3 ปีแห่งการเดินทางของ DAY6 ความสำเร็จที่มาพร้อมความพยายามไม่สิ้นสุด

มองเพียงผิวเผิน หลายคนอาจมองว่า DAY6 เป็นวงบอยแบนด์จากประเทศเกาหลีใต้อีกวงหนึ่ง แต่หากได้ลองฟังเพลงของพวกเขาสักเพลงหนึ่ง คำว่า ‘บอยแบนด์’ จากประเทศเกาหลีใต้อาจไม่ใช่คำจำกัดความที่ถูกต้องเท่าไรนัก

แม้จะอยู่ภายใต้สังกัด JYP Entertainment ทว่า DAY6 ไม่ใช่วงบอยแบนด์ไอดอล แต่ DAY6 คือมิวสิกแบนด์วงแรกจากค่าย JYP Entertainment ซึ่งประกอบไปด้วย 5 หนุ่ม ซองจิน (หัวหน้าวงและกีตาร์), เจ (กีตาร์), ยองเค (เบส), วอนพิล (คีย์บอร์ด) และโดอุน (กลอง) เดบิวต์ในวันที่ 7 กันยายน 2015 โดยมีเพลง Congratulations จากมินิอัลบั้ม The Day เป็นเพลงเดบิวต์

สมาชิก 4 คนในวงอย่าง ซองจิน, เจ, ยองเค และวอนพิล เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีสำหรับแฟนๆ ที่ติดตามรายการ WIN: Who Is Next ของ YG Entertainment ซึ่ง JYP Entertainment ได้ส่งเด็กฝึกหัดของค่ายเข้าร่วมแบตเทิลในรายการ ในตอนนั้นพวกเขาเข้าร่วมแบตเทิลในฐานะวง 5LIVE

หลังจากเดบิวต์ได้ 6 เดือน DAY6 ก็ปล่อยมินิอัลบั้มที่ 2 Daydream ออกมาในวันที่ 30 มีนาคม 2016 โดยมีเพลง Letting Go เป็นเพลงไตเติล ซึ่งหนึ่งในความสามารถและความตั้งใจที่ DAY6 ส่งผ่านมาถึง My Day (ชื่อแฟนคลับของวง DAY6) ตั้งแต่มินิอัลบั้มแรกจนถึงปัจจุบันคือการที่สมาชิกในวงต่างมีส่วนร่วมในกระบวนการทำเพลงมาโดยตลอด ทั้งแต่งเนื้อร้อง ทำนอง และเรียบเรียงเพลง

ปี 2017 สมาชิกวง DAY6 ทำโปรเจกต์พิเศษที่มีชื่อว่า Every DAY6 ซึ่งพวกเขาจะปล่อยดิจิทัลซิงเกิลออกมาทุกเดือน เดือนละ 2 เพลง ตลอดระยะเวลา 1 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ Every DAY6 January ไปจนถึง Every DAY6 November และมีอัลบั้มเต็มออกมา 2 ชุดในเดือนมิถุนายนและธันวาคมในชื่อ Sunrise และ Moonrise

นอกจากจะต้องออกซิงเกิลใหม่ทุกเดือนแล้ว DAY6 ยังต้องแสดงคอนเสิร์ตควบคู่ไปทุกเดือน พร้อมกับเดินทางไปจัดงานแฟนมีตติ้งในต่างประเทศ (ซึ่งมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย) ทำให้ในแต่ละเดือน My Day ต่างรอคอยว่าพวกเขาจะปล่อยเพลงแนวไหนออกมาเป็นเพลงต่อไป เนื่องจากเพลงของวง DAY6 นั้นมีหลากหลายแนว ทั้งป๊อปร็อก ซินธ์ป๊อป อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงดนตรีไฮบริดผสมผสานฮิปฮอป ฯลฯ

ซึ่งโปรเจกต์ Every DAY6 ทำให้พวกเขามีเพลงฮิตติดหูอย่าง I Wait, You Were Beautiful, Say Wow, I Smile, Surprise!, I Loved You, I Like You, I Need Somebody ฯลฯ

(จากซ้ายไปขวา) ซองจิน, วอนพิล, ยองเค, เจ และโดอุน

หลังจากทุ่มเททำงานหนักมาตลอด 1 ปี ทำให้ DAY6 มีเพลงกว่า 25 เพลงใน 2 อัลบั้ม บวกกับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ จึงทำให้ DAY6 มีโอกาสจัดเวิลด์ทัวร์ครั้งแรกในชื่อ DAY6 1st World Tour ‘Youth’ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2018 ไปจนถึงมกราคม 2019 ซึ่งพวกเขาจะเดินทางไปแสดงคอนเสิร์ตในประเทศเกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, ไต้หวัน, ไทย, ฟิลิปปินส์, แคนาดา, สหรัฐอเมริกา, อินโดนีเซีย และยุโรป  

ซึ่งเวิลด์ทัวร์นี้เองที่ทำให้ THE STANDARD POP ได้รับโอกาสจาก 4NOLOGUE สัมภาษณ์ 5 หนุ่มวง DAY6 ก่อนที่พวกเขาจะขึ้นแสดงคอนเสิร์ต DAY6 1st World Tour ‘Youth’ In Bangkok ในวันถัดมา

เราเริ่มต้นถามคำถามแรกเกี่ยวกับคอนเสิร์ต DAY6 1st World Tour ‘Youth’ In Bangkok ที่ทำให้เราได้พบกับพวกเขาในวันนี้

DAY6 1st World Tour ‘Youth’ In Bangkok เป็นเวิลด์ทัวร์ครั้งแรกของพวกคุณ คิดว่า My Day ชาวไทยจะมีฟีดแบ็กกับคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างไรบ้าง

เจ: ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะเป็นเวิลด์ทัวร์ครั้งแรกของพวกผม แต่ก่อนหน้านี้พวกเราก็เคยมีโอกาสเจอ My Day ชาวไทยมาแล้ว ผมคิดว่าครั้งนี้ทุกคนจะต้องรู้สึกสนุกไปกับคอนเสิร์ตของพวกเราแน่นอนครับ ซึ่งนั่นทำให้ผมรอคอยที่จะได้เจอทุกคนในฮอลล์มากๆ เลยครับ

คอนเสิร์ตครั้งนี้มีเพลงจากอัลบั้ม Shoot Me: Youth Part 1 มาแสดงด้วย อยากทราบว่าทำไมถึงเลือกเพลง Shoot Me มาเป็นเพลงโปรโมตในอัลบั้มนี้

ยองเค: ที่พวกเราเลือกเพลง Shoot Me มาเป็นเพลงไตเติลในอัลบั้ม Shoot Me: Youth Part 1 เพราะเป็นเพลงที่มีอิมแพ็กมากที่สุดครับ และผมคิดว่าเพลง Shoot Me น่าจะทำให้ทุกคนจำได้ตั้งแต่ฟังครั้งแรก เพราะมันมี energy มากครับ

แล้วถ้าไม่ใช่เพลง Shoot Me พวกคุณอยากแนะนำเพลงไหนในอัลบั้ม Shoot Me: Youth Part 1 ให้กับ My Day ชาวไทย

วอนพิล: ผมจะแนะนำเพลง Somehow ครับ

เห็นว่าซองจินเพิ่งเปลี่ยนลุคใหม่ (เปลี่ยนทรงผม) ฟีดแบ็กจากแฟนๆ เป็นอย่างไรบ้าง เล่าให้ฟังได้ไหม

ซองจิน: เป็นประเด็นฮอตมากเลยนะครับเรื่องนี้ ผมได้รับฟีดแบ็กมาหลายแบบเลยครับ มีทั้งคนที่บอกว่าเหมาะมาก แล้วก็คนที่บอกว่ารอให้ผมรีบไว้ผมยาวอยู่นะ (หัวเราะ) บางคนก็บอกว่าช็อกมาก แต่ส่วนใหญ่ทุกคนจะบอกว่าพอเปลี่ยนทรงผมแล้วดูเฟรชดี เพราะพอทำผมทรงนี้มันทำให้พวกเขาเห็นหน้าผมชัดเจนขึ้นครับ คนที่บอกว่าดูดีก็มีนะครับ (ยิ้ม)

วอนพิลล่ะ ตอนนี้ DAY6 ก็ทำเพลงมาหลายแนวแล้ว มีเพลงแนวไหนที่คุณอยากลองทำอีกบ้างไหม

วอนพิล: (คิด) อืม… ผมอยากลองทำแนวแจ๊ซครับ เพราะผมยังไม่เคยทำเพลงแนวนี้มาก่อน และโดอุนเองก็ชอบเล่นกลองแนวแจ๊ซอยู่แล้วด้วย ผมคิดว่าถ้ามีโอกาสก็อยากลองนะครับ

ถ้าอย่างนั้นในอนาคต My Day ชาวไทยจะมีโอกาสได้เห็นคุณร้องเพลงแบบเต็มเพลงไหม

โดอุน: ตอนนี้ผมรักตำแหน่งมือกลองในวง DAY6 มากๆ เลยครับ (ก้มหน้าตอบและยิ้มเขิน) จริงๆ ผมเคยร้องเพลงที่เกาหลีแล้วนะครับ แต่ที่ไทยผมยังไม่เคย แต่ถ้ามีโอกาสผมก็จะลองและขยันฝึกซ้อมนะครับ (ยิ้ม)

ก่อนถามคำถามต่อไป ขอแสดงความยินดีกับยองเคที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยนะ

DAY6: (ทุกคนปรบมือแสดงความยินดี)

อยากทราบว่ายองเคบริหารเวลาในการเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยอย่างไร และมีเคล็ดลับอะไรเป็นพิเศษไหม

ยองเค: สำหรับศิลปินเกาหลี พวกเราจะมีเวลาสแตนด์บายระหว่างทำงาน ซึ่งผมก็จะอาศัยเวลาในช่วงนั้นไปเข้าเรียนครับ และผมจำได้ว่าช่วงนั้นผมค่อนข้างขยันเรียนมากๆ เลยล่ะครับ

แล้วมีแผนจะเรียนต่อไหม

ยองเค: ตอนนี้ผมยังไม่แน่ใจว่าจะเรียนต่อไหม คงต้องรอให้เวลาผ่านไปก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกทีครับ

ขอถามเจบ้าง เราเห็นศิลปินหลายคนมาทำมิชชันในแชนแนลยูทูบของคุณ (ช่อง JaeSix) และเมมเบอร์ในวงอย่างโดอุนก็ไปออกรายการของคุณมาแล้ว เราจะมีโอกาสได้เห็นสมาชิกในวงคนอื่นๆ ไปทำมิชชันในช่องของคุณไหม และใครน่าจะเป็นรายต่อไป

เจ: ผมพร้อมที่จะเชิญทุกคนมาร่วมในรายการของผมนะครับ แต่เพราะตารางงานในตอนนี้ทำให้พวกเขายังไม่สามารถมาได้ ถ้าอย่างนั้นอาจจะต้องถามสมาชิกคนอื่นแล้วล่ะครับว่าจะมาร่วมในรายการของผมได้เมื่อไร

ซองจิน: ผมคงต้องขอให้เขาเสนอคอนเทนต์มาก่อนนะครับ (หัวเราะ) ต้องดูก่อนว่าเขามีงบให้ผมเท่าไร (หัวเราะ)

นอกจากเครื่องดนตรีที่แต่ละคนเล่นอยู่ ตอนนี้อยากลองเล่นเครื่องดนตรีอะไรบ้างไหม

วอนพิล (คีย์บอร์ด): ผมอยากลองเล่นเบสครับ เพราะผมคิดว่ามันน่าจะช่วยในการทำเพลงได้ครับ

ซองจิน (กีตาร์): ผมก็อยากลองเล่นเบสเหมือนกันครับ

เจ (กีตาร์): ผมอยากลองเล่นเปียโนครับ

ยองเค (เบส): ผมอยากลองเล่นคีย์บอร์ดครับ เพราะผมอยากแต่งเพลงให้ดีมากขึ้นกว่านี้ครับ

โดอุน (กลอง): ผมอยากเรียนกีตาร์ครับ

จากวันแรกที่เดบิวต์จนถึงตอนนี้ มีโมเมนต์อะไรที่พวกคุณรู้สึกประทับใจที่สุดกันบ้าง

วอนพิล: งานแฟนมีตติ้งครั้งล่าสุดครับ (DAY6 First Fan Meeting ‘You Made My Day’ วันที่ 8 กันยายน 2018)

ยองเค: พวกเราทุกคนเห็นด้วยกับวอนพิลนะครับว่าแฟนมีตติ้งครั้งล่าสุดคือโมเมนต์ที่พวกเราประทับใจกันมากจริงๆ และผมขอเพิ่มอีกอันคือตอนที่ผมมีโอกาสได้ไปแสดงที่โรงเรียนของผมครับ

สุดท้ายนี้คิดว่าเพลงใดจากทุกอัลบั้มของพวกคุณที่ตรงกับชีวิตของตัวเองมากที่สุด เพราะอะไร

DAY6: โห… (หัวเราะ)

ยองเค: เพลง Man in a Movie ครับ เป็นเพลงที่พวกเราปล่อยออกมาในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ตอนที่เขียนเพลงนี้ผมรู้สึกว่าพระเอกที่ต้องแสดงตามบทบาทที่ได้รับในภาพยนตร์คงรู้สึกว่านั่นไม่ใช่ชีวิตจริงของเขา แต่ช่วงนี้ผมกลับรู้สึกว่าการที่ผมยืนอยู่บนเวที การที่ผมได้แสดงบนเวที มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับตัวเองกำลังแสดงอยู่ในหนังเลยครับ เลยรู้สึกว่าเพลง Man in a Movie ตรงกับตัวผมครับ

ซองจิน: ของผมคือเพลง Dance Dance ครับ เพราะตั้งแต่เดบิวต์มาผมรู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้น กล้ามากขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น เหมือนกับเพลงนี้ครับ ผมรู้สึกว่าผม Dance Dance ในทุกๆ โมเมนต์จนมาถึงจุดนี้ครับ

เจ: เพลง Freely ครับ เพราะทุกครั้งที่ผมมีโอกาสได้แสดงบนเวที ผมจะรู้สึกคุ้นเคยกับเวทีมากขึ้น และผมรู้สึกว่าตัวผมอิสระมากขึ้น พอเป็นแบบนั้นมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกสนุกสนานไปพร้อมๆ กับแฟนคลับไปโดยธรรมชาติเลยครับ ทำให้ผมรู้สึกสนุกมาก

วอนพิล: เพลง Hi Hello ครับ ผมคิดว่าทุกครั้งหลังจากที่เล่นเพลงนี้ในคอนเสิร์ต พอกลับมาคิดดู ผมคิดว่าเพลงนี้มันสร้างโมเมนต์พิเศษให้กับผมมากๆ ทำให้ผมมีความทรงจำที่สวยงามไปพร้อมๆ กับแฟนคลับครับ

โดอุน: ของผมคือเพลง Whatever! ครับ ทุกครั้งที่ทุกคนมีโมเมนต์เครียดๆ ความหมายของเพลงนี้มันทำให้ผมคิดว่าต่อให้เจอเรื่องเครียดก็ไม่เป็นไร ผมสามารถคลายเครียดได้ครับ

ถึงแม้ว่าเราจะได้พูดคุยกับ 5 หนุ่มวง DAY6 ในระยะเวลาสั้นๆ แต่พวกเขาก็แสดงให้เราเห็นถึงตัวตนของแต่ละคนได้อย่างชัดเจน วอนพิลยังคงนั่งวางมือบนขาและตอบคำถามอย่างตั้งใจ ซองจินยังคงสไตล์หนุ่มปูซานอารมณ์ดีที่มีความสนุกสนานแฝงมากับคำตอบทุกครั้ง เจที่ยังคงความน่ารักสดใสสไตล์อเมริกันบอยเอาไว้ได้ตลอดการสัมภาษณ์ ยองเคที่เสน่ห์เหลือล้นและตั้งใจในทุกเรื่อง และโดอุน น้องเล็กที่ยังคงมีความตื่นเต้นและเขินอายกับทุกคำถามที่ได้รับ

ซึ่งในวันถัดมาพวกเขาได้ระเบิดความมันในคอนเสิร์ต DAY6 1st World Tour ‘Youth’ In Bangkok และทำให้ My Day ชาวไทยได้ปลดปล่อยพลังวัยรุ่นไปพร้อมกันอย่างสนุกสนานและประทับใจ

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์