต่มีโอกาสอื่นอีกมากมาย และเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสนใจ แต่ก็วนไปเวียนมาเป็นฝ่ายค้านที่ยังงงๆ อยู่ ผมจำไม่ผิด ผมฟังท่านชวนไม่ผิดกล่าวไว้เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 พรรคเพื่อไทยพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกเขา จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง ท่านพูดชัดเจน ซึ่งผมก็พิสูจน์ว่าผมเป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศ ไม่เคยแบ่งแยกตามเสียงที่ได้รับ และการที่ตนลงพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้หลายหนถือเป็นเครื่องประจักษ์ที่ดีอยู่แล้ว

 

“ผมว่ามุกด้อยค่า พรรคที่อยู่คนละพรรคกับท่านเป็นมุกเดิมๆ ลองใช้มุกใหม่ดูบ้าง วันนี้ สส. เองก็ไหลไปอยู่พรรคอื่น คะแนนเสียงพรรคตัวเองก็น้อยลงไปทุกวัน ลองอะไรใหม่ๆ บ้างดีกว่า ไม่อย่างนั้นวันหลังก็ไม่เหลือพื้นที่ในสภาเลย น่าเสียดายเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์มาโดยตลอด ก็เป็นห่วง ขอให้มันท้าทายหน่อย ไม่ใช่เอามุกเดิมๆ มาพูดตลอดเวลา”

 

เศรษฐายืนยันว่าตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทั้งประเทศ ไม่เคยแบ่งแยกพื้นที่ตามคะแนนเสียงที่ได้รับ ผมเชื่อว่าการกระทำของตนเป็นเครื่องประจักษ์ที่ดีอยู่แล้ว ไม่เคยเลือกปฏิบัติ แต่ที่จำไม่ผิดท่านอภิปรายอย่างนี้มาตลอด 20 ปี ตั้งแต่สมัยอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร พูดถึงเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในเรื่องความมั่นคงตลอดเวลา ผมก็อยากจะเปลี่ยนมุมมองใหม่ในเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แน่นอนว่าความมั่นคงเป็นเรื่องสำคัญ

 

แต่เราพยายามมาแล้วก็ยังไม่ได้ผล จึงขอให้ลองเอาเรื่องโอกาสมาเสริมบ้าง ถ้าเกิดมั่งคั่งแล้วคงจะมั่นคงตามขึ้นมาบ้าง ไม่ว่าเป็นเรื่องอาหาร ซอฟต์พาวเวอร์ เรื่องวัฒนธรรมอะไรหลายๆ อย่าง ผมเชื่อว่าการที่ตนลงไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปค้าง 2 คืน 3 วัน ได้มีการทำการค้าขายเชิงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง และจะลงไปอีก ลงไปดูแลจริงๆ แล้วพูดกันไปก็ยาวเปล่าๆ เสียเวลา ไม่เป็นไรมุมมองเราไม่เหมือนกัน ผมมุ่งไปทางการพัฒนา มุ่งไปสู่ความมั่งคั่ง และไม่เคยละเลยถึงความมั่นคง

 

ส่วนที่ สส. ฝ่ายค้านมองว่าการแก้ไขปัญหาภาคใต้ต้องกลับไปแก้ไขอดีต รัฐบาลนี้เราเข้าใจอดีต แต่เรามองไปในอนาคต วิธีมองต่างกันอีกเหมือนกัน ตนเข้าใจว่าท่านหวังดี แต่วันนี้เราเป็นรัฐบาล ขอลองวิธีใหม่ๆ บ้าง เปิดใจให้กว้าง แนวทางการพัฒนาคือเราทำให้ทุกคนเจริญไปด้วยกันกับโอกาส ส่วนเรื่องคนที่ผิดเราก็ต้องเดินหน้าตามกระบวนการ ไม่ได้หยุด ผมมั่นใจว่าภายในสี่ปีนี้ประเทศเราจะเจริญมากกว่าที่รัฐบาลอื่นๆ เคยทำมา

 

“ผมขอให้ความเชื่อมั่นกับประชาชนว่า นายกฯ คนนี้จะไปทุกพื้นที่ จะมองเห็นทุกภูมิภาค และจะทำงานทุกวันเพื่อคนไทยทุกคน ประชาชนเลือกนักการเมืองได้ แต่นักการเมืองเลือกประชาชนไม่ได้ ทุกภารกิจของผมจะพิสูจน์คำพูดในวันนี้เพื่อประชาชนทุกคนครับ”

 

ชวนตอกกลับ ปชป. ไม่ใช่อีแอบแฝงอำนาจไม่ผ่านการเลือกตั้ง

 

ชวนได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มาตอบ แต่ยืนยันว่าไม่เคยพูดตามที่นายกฯ บอกกับนักธุรกิจ ส่วนการเลือกปฏิบัติ ตนยืนยันชัดเจนว่าพรรคไทยรักไทยเลือกปฏิบัติกับประชาชน โดยประกาศชัดเจนว่าจะพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกพรรคไทยรักไทยก่อน จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง ไม่ใช่มุกเดิมหรือมุกเก่า แต่เป็นความจริงที่ปรากฏตลอดไป 

 

“คำตลบตะแลงไม่ยั่งยืน แต่ความจริงยืนหยัดอยู่ เพราะฉะนั้นยืนยันว่าสิ่งที่นายกฯ ไปพูดกระแนะกระแหนผมข้างนอกนั้นไม่จริง ยืนยันว่าผมไม่ใช่คนที่พูดอะไรสับปลับ หรือพูดอะไรที่ไม่รับผิดชอบ ผมไม่กล่าวหาใครที่ไม่เป็นความจริง ผมรู้ว่าคนที่พูดโกหกกับพวกโกงบ้านโกงเมืองคือพวกเดียวกัน” ชวนกล่าว

 

ส่วนเรื่องราคายาง ชวนกล่าวว่า ขอภาวนาให้ราคาดีตลอดไป เป็นไปอย่างที่นายกรัฐมนตรีพูด แต่ที่ให้ความเห็นเพื่อให้เห็นว่าการปราบยางเถื่อนไม่เกี่ยวกับดีมานด์ หรืออุปสงค์อุปทาน และไม่ควรพาดพิงไปถึงพรรค 

 

“พรรคประชาธิปัตย์อยู่มานาน ไม่โกงบ้านโกงเมือง ไม่ใช่อีแอบ เข้ามามีอำนาจโดยไม่ผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ประเด็นอะไรทั้งหลายที่ผมพูดไปผมรับผิดชอบ ผมยืนยันและขอร้องท่านว่าท่านคงมีบาปบุญคุณโทษว่าสิ่งที่ปฏิบัติในอดีตมีผลกระทบต่อภาคใต้ ขอความกรุณาท่านว่ากรุณาชดเชยการเสียโอกาส” ชวนกล่าว

 

ชวนกล่าวอีกว่า งบประมาณในปีที่ผ่านมาไม่มีในส่วนของภาคใต้ ซึ่งตนเคยพูดกับ สส. ตรัง และวันนี้ก็ยืนยันอีกครั้งว่ายังมีโอกาสที่จะเห็นว่าระลึกถึงการเสียโอกาสของพื้นที่ภาคใต้จากการเลือกปฏิบัติในปีงบประมาณถัดไป

 

“ผมไม่ใช่คนที่พูดบ้าน้ำลายรายวัน สัมภาษณ์ไปเรื่อย ขอให้เข้าใจว่าประเด็นที่ผมพูด ถ้าไม่จริงผมจะไม่ทำ ถ้าพูดไปแล้วต้องรับผิดชอบ ขอยืนยันแล้วไม่ได้บอกให้ท่านไปถอนคำพูดอะไร แต่ขอให้ท่านช่วยบอกนักธุรกิจที่ท่านไปพูดกับเขาว่าสิ่งที่ท่านพูดนั้น ไม่ตรงกับความเป็นจริงที่ผมพูด” ชวนกล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising