×

Daily Dose of Sunshine ซีรีส์สุขภาพจิตน้ำดีที่ต้องมีสักตอนโดนใจเราเข้าอย่างจัง

24.11.2023
  • LOADING...
Daily Dose of Sunshine

หากมีคนแนะนำให้ดูซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องสุขภาพจิตล้วนๆ หลายคนน่าจะเบ้ปาก เพราะคงนึกไม่ออกจะเล่าเรื่องนี้ให้สนุกได้อย่างไร แต่สำหรับ Daily Dose of Sunshine คือการนำเรื่องเครียดๆ มาเล่าอย่างผ่อนคลาย แฝงความเห็นอกเห็นใจ พร้อมเปิดโอกาสให้คนดูได้สำรวจว่าละเลยอารมณ์ความรู้สึกจนกลายเป็นปัญหาไปด้วยหรือเปล่า

 

 

ปัญหาสุขภาพจิตกำลังเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก มีประชากรวัยผู้ใหญ่ราว 5% ที่ต้องต่อสู้กับภาวะซึมเศร้า ส่วนในเมืองไทยก็มีข้อมูลของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข โดยคลินิกจิตเวชและยาเสพติด ว่าในปี 2565 มีผู้เข้ารับการรักษาสุขภาพจิตแบบผู้ป่วยนอกถึง 22,481 ราย ส่วนใหญ่จากอาการโรคจิต ซึมเศร้า วิตกกังวล ไม่นับรวมคนที่ไม่กล้ายอมรับเพราะกลัวถูกตีตราว่าป่วยทางจิต ในขณะที่เกาหลีใต้ยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุดในหมู่ประเทศร่ำรวย 38 ประเทศสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD

 

Daily Dose of Sunshine จึงเป็นซีรีส์เกาหลีที่ว่าด้วยการจัดการกับสุขภาพครอบคลุมทุกแง่มุม และเตือนเราว่าสุขภาพจิตเกิดขึ้นได้กับทุกคนได้ตลอดเวลา อย่างที่หัวหน้าพยาบาลซงฮโยจิน ( อีจุงอึน) หนึ่งในตัวละครของเรื่องกล่าวไว้ “มันคือความเจ็บป่วย ไม่ใช่ความผิดบาป มันเป็นความผิดปกติที่ไม่อาจคาดเดาได้ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา”

 

 

Daily Dose of Sunshine ว่าด้วยเรื่องราวของ จองดาอึน (พัคโบยอง) พยาบาลผู้สดใสจากแผนกอายุรกรรมที่ถูกสั่งย้ายไปอยู่ที่แผนกจิตเวช ทำให้เธอต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตที่ทำให้ผู้ชมได้เดินทางไปพร้อมๆ กับเธอ ผ่านเนื้อหา 12 ตอน ทั้งเรื่องราวของโรคตื่นตระหนกวิตกกังวล อาการซึมเศร้า ทำร้ายตัวเอง และการฆ่าตัวตาย อัดแน่นไปด้วยสาระบทเรียนชีวิตที่เราทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเล่าในบรรยากาศที่สดใสพร้อมๆ กับเลิฟไลน์น่ารักๆ แบบที่หาดูไม่ค่อยได้ในซีรีส์จิตวิทยาที่ผ่านๆ มา

 

 

ความดีงามของ Daily Dose of Sunshine คือการเชื่อมโยงคนดูไปกับตัวละครผู้มีชีวิตแบบปุถุชนคนธรรมดาที่ต้องเผชิญปัญหาสุขภาพจิตในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นลูกสาวที่ถูกแม่บงการชีวิตให้สมบูรณ์แบบแต่ไม่ใช่ชีวิตที่เธออยากจะเป็น พนักงานออฟฟิศที่ยุ่งตลอดเวลาจนมีปัญหาทางใจ แม่ผู้ทำทุกอย่างเพื่อลูกจนลืมสำรวจจิตใจตัวเอง ฯลฯ เรียกว่าอย่างน้อยๆ ต้องมีสักหนึ่งตอนที่โดนเราเข้าอย่างจัง 

 

“เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองพังไปตั้งแต่ตอนไหน แม้ว่ารอบตัวจะมีไฟสีเหลืองคอยเตือนอยู่เต็มไปหมด แต่เธอก็มองไม่เห็น เธอมองไปที่ความสุขของลูก แต่ลืมว่าเราจะทำให้คนอื่นมีความสุขได้อย่างไรถ้าเราเองยังไม่มีความสุข”

 

 

ซึ่งนอกจากจะพูดถึงปัญหาก็ยังเชื่อมโยงไปถึงทัศนคติของผู้ป่วย และมอบมุมมองที่แตกต่างต่อสถานการณ์สุขภาพจิตกับคนดู 

 

“มันน่าอายนี่ครับ มันไม่ใช่เจ็บป่วยที่ร่างกาย แต่เป็นความเจ็บป่วยที่จิตใจ ผมดูเป็นคนอ่อนแอ แค่จิตใจตัวเองยังควบคุมไม่ได้นี่ครับ” ซงยูชาน (จางดงยุน) ผู้ต้องเผชิญกับปัญหาอาการตื่นตระหนกบอกถึงความในใจ

 

“ลองนึกภาพอารมณ์เป็นกล้ามเนื้อ เรายังต้องออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อแข็งแรง เราก็ต้องฝึกอารมณ์เหมือนกัน” หนึ่งในคุณหมอจิตเวชในเรื่องให้คำแนะนำ ซึ่งทำให้คนดูอย่างเราได้ฉุกคิดอยู่เหมือนกัน

 

 

อีกหนึ่งประเด็นที่ซีรีส์ต้องการเน้นย้ำคือ เมื่อผู้ป่วยจิตเวชต้องกลับเข้าสู่สังคม พวกเขาต้องเผชิญกับอะไรบ้าง นี่คือปัญหาใหญ่ที่ไม่ถูกพูดถึงมาโดยตลอด รวมทั้งการเปลี่ยนมุมมองต่อผู้ป่วยว่าต้องใช้ความรุนแรง คลุ้มคลั่ง ให้มีความเป็นมนุษย์ และยิ่งสร้างความเข้าใจด้วยภาพสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ให้คนดูได้เข้าไปอยู่ในโลกเดียวกับพวกเขา อีกอย่างที่ต้องชื่นชมคืองานสร้าง ไม่ว่าจะเป็นสี แสง และบรรยากาศในแผนกจิตเวชที่แลดูเต็มไปด้วยความหวัง ไม่ได้หมองหม่น อึมครึมแบบที่เคยเข้าใจกัน 

 

เรียกได้ว่า Daily Dose of Sunshine นำเสนอเรื่องของสุขภาพจิตอย่างเป็นจริงและเข้าใจ โดยเฉพาะในตอนจบของทุกๆ ตอนก็ไม่ได้สิ้นสุดอย่างมีความสุขตลอดไป แต่ฉายภาพชีวิตที่ค่อยๆ ดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะความเจ็บป่วยทางจิตไม่ได้มีบาดแผลบนร่างกายที่มองเห็นได้ แต่ต้องให้โอกาสและความหวังเพื่อสักวันจะได้กลับมามองโลกสดใสในทุกเช้าวันใหม่แบบที่พวกเขาเคยเป็น 

 

ภาพ: Netflix

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising